TLI เกมเขย่า (เม่า)

หุ้นทุกตัวต้องมี “ผู้ดูแลสภาพคล่อง” หรือหากใช้ภาษาแบบที่นักลงทุนเข้าใจกันง่าย ๆ นั่นคือ “เจ้ามือ” นี่คือเรื่องจริงที่ปฏิเสธกันไม่ได้


หุ้นทุกตัวต้องมี ผู้ดูแลสภาพคล่อง หรือ Market Maker

หรือหากใช้ภาษาแบบที่นักลงทุนเข้าใจกันง่าย ๆ นั่นคือ “เจ้ามือ”

นี่คือเรื่องจริงที่ปฏิเสธกันไม่ได้

และย้ำกันอีกครั้งว่า หุ้นตัวไหนไม่มีเจ้ามือ ราคาแทบจะไม่วิ่ง เพราะรายย่อยเล่นกันเอง ราคาหุ้นจะดึงกันไปมาเพียง 1-2 ช่องระหว่างฝั่ง Bid กับ Offer

กลับมาที่หุ้น TLI หรือ “ไทยประกันชีวิต”

วันนี้ต้องกลับมาเขียนหุ้นประกันชีวิตตัวนี้อีกครั้ง

หลังจากราคาหุ้นถูกเจ้ามือ “งัดราคา” ขึ้นมา จากระดับ 14.50 บาท

และดันขึ้นมาเรื่อย ๆ จนแตะ 16.00 บาท ทว่าล่าสุด จนแล้วจนรอดยังไม่สามารถผ่านได้

ก่อนที่จะไปถึงคำถามและคำตอบว่า ทำไมราคายังไม่ผ่าน 16.00 บาท สักที

ขอมาตั้งคำถามแบบถามเอง ตอบเองก่อนว่า แล้วใครล่ะคือผู้ดูแลสภาพคล่อง หรือเจ้ามือ หุ้น TLI กันล่ะ

เคยเขียนไปก่อนหน้านี้แล้วว่า อาจจะเป็น กลุ่มนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ หรือไม่ก็เป็นกองทุนประเภทไพรเวทฟันด์ หรืออาจจะเป็นกลุ่มนักลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ… ?

เป็นประเด็นค่อนข้างที่ยากต่อการคาดเดา

แต่ที่แน่ ๆ กลุ่มนักลงทุนนี้ต้องมีเงินบนหน้าตักเป็นหลัก “หมื่นล้านบาท” (มีแต่กองทุนต่างประเทศเท่านั้น)

ไม่เช่นนั้นพาหุ้นบิ๊กแคปขนาด 1.83 แสนล้านบาท กลับขึ้นมาที่ราคาบริเวณไอพีโอไม่ได้

ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งบอกว่า ราคาที่ลงมาก่อนหน้านี้ระดับ 14.50 บาท ถือว่า “ค่อนข้างถูก” ทำให้มีกลุ่มนักลงทุนสนใจกันมากขึ้น

เมื่อไปถามนักลงทุนรายใหญ่ที่มีมูลค่าพอร์ตเกือบหมื่นล้านบาทบอกว่า “น่าจะเป็นกองทุนต่างประเทศ”

ทว่า นักลงทุนรายใหญ่คนดังกล่าวยอมรับว่า ราคาที่บริเวณต่ำกว่า 15.00 บาทลงมา ใครเข้าไปซื้อตอนนั้นถือว่า “คุ้ม”

“หุ้นตัวนี้กำไรต่อปีระดับหมื่นล้านบาท ไม่ได้มีปัญหาเรื่องพื้นฐาน แต่น่าจะเป็นปัญหาทางเทคนิคของราคาหุ้น”

นี่เป็นความเห็นของนักงทุนรายใหญ่

อาจจะมีคำถามต่อว่า เมื่อเจ้ามืองัดราคากลับขึ้นมาแล้ว แล้วทำไมไม่ดันผ่าน หรือให้มายืนเหนือ 16.00 บาท

ประเด็นนี้เคยเขียนบอกไปแล้วว่า นักลงทุนที่ติดหุ้น TLI ในราคาไอพีโอ (16.00 บาท) น่าจะยังมีอีกเยอะพอสมควร

คือ เมื่อราคาขึ้นมา 16.10–16.30 บาท

จะพบว่ามีแรงขายออกมาอย่างหนักมาก หรือ “โดนขวางอยู่” (ทุนหลายคนอยู่ตรงนี้)

ทำให้ราคาหุ้นไปต่อไม่ได้

นักลงทุนที่พาหุ้นขึ้นมา ก็คงดันต่อไปไม่ไหว แม้จะมีแรงซื้อจากรายย่อยที่เข้ามาเก็งกำไรบ้าง

ทว่า แรงขายจาก (น่าจะเป็นรายย่อย) ที่นักลงทุนที่ได้หุ้นไอพีโอมา ยังคงสาดหุ้นกันออกมาไม่หยุด และอาจจะมีนักลงทุนสถาบัน หรือกองทุน (ในประเทศ) ดักชิงขายกันออกมาด้วย (มั้ง)

ราคาหุ้นเลยวนเวียนอยู่ที่ 15.50–16.20 บาท มาพักใหญ่

ส่วนราคาหุ้นที่ลงมาบริเวณ 15.50-15.60 บาท

เป็นเรื่องปกติเมื่อไม่ผ่านแนวต้านใหญ่ จะย่อตัวลงมาแบบนี้

หรืออีกนัยสำคัญหนึ่ง คือ เจ้ามือดึงลงมา เพื่อเป็นการ “ทุบขู่” บีบให้คนถือหุ้นอยู่เร่งขายออกมาหรือ “สลัดเม่า” นั่นแหละ

ว่ากันว่า หากราคาจะดันผ่าน 16.00 บาท ได้

คงต้องรอให้หุ้น “เบา” มากกว่านี้

หรืออาจจะต้องเขย่ากันอีกหลายรอบพอสมควร

สำหรับ TLI จะมีข่าวเชิงบวกที่รออยู่คือ

1.ผลประกอบการไตรมาส 3/2565

2.จะได้เข้าคำนวณดัชนี MSCI Index ที่เป็นดัชนีอ้างอิงของบริษัท Morgan Stanley Capital International (MSCI) และเข้าคำนวณใน FTSE All World Index ในรอบการ Rebalance เดือน พ.ย. 65

และ 3.การเข้า SET50 ในปี 2566

ในช่วงเดือน ตุลาคมนี้ หรือก่อนที่ MSCI กับ FTSE ประกาศออกมา

น่าจะมีแรงเข้ามาเก็งกำไรกันอีกพอสมควร

แต่ก็ต้องย้อนกลับมาดูอีกว่าบรรดา “เม่า” ยอมคลายหุ้นหรือยกธงขาวกันมากแค่ไหนแล้ว

Back to top button