DMT เริ่มจะกลับมา

คุณค่าบริษัท

นับตั้งแต่บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ มาตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค. 2564 ก็สร้างความน่าผิดหวังให้กับนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากวันแรกที่เข้าเทรด ปิดต่ำจองที่ 15.90 บาท จากราคาไอพีโอที่ 16.00 บาท

ในแง่ของผลประกอบการก็ไม่สู้ดีนัก ปี 2564 มีรายได้รวมเหลือแค่ 1,212 ล้านบาท ลดลงจากปี 2563 ที่เคยทำได้ 2,063 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ 404 ล้านบาท ลดลงจากปี 2563 ที่เคยทำได้ 791 ล้านบาท ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะในรอบปีที่ผ่านมา DMT ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิดไปเต็ม ๆ จากการที่คนใช้ชีวิตนอกบ้านน้อยลง และหันมาทำงานที่บ้านกันมากขึ้น ทำให้รถวิ่งบนทางด่วนน้อยลง ส่งผลให้รายได้จากทางด่วนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

แต่เมื่อโควิดคลี่คลาย ก็เห็นการฟื้นตัวของ DMT จากผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกที่มีกำไรสุทธิ 330 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 206 ล้านบาท โดยประเมินว่าแนวโน้มปริมาณการจราจรและรายได้ค่าผ่านทางในครึ่งปีหลังน่าจะปรับเพิ่มสูงขึ้น 40% จากช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากมีการเปิดภาคเรียน Onsite และการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยในเดือน ส.ค. มีปริมาณการจราจรของทางยกระดับดอนเมืองเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 90,000 คันต่อวัน เทียบจากครึ่งปีแรกอยู่ที่ 74,000 คันต่อวัน

ทำให้ผู้บริหารคาดว่าแผนการดำเนินงานปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีรายได้ค่าผ่านทางอยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท หรือคิดเป็นรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 5.2 ล้านบาทต่อวัน เพิ่มขึ้นกว่า 50% จากปีก่อนที่มีรายได้ค่าผ่านทางอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท เนื่องจากปริมาณการจราจรเพิ่มขึ้น

ขณะที่ DMT ยังมีสตอรี่เชิงบวกจากการเตรียมเข้าร่วมประมูล 3 โครงการ มูลค่ารวม 102,443 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต-บางปะอิน (M5) ระยะทาง 22 กิโลเมตร (กม.) มูลค่า 39,956 ล้านบาท

2.โครงการมอเตอร์เวย์ สายบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว (M82) ระยะทาง 25 กม. มูลค่า 48,310 ล้านบาท 3.โครงการทางพิเศษ สายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ระยะทาง 4 กม. มูลค่า 14,670 ล้านบาท โดยคาดทั้ง 3 โครงการจะทยอยเปิดประกวดราคาได้ทั้งหมดภายในปีนี้ ก็ต้องจับตาดูว่า DMT จะมือขึ้นคว้างานใหม่ได้หรือไม่

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น DMT ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 23.47 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 18.01 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาด อย่างไรก็ตามถ้าไปดู P/BV ที่ระดับ 1.29 เท่า ก็ถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ปัจจุบันซื้อขาย P/BV เฉลี่ยที่ 1.63 เท่า

…

รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่

1. บริษัท ธานินทร์ โฮลดิ้ง จำกัด 303,388,022 หุ้น 25.68%
2. กระทรวงการคลัง 261,350,000 หุ้น 22.13%
3. UBS AG SINGAPORE BRANCH 137,643,115 หุ้น 11.65%
4. ร.ต.สมบัติ พานิชชีวะ 120,703,092 หุ้น 10.22%
5. บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด 30,452,000 หุ้น 2.58%

รายชื่อกรรมการ

1. นายสมบัติ พานิชชีวะ ประธานคณะกรรมการ
2. นายเรวัต ฉ่ำเฉลิม ประธานกรรมการบริหาร, รองประธานกรรมการ
3. นายธานินทร์ พานิชชีวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ
4. นายศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ, กรรมการ
5. ม.ล.ธนะวิสุทธิ์ วิสุทธิ กรรมการ
6. นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ กรรมการ
7. นายชาญวิทย์ อมตะมาทุชาติ กรรมการ
8. นายประกอบ ตันติยาพงศ์ กรรมการอิสระ, ประธานกรรมการตรวจสอบ
9. นายสมนึก ชัยเดชสุริยะ กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
10. นายวิชญะ เครืองาม กรรมการอิสระ
11. นายจุมพล ริมสาคร กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
12. พลเอกสืบสันต์ ทรรทรานนท์ กรรมการอิสระ