หุ้นฟอร์มสวย..สวนตลาดดิ่ง

วันนี้เป็นอีกครั้งที่ตลาดหุ้นทั่วโลกแพนิกเกี่ยวกับการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ตลาดหุ้นทั่วโลกรับรู้กันมาพักใหญ่ แต่คล้อยหลังตลาดหุ้นทั่วโลกก็มักเด้งแรง พร้อมกับคำอธิบายคลายกังวลในระดับหนึ่ง ต่อจากนั้นก็จะกลับมาแพนิกใหม่เมื่อเห็นตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ ซึ่งเป็นชนวนเหตุที่ทำให้นักลงทุนสถาบันกระหน่ำขายหุ้นแบบไม่ดูดำดูดี และเรื่องดังกล่าวก็วนลูปแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เจ้าค่ะ

งานนี้บอกได้ทันทีว่า นี่คือมันนี่เกมที่นักเล่นต้องอ่านเกมไปเรื่อย ๆ และเป็นจังหวะที่นักลงทุนต้องหาโอกาสซื้อสวนเมื่อเห็นว่า ผลกระทบดังกล่าวไม่รุนแรงเหมือนที่ทุกคนหวาดผวา แต่ถึงกระนั้นก็อยากให้นักเล่นมองจากความเป็นจริงที่ว่า เฟดยังเหลือการประชุมอีก 3 นัด ไล่ตั้งแต่ ก.ย. พ.ย. และ ธ.ค. ซึ่งเดือนนี้มีการฟันธงลงไปแล้วว่า มีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นพรวดเดียว 1% นะนายจ๋า

ผลดังกล่าวทำให้ดอกเบี้ยนโยบายจะขึ้นไปแตะระดับ 3.5% ส่วนอีก 2 นัดที่เหลือมีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นอีกครั้งละ 0.50% และเมื่อรวมเบ็ดเสร็จสิ้นปีดอกเบี้ยจะขึ้นไปอยู่แถว 4.50% ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบโดยตรงกับตลาดหุ้นทั่วโลก และจะทำให้เกิดเหตุการณ์เงินไหลออกจากตลาดหุ้นครั้งใหญ่ แต่สุดท้าย “โมนิก้า” ก็ยังไม่เห็นเงินไหลออกสักที จึงเชื่ออย่างสนิทใจว่า สภาพคล่องของเม็ดเงินในตลาดโลกยังมีเยอะ เลยไม่จำเป็นต้องดึงเงินออกจากตลาดหุ้นทั้งหมดจ้า!

ฉะนั้นการที่ดัชนีไทยรูดลงไปถึง 1,642.53 จุด แต่สุดท้ายตีกลับขึ้นมาปิดที่ 1,656.58 จุด ลบไป 4.51 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.26 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ทำให้รู้ว่า ตลาดหุ้นไทยต้องเผชิญกับเรื่องพรรค์นี้อีกสองยก และตัวเร่งสำคัญก็อยู่ที่เรื่องเงินเฟ้ออเมริกาจะลดลงไหม? เดี๊ยนถึงมองจังหวะนี้เป็นโอกาสของการเล่นมากกว่าอุปสรรค เพราะตามความคิดพื้นฐานทุกอย่างน่าจะดีขึ้นเป็นลำดับพะยะค่ะ

เหมือนกับสถานการณ์ที่ดีขึ้นของหุ้น TLI หลังจากผ่านช่วงย่ำแย่ของชีวิต ก็เป็นการสะท้อนภาพให้เห็นว่า กองทุนไม่ติดใจเรื่องราวเมื่อครั้งก่อน และเริ่มมองถึงเรื่องดี ๆ ในภายภาคหน้ามากขึ้น ผสานกับได้แรงหนุนดอกเบี้ยขาขึ้นเป็นตัวเร่ง วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 16.30 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 2.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.48 พันล้านบาท มันเหมือนเป็นการเปิดประตูเพื่อให้หุ้นไปต่อแบบสวย ๆ นะจ๊ะ

คล้ายกับการไต่เพดานบินของหุ้น TRUE ก็มาจากความเชื่อที่ว่า สุดท้ายดีลควบรวมก็ผ่านแน่นอน เพราะคนที่ต้องทำหน้าที่อย่าง กสทช. ดันเกิดอาการฝ่อขึ้นมาดื้อ ๆ และไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง (สังคมส่วนใหญ่มองแบบนี้) จึงไม่มีอะไรมาขวางดีลครั้งนี้ได้อีกแล้ว พร้อมกันนั้นก็มีการวาดฝันถึงกำไรในอนาคตจะแจ่มเบอร์ใหญ่ วานนี้จึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 5 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 1.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.51 พันล้านบาทไงละคะ

ประเด็นนี้ทำให้ “โมนิก้า” ต้องย้อนกลับมาดูหุ้นเดินเรืออย่าง PSL แบบกุลีกุจอ เพราะเมื่อดูจากดัชนีค่าระวางเรือ BDI ขึ้นแรง น่าจะทำให้นักเล่นหวนกลับเข้ามาเล่นเก็งกำไรอีกครั้ง และการที่หุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 15.60 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 1.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 365 ล้านบาท มันทำให้เชื่อว่า หุ้นมีโอกาสวิ่งกลับไปหาฐานเก่าก่อนจะลงแรงบริเวณ 17 บาทอีกครั้ง จึงกลายเป็นช็อตที่น่าตามไปดูเหลือเกินจ้า!

เรื่องดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” เลือกที่จะเม้าท์ถึงหุ้น TEAMG เพื่อบอกเล่าถึงการถอนตัวของปูนใหญ่ มันเป็นเรื่องที่ชี้ให้เห็นว่า ปูนใหญ่ไม่เอาจริง! เพราะตั้งแต่เข้ามาก็ไม่เห็นอะไรที่เป็นน้ำเป็นเนื้อสักอย่าง ทั้งที่มีการส่งคนของตัวเองเข้าไปนั่งเป็นบอร์ด เดี๊ยนถึงมองว่า การเข้ามารวบหุ้นของ “เฮียมังกร” น่าจะทำให้การบริหารงานคล่องตัวขึ้นกว่าเดิม และการที่หุ้นยืนปิดที่ 9.85 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 8.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 452 ล้านบาท น่าจะเป็นการวิ่งรับข่าวดีบางอย่างกระมัง!

คล้ายกับสถานการณ์ของ PSG ซึ่งทุกคนรู้อยู่แล้วว่า นี่คือหุ้นเทิร์นอะราวด์ตัวพ่อที่เล่นกันได้ยาว ๆ และงบไตรมาส 3 ก็คงมีกำไรอีกตามเคย ส่วนจะมากหรือน้อยก็เป็นอีกเรื่อง ขณะที่ไตรมาส 4 น่าจะเป็นช่วงที่โชว์ผลงานได้อย่างเต็มที่ (บริษัทส่วนใหญ่ทำผลงานได้ดีทั้งนั้น) “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 1.48 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 193 ล้านบาท คือจังหวะสะสมพลังเพื่อกระชากทะลุแนวต้าน 1.50 บาท ต่อจากนั้นน่าจะขึ้นไปสร้างฐานใหม่บริเวณ 1.70 บาท (สัญญาณเทคนิคว่าไว้อย่างนั้น)..จริงหรือไม่? ก็ต้องดูกันต่อไป เพราะเดี๊ยนไม่ได้ตรัสรู้ไปทุกอย่าง..อิอิอิ