พาราสาวะถี
ยังคงความเป็นจอมหลักการแผ่นเสียงตกร่องไม่มีเปลี่ยนแปลง ทั้งที่ฉายานี้สื่อมวลชนเคยตั้งให้มานานกว่า 20 ปีแล้ว สำหรับ ชวน หลีกภัย ประธาน ส.ส.
ยังคงความเป็นจอมหลักการแผ่นเสียงตกร่องไม่มีเปลี่ยนแปลง ทั้งที่ฉายานี้สื่อมวลชนเคยตั้งให้มานานกว่า 20 ปีแล้ว สำหรับ ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ล่าสุดกับประโยคที่ว่า ภาคใต้ไม่มีซื้อเสียง พร้อมเตือน ส.ส.และสมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์ที่คิดจะย้ายคอกให้ระวัง เพราะพรรคเหล่านั้นเป็นพรรคเฉพาะกิจ ในทางส่วนตัวคนส่วนใหญ่อาจเห็นด้วยกับความคิดเช่นนี้ แต่ในความเป็นจริงเป็นไปอย่างที่ท่านผู้อาวุโสพูดหรือไม่ เป็นที่รู้กันอยู่แล้ว
ข่าวคราวที่ประธานสภาฯ ติดโควิด ก็เพราะการเดินทางไปเยี่ยมอดีต ส.ส.ของพรรคพร้อมน้องชายที่ถูกศาลตัดสินให้จำคุกเนื่องจากการทุจริตเลือกตั้งไม่ใช่หรือ แล้วที่ท่านอ้างหลักการอันสวยหรูนั้นมันหมายถึงอะไร การเมืองสไตล์โบราณแบบนี้ควรเลิกได้แล้ว ประเภทเอาดีเข้าตัวโยนชั่วให้คนอื่น ใครย้ายพรรคตีจากเป็นคนเลวหมด ส่วนคนเลวไม่ว่าจะมาจากไหนถ้าย้ายข้างมาอยู่กับตัวเองก็ได้รับการฟอกขาวให้บริสุทธิ์ผุดผ่องทั้งหมด ที่ต้องเป็นฝ่ายค้านดักดานกว่า 20 ปีนั้นเพราะอะไร
มีบทสรุปจากบรรดาแกนนำของพรรคเก่าแก่อยู่แล้ว สาเหตุของความพ่ายแพ้ไม่ใช่เรื่องคู่แข่งซื้อเสียง แต่เป็นความคิดความอ่าน วิสัยทัศน์ในการจะนำพาประเทศชาติก้าวไปข้างหน้า ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้อยู่ดี กินดีต่างหากเป็นปัจจัยให้ประชาชนตัดสินใจว่าจะเลือกพรรคการเมืองไหนเข้าไปบริหารประเทศ การพูดที่อ้างว่าภาคของตนไม่มีการซื้อเสียง มันก็เหมือนการดูถูกคนภาคอื่นไปด้วย ทั้งที่ความจริง ยุคสมัยนี้แล้วคนคิดเองได้ ที่จ่ายไปแล้วไม่ได้รับเลือกก็มีถมเถ และน่าจะส่วนมากเสียด้วยซ้ำไป
เหมือนอย่างกรณีของพรรคอนาคตใหม่ ที่วันนี้กลายมาเป็นก้าวไกล ถามว่ามีการใช้เงินซื้อเสียงเข้ามาหรือไม่ ชัยชนะที่ท่วมท้นจากการเลือกตั้งหนก่อนมาจากอะไร ตรงนี้เป็นการบ้านข้อใหญ่ของคณะกรรมการบริหารพรรคเก่าแก่ต้องตีโจทย์ให้แตก ถ้าเอาแต่ฟังคำของผู้เฒ่าเจ้าลัทธิที่มีอิทธิพลเหนือทุกคนเพียงอย่างเดียว ก็จะเข้าอีหรอบเดิมหรืออาจจะหนักข้อกว่าการเลือกตั้งหนที่ผ่านมาเสียด้วยซ้ำ กระสุนสำหรับพรรคการเมืองและนักเลือกตั้งสำคัญและจำเป็น แต่จะใช้แบบไหน เพื่อเป้าหมายอะไรนั่นอีกเรื่อง
ตรงนี้เป็นความจริง อนาคตใหม่ของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จบเห่เพราะการยืมเงินของหัวหน้าพรรค ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่าการทำพรรคเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งต้องใช้เงิน แต่ไม่ใช่ใช้เพื่อการซื้อเสียง เพราะทุกอย่างมีต้นทุน ทั้งทีมงาน ป้ายหาเสียง อื่น ๆ จิปาถะ มิเช่นนั้น กกต.คงไม่ออกคำเตือน ตั้งแต่ 24 กันยายนนี้เป็นต้นไป จะเข้าสู่กรอบเวลา 180 วัน ตามกฎหมายเลือกตั้งที่พรรคการเมืองและนักการเมืองต้องระมัดระวังทั้งการขึ้นป้ายหาเสียง หรือการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่มีการใช้เงิน จะต้องถูกนำไปคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งครั้งหน้าทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะไปว่ากันถึงตรงนั้น ย้อนกลับไปในประเด็นที่ชวนพูดถึงการซื้อเสียงอันเป็นจุดยืนหลักที่เจ้าตัวประกาศมาโดยตลอดทุกเทศกาลที่มีการเลือกตั้ง ซึ่งไม่มีใครเถียงว่าเป็นเรื่องดี แต่สิ่งหนึ่งที่เพิ่งผ่านพ้นไป คือ วาระครบ 16 ปีรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ในฐานะคนที่อ้างตัวว่ายึดมั่นในระบบรัฐสภา เดินตามครรลองของระบอบประชาธิปไตยโดยเคร่งครัด ไม่ได้รู้สึกรู้สากับการที่บ้านเมืองถูกตัดตอนความเจริญจากเรื่องแบบนี้บ้างเลยหรือ
ความจริงไม่ใช่แค่รัฐประหารเพื่อล้ม ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น หนล่าสุดที่ล้มรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คนของพรรคเก่าแก่ก็เข้าไปมีบทบาทอย่างสำคัญในการสมคบคิดกับคณะรัฐประหาร จนเกิดเป็นขบวนการสืบทอดอำนาจ กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้เป็นรัฐบาลสมใจด้วยการอุ้มสมให้ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจกลับเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี และอยู่ร่วมขบวนการมาจนถึงทุกวันนี้ แบบนี้ถามว่าเป็นแบบอย่างที่คนรุ่นใหม่จะต้องจดจำ และทำตามอย่างนั้นหรือ
ไม่ว่าการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 หรือ 22 พฤษภาคม 2557 ล้วนแต่อ้างเรื่องการสร้างความปรองดอง ทำให้คนในประเทศเกิดความสามัคคี ถามว่าจนถึงวันนี้เป็นไปตามที่สร้างวาทกรรมกันขึ้นมาหรือไม่ เห็นได้ชัดจากพรรคการเมือง โดยเฉพาะกับพรรคของจอมหลักการกับเพื่อนร่วมรัฐบาลอย่างภูมิใจไทย ที่จับคู่วิวาทะกันเวลานี้ และน่าจะเป็นแบบนี้ไปจนถึงการเลือกตั้งครั้งใหม่ ประเทศชาติได้ประโยชน์จากการแย่งชิงอำนาจกันตรงไหน
ขณะเดียวกัน ข้ออ้างของการยึดอำนาจที่บอกว่า จะนำพาประเทศให้เดินหน้าไปสู่อนาคตที่ดีกว่า ระยะเวลา 16 ปีที่ผ่านมา จนกระทั่งอีกกว่า 8 ปีภายใต้อุ้งมือของขบวนการสืบทอดอำนาจ ประเทศมีอนาคต ตามที่กล่าวอ้างกันหรือไม่ มากไปกว่านั้น ถ้าจำกันได้ในยุคของทักษิณ หรือแม้แต่ยุคยิ่งลักษณ์ สิ่งที่พรรคเก่าแก่โจมตี คือ การแทรกแซงองค์กรอิสระ แล้วหลายเรื่องราวที่อยู่ภายใต้อำนาจของเผด็จการ คสช.นั้น ไม่ได้รู้สึกเลยหรือว่าองค์กรอิสระเป็นอิสระจริงหรือไม่
ลองสำรวจความศรัทธา น่าเชื่อถือของประชาชนที่มีต่อองค์กรแต่ละแห่ง ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยความเคลือบแคลง และถูกมองว่ามีการแทรกแซงหนักกว่ายุครัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยเต็มใบเสียอีก เรื่องแบบนี้จอมหลักการกลับไม่สำเหนียกหรือแสดงเจตนารมณ์ในการคัดค้าน ไม่ร่วมสังฆกรรมอย่างแข็งขัน การอ้างว่าเข้าร่วมรัฐบาลสืบทอดอำนาจเพื่อปิดสวิตช์ คสช.หรือปิดสวิตช์ ส.ว. จนบัดนี้ทำได้อย่างที่พูดจริงหรือไม่ ท้ายที่สุดก็หนีไม่พ้นข้อครหา อยู่ในอำนาจเพื่อต้องการอำนาจไปช่วยให้พรรคของตัวเองกลับมายืนอยู่ในจุดที่เคยเป็น ที่คอการเมืองต่างพากันมองว่านับวันน่าจะยิ่งห่างไกลออกไป
แทนที่จะพูดถึงการซื้อเสียง เพื่อที่จะเอาดีเข้าตัว หรือให้พรรคของตัวเองได้ใจจากคนในภาคใต้ น่าจะหันมาตระหนักต่ออนาคตของประเทศที่จะก้าวไปข้างหน้าดีกว่า ภายใต้บริบททางการเมืองที่เป็นอยู่นี้จะหาทางออกกันอย่างไร ต้องช่วยกันปลดโซ่ตรวนที่คณะรัฐประหารเพื่อการสืบทอดอำนาจวางกับดักถ่วงความเจริญประเทศไว้ ต้องไม่ลืมว่าคนเหล่านั้นเข้ามาไม่เคยมีความรับผิดชอบใด ๆ มิหนำซ้ำ ยังจะหาช่องเอาตัวรอดจากสิ่งที่ตัวเองเป็นคนวางกติกาไว้อีกต่างหาก พวกอุบาทว์ที่ซ่อนตัวในคราบคนดีนั้น วันนี้คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่จับได้ไล่ทันหมดแล้ว รู้จักอายเด็กมันบ้าง