SABUY ก้าวขึ้นหุ้นใหญ่ AIT
หลายคนอาจตั้งคำถามว่า ทำไม SABUY ต้องการรวบหัวรวบหาง AIT ด้วยล่ะ...เพราะถ้าไปดูโครงสร้างธุรกิจของ AIT ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับ SABUY เลยนะ
เริ่มเคาต์ดาวน์กับวันแปลงสิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิหุ้นบริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ครั้งที่ 2 หรือวอร์แรนต์ AIT-W2 ในวันที่ 30 ก.ย.นี้กันแล้ว…โดยจะเปิดให้แจ้งความจำนงในการใช้สิทธิระหว่างวันที่ 23-29 ก.ย. 2565 อัตราการใช้สิทธิ 1 วอร์แรนต์ ต่อ 1 หุ้น ราคาใช้สิทธิหน่วยละ 2 บาท…
จากนั้นก็จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ชัดเจนมากขึ้น..!!
ด้วยก่อนหน้านี้ บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ของ “เฮียชูเกียรติ รุจนพรพจี” ได้เข้ามาซื้อหุ้น AIT จำนวน 30 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 7.08 บาท รวม 212.40 ล้านบาท และซื้อ AIT-W2 อีก 140 ล้านหน่วย ราคาหน่วยละ 3.55 บาท รวม 497 ล้านบาท รวมมูลค่า 709.40 ล้านบาท จาก “อานนท์ชัย วีระประวัติ” ผู้ถือหุ้นเดิม AIT…ซึ่ง SABUY ระบุชัด จะแปลงสิทธิ AIT-W2 ทั้งหมด
นั่นเท่ากับว่า SABUY ก็จะขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ AIT แทน “กลุ่มอุ่นทรพันธุ์” ทันที..!!
ส่งผลให้ AIT กลายเป็นบริษัทในกลุ่ม SABUY โดยสมบูรณ์แบบ…
หลายคนอาจตั้งคำถามว่า ทำไม SABUY ต้องการรวบหัวรวบหาง AIT ด้วยล่ะ…เพราะถ้าไปดูโครงสร้างธุรกิจของ AIT ซึ่งเป็นผู้วางระบบไอที รับงานภาครัฐเป็นหลัก ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับ SABUY เลยนะ แต่ถ้าดูให้ลึกลงไป AIT มีธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ที่ซ่อนอยู่ ซึ่งสามารถต่อยอดกับธุรกิจอี-วอลเล็ตของ SABUY ได้ เป็นการสร้าง Enterprise Systems ช่วยต่อยอดระบบนิเวศทางธุรกิจให้ครบวงจร…
ครั้นไปดูในแง่พื้นฐาน AIT ก็ถือว่าแข็งแกร่ง…ผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่องทุกปี โดยปี 2561 มีรายได้รวม 4,237 ล้านบาท กำไรสุทธิ 236 ล้านบาท ปี 2562 มีรายได้รวม 7,076 ล้านบาท กำไรสุทธิ 392 ล้านบาท ปี 2563 มีรายได้รวม 6,730 ล้านบาท กำไรสุทธิ 394 ล้านบาท และปี 2564 มีรายได้รวม 7,034 ล้านบาท กำไรสุทธิ 527 ล้านบาท ขณะที่ช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ มีรายได้รวม 3,111 ล้านบาท กำไรสุทธิ 287 ล้านบาท
ด้านสถานะการเงิน ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2565 มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่ในกระเป๋ากว่า 727 ล้านบาท โดยมีส่วนของหนี้สินระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีอยู่ที่ 94 ล้านบาทเท่านั้น แต่มีกำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรรสูงถึง 1,573 ล้านบาท
ที่สำคัญ AIT ยังติดทำเนียบหุ้นปันผลงามด้วยนะ ยีลด์ที่ว่าขี้เหร่ก็ตั้ง 3.77% ขณะที่บางปียีลด์ทะลุ 10% เสียด้วยซ้ำ…เท่ากับว่า SABUY ก็จะรับรู้การลงทุนในรูปของเงินปันผลกลับคืนมา
แต่ไม่จบแค่นี้นะ…มีอีกช็อตที่น่าสนใจ ถ้าดูจากราคาแปลงสิทธิ AIT-W2 ที่หน่วยละ 2 บาท บวกกับต้นทุนที่ SABUY ได้ AIT-W2 มาที่ราคา 3.55 บาท เท่ากับว่า SABUY จะมีต้นทุนอยู่ที่ 5.55 บาท ขณะที่ราคาในกระดานหุ้น AIT อยู่ที่ 6.50 บาท
นั่นแปลว่า SABUY มีต้นทุนเทียบกับราคาในกระดานจะมีส่วนต่างอยู่ที่ 0.95 บาท
คิดเล่น ๆ ถ้า Mark to Market จะมีแคปปิตอลเกนเท่ากับ 133 ล้านบาท ซึ่งถ้าให้เดา มีความเป็นไปได้ที่ SABUY จะบันทึกในไตรมาส 3 ก็จะทำให้งบออกมาเริ่ดสะแมนแตนแน่ ๆ…
งานนี้ต้องวัดใจ “เฮียชูเกียรติ” แล้วล่ะ..!?
อ้อ…ต้องดูด้วยว่า หลังจาก SABUY มาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ AIT แล้ว จะมีการปรับเปลี่ยนอย่างไร..? เป็นอีกช็อตที่ต้องจับตา
แต่ถ้า “เฮียชูเกียรติ” บอกว่าจะปล่อยให้ทีมผู้บริหาร AIT รันธุรกิจต่อโดยไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวใด ๆ นั้น…อันนี้อมพระมาพูด ก็ไม่เชื่อหรอกนะ ชิมิ..!??
…อิ อิ อิ…