เงินบาทที่ตำบลกระสุนตก

การสอดกลางเข้ามาแบบทื่อๆ ด้วยสไตล์ทหารต่อตลาดที่เปราะบางง่ายอย่างฟอเร็กซ์ ถือเป็นการย่างเข้าสู่ตำบลกระสุนตกง่ายเหลือเกิน


หากพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกรัฐมนตรี  ไม่ซื่อบื้อจนเกินไป ก็ฉลาดล้ำลึกเกินไปกรณีที่สอดเท้ายื่นเข้ามาแทรกกลางระหว่างที่ค่าเงินบาทกำลังร่วงตามค่าเงินเยนของญี่ปุ่น เทียบกับค่าดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่ระดับ 37.21 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 20 ปีทีเดียว

การสอดกลางเข้ามาแบบทื่อๆ ด้วยสไตล์ทหารต่อตลาดที่เปราะบางง่ายอย่างฟอเร็กซ์ ถือเป็นการย่างเข้าสู่ตำบลกระสุนตกง่ายเหลือเกิน

ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 ก.ย. พลเอกประวิตร รักษาการนายกรัฐมนตรี กำชับให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อประคองค่าเงินบาทไว้ที่ 35 บาทต่อ 1 ดอลลาร์

ปัจจุบันค่าเงินบาทอ่อนค่าทะลุ 37 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ไปแล้ว และล่าสุดอ่อนค่าแตะระดับ 37.205 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ ทำให้รัฐบาลกังวลว่า ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าหนักแตะ 54 บาทต่อ 1 ดอลลาร์เหมือนกับในอดีต

เสียงวิพากษ์ถึงความไม่เหมาะสมของนโยบายรัฐบาลและพลเอกประวิตร ที่กลายเป็นตำบลกระสุนตกจึงถือเป็นเรื่องปกติ เพราะนำเอานโยบายตรึงค่าเงินถือว่าพ้นยุคไปตั้งแต่เรา ประกาศใช้ระบบอัตราเงินลอยตัวตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2540

ในช่วงเวลาวิกฤตการเงินซ้ำรอยวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 เพราะในปีดังกล่าว ค่าเงินบาทเคยถูกตรึงไว้ที่ 25 บาทต่อ 1 ดอลลาร์

แล้วถูกเฮดจ์ฟันด์นำโดย จอร์จ โซรอสโจมตีจนกระทั่งธปท.ต้องนำกองทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศไปป้องกัน ผลลัพธ์คือธปท. ขาดทุนยับเยินกว่า 5.9 แสนล้านบาท

ก่อนที่ธปท.จะยอมแพ้แล้วหันมาเปลี่ยนแปลงให้เป็นนโยบายแลกเปลี่ยนลอยตัว (ซึ่งถูกวิจารณ์ว่า คือการนำเงินทุนสำรองไปปกป้องค่าเงินแบบ “สุรุ่ยสุร่าย-แบบไม่ฉลาดถึงขั้นเปิดช่องให้ผู้บริหารธปท.โกหกถึงขนาดที่ว่าใช้ทุนสำรองจนเหลือเกือบศูนย์ จนถึงขั้นที่ทุนสำรองซึ่งพึงจะมีในการสำรองในการพิมพ์เงินบาท ไม่มี..โดยไม่ต้องรับผิด) แล้วหันมาใช้ระบบอ้างอิงด้วย “เป้าหมายเงินเฟ้อ” จนถึงปัจจุบัน

คำถามก็คือ หากธปท.จะยอมยกเลิกหลักการอันสวยหรูเรื่องเป้าหมายเงินเฟ้อ คู่กับอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว แล้วยอมตามพลเอกประวิตรมากน้อยแค่ ไหน อย่างไร

หากยอมตามมาก ผู้บริหาร ธปท.ก็ไม่ต่างจากกิ้งก่าเปลี่ยนสีไปเรื่อย ๆ เนื่องจากการใช้ทุนสำรองระหว่างประเทศมาตั้งโต๊ะซื้อค่าเงินบาทในราคาที่สูงกว่าตลาด เป็นหายนะที่รออยู่

หากยอมตามน้อยหรือไม่ยอม อาจจะถูกกล่าวหาว่าล้มล้างรัฐบาล หรือไม่ช่วยกันอีก

เชื่อขนมกินล่วงหน้าได้เลยว่างานนี้ได้เห็นปฏิบัติการ “กามิกาเซ่” แน่นอนอยู่ที่ว่าใครจะดับเครื่องชนไวและมีพลังมากกว่ากัน

เหตุการณ์ที่ตำบลกระสุนตกคราวนี้ ไม่ใช่เรื่องธรรมดา

Back to top button