JAS เงินสดจะไปไหน.?
ที่จริงก็ไม่ได้เซอร์ไพรส์อะไร.! กับมติเอกฉันท์ 97.2052% ของผู้ถือหุ้น JAS ที่ยินยอมพร้อมใจให้ขาย TTTBB (3BB) และ JASIF มูลค่ารวม 32,420 ลบ.
ที่จริงก็ไม่ได้เซอร์ไพรส์อะไร.! กับมติเอกฉันท์ 97.2052% ของผู้ถือหุ้นบริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ที่ยินยอมพร้อมใจให้ขายบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB (3BB) และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF มูลค่ารวม 32,420 ล้านบาท…
แต่จุดที่น่าสนใจ หลังจากหักโน่นนี่นั่นไปแล้ว JAS จะเหลือเงินสดราว 19,230 ล้านบาท แล้วจะเอาไปทำอะไร..?
ก่อนหน้านี้ ที่ปรึกษาการเงินอิสระ หรือ IFA ระบุว่า JAS ไม่มีแผนการลงทุนที่ชัดเจน เลยเป็นที่มาของการแนะผู้ถือหุ้น JAS ไม่ควรอนุมัติขาย 3BB และ JASIF…แต่เมื่อผู้ถือหุ้นยืนยันให้ขาย ก็ตามนั้น…ไม่ว่ากัน
เอ๊ะ…ถ้าดูจากสถานการณ์ผู้ถือหุ้นใหญ่ JAS อย่าง “พิชญ์ โพธารามิก” ที่มีภาระผูกพันกับสถาบันการเงินใหญ่แห่งหนึ่ง วงเงิน 4.25 หมื่นล้านบาท ในการซื้อหุ้นคืนเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ตอนนั้นใช้เงินไปราว 2 หมื่นล้านบาท…มีความเป็นไปได้ว่าเงินสดที่เหลือราว 19,230 ล้านบาท น่าจะมีไปได้ 3 ทางด้วยกัน…
ก้อนแรกนำไปชำระหนี้สินของ JAS…
ส่วนอีกก้อนนำไปซื้อหุ้นบริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JTS ตามที่เป็นข่าว…ซึ่งถ้าเป็นจริงก็น่าจะซื้อจากผู้ถือหุ้นเบอร์ 2 ของ JTS นั่นแหละ ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน…เป็น “พิชญ์” นั่นเอง ประมาณ 67.74 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 9.59% ก็จะทำให้กลุ่ม JAS ถือหุ้น JTS เพิ่มขึ้นเป็น 60% จากเดิมที่ถือหุ้นอยู่ 50.91%
ติ๊ต่างว่าถ้า “พิชญ์” ขายหุ้นทั้งหมด ถ้าคิดจากราคากระดานที่ 70.75 บาท จะฟันกำไรไปราว 4,724 ล้านบาท เนื่องจาก “พิชญ์” น่าจะมีต้นทุนหุ้น JTS เพียง 1.00 บาท (คำนวณจากราคาพาร์) ทำให้มีกำไรส่วนต่างจากราคาหุ้นครั้งนี้ 69.75 บาทต่อหุ้น
อ้อ…ไม่แน่เราอาจได้เห็นปรากฏการณ์ JTS แปลงร่างเป็นม้าศึกแบบโนสน..โนแคร์ ปัจจัยพื้นฐานอีกรอบ ก็อาจเป็นไปได้นะ ส่วนจะวิ่งไปไกลแค่ไหน…จะไปแตะจุดเดิมที่เคยทำไว้ที่ 400-500 บาท อ๊ะป่าว…ขึ้นอยู่กับเจ้ามือละมั้ง…
และก้อนสุดท้าย หลังจากใช้หนี้สิน และไปซื้อหุ้น JTS เรียบร้อยแล้ว ก็จะมีการจ่ายปันผลพิเศษให้กับผู้ถือหุ้น JAS…ซึ่งล่าสุดบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ประเมินว่า JAS อาจปันผลในช่วง 0.22-1.12 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนปันผลสูง 8-42% ขึ้นอยู่กับว่า JAS จะนำเงินไปใช้ลงทุน หรือคืนหนี้มากน้อยเพียงใด
นั่นเท่ากับว่า คนที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากมันนี่เกม…อุ๊ย จากการขาย 3BB และ JASIF ครั้งนี้ คงหนีไม่พ้น “พิชญ์” ซึ่งจะได้ทั้ง 1) เงินจากการขายหุ้น JTS ราว 4,724 ล้านบาท และ 2) เงินปันผลพิเศษจาก JAS ราว 1,033-5,259 ล้านบาท…
สองก้อนนี้รวมกันก็ปาไปหลายพันล้านบาทแล้วนะ เพื่อไปจ่ายหนี้แบงก์…อย่างน้อย ๆ ก็น่าจะทำให้ “พิชญ์” หายใจหายคอคล่องขึ้นแหละ…
แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ต้องดูว่าจะผ่านด่านหินวันที่ 18 ต.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันประชุมผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF หรือเปล่า..?
หรือกรณีเลวร้ายสุด ผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF ยังไม่ยอมยกมือโหวต…“พิชญ์” และคนที่เกี่ยวข้องจะมีทีเด็ดอะไรมาแก้เกม..? เป็นอีกช็อตที่ต้องจับตา
เพราะยังไงดีลนี้ก็ล้มไม่ได้หรอก…เชื่อหัวไอ้เรืองสิ
จริงมั้ยคะ “เสี่ยพิชญ์” ขาาา..!?
…อิ อิ อิ…