หลุด 1,600 จุด

ไม่ผิดโพสต์สำหรับ กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามคาดการณ์ไว้จ้า ทำให้ดอกเบี้ยนโยบายกลายเป็น 1% ต่อปี โดยมีผลทันที…ส่วนตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงในทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ รับแรงกดดันเงินดอลลาร์สหรัฐแข็ง ขณะที่ฟากฝั่งบ้านเราเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องจนทะลุ 38 บาท/ดอลลาร์ “โมนิก้า” เลยสิ้นข้อสงสัยทำไมเงินทุนต่างชาติไหลออกต่อเนื่องเป็นเพราะ….แบบไม่ต้องสืบเจ้าค่ะ

บรรยากาศการลงทุนยังไม่เต็มใจทำให้ดัชนีคงปรับตัวลง!! ครั้งนี้ SET ทรุดหลุดแนวรับสำคัญ 1,600 จุดเลยเชียวล่ะ โดยลงไปปิดที่ระดับ 1,599.23 จุด ลบไป 11.35 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 6.97 หมื่นล้านบาท ซึ่งเซียนเทคนิคต่างรู้ดีกว่าเสียทรง แล้วอย่างนี้เอาไงต่อ!!! “น้องโมสุดสวย” ได้แต่นั่งถอนหายใจเฮือกใหญ่ กังวลว่าวันนี้ดัชนีส่อร่วงต่อ สะท้อนกับคำพูดคุยนักวิเคราะห์ชี้ว่าโอกาสพักฐานต่อ เชื่อนักลงทุนยังมีทิศทางนำเงินออกจากสินทรัพย์เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง โอ้ยยยพระเจ้าช่วยกล้วยทอด….คิดแล้วก็ปวดหัวจ้ะ

สถานการณ์ของการลงทุนที่ไม่เต็มใจ อย่างนี้ “โมนิก้า” ผู้มีประสบการณ์ในวงการตลาดหุ้นมาอย่างยาวนาน อุ๊อุ๊ อยากให้นักลงทุนตั้งสติ และตั้งการ์ดรอเซ็ตเกมการเล่นใหม่เพื่อให้สะเด็ดน้ำก่อน เพราะอย่างไรนักวิเคราะห์มองแนวรับถัดไป 1,580 จุด แต่ถ้าหลุดไปยาว ๆ ๆ จ้า 1,550 จุด ส่วนใครชอบสวน….หรือชอบตีเหล็กตอนร้อน รอแวะหาหุ้นเฟี้ยวฟ้าวเก็งกำไรแล้วกันเจ้าค่ะ

เช่นดังกรณีของ ASIAN หนึ่งในตัวท็อปพิกหุ้นกลุ่มส่งออก ที่มักเห็นนักวิเคราะห์แนะเคาะขวารัว ๆ ยามค่าเงินบาทอ่อน เพราะรับประโยชน์เต็ม ๆ ยิ่งช่วงนี้เงินบาทอ่อนค่าทะลุ 38 บาท/ดอลลาร์เสียด้วย ทำให้เกิดการเข้ามาเก็งกำไรราคาจึงดีดกลับแรงขึ้นมาปิดที่ 18.50 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 4.52% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 84 ล้านบาท หากถาม “โมนิก้า” ว่าราคามีโอกาสไปต่อได้ไหม? คำตอบ “ได้” แต่กรอบแคบมากเพราะก่อนหน้าพยายามฝ่าแนวต้าน 19 บาทก็ไม่ผ่านสักทีเจ้าค่ะ

เหมือนกับในรายของ TFG รับอานิสงส์ตรงเงินบาทอ่อนค่า ผนวกราคาหมู-ไก่ที่แพงอยู่ เชื่อผลการดำเนินงานไตรมาส 3 เติบโตแกร่งเป็นแน่ และทางผู้บริหารย้ำรายได้ทั้งปีนี้โต 20-30% ทำให้เกิดการเข้ามาไล่ราคาหุ้นจนเด้งขึ้นมาปิดที่ 6 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 4.35% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 92 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะของการเข้าเก็งกำไรอย่างไม่ต้องสงสัย  ส่วนจะกลับขึ้นไปถึงแนวต้านแรก 6.15 บาทหรือไม่นั้นก็คิดเอาแล้วกันอิอิ

เช่นเดียวกับในรายของ HMPRO กระชากขึ้นมาปิดที่ 13.70 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 1.48% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 401 ล้านบาท มันเป็นจังหวะของการรีบาวด์เมื่อโบรกฯ มีมุมมองบวกต่อแนวโน้มกำไรไตรมาส 3 จะเติบโตก้าวกระโดด รับท่องเที่ยวฟื้น-มาร์จิ้นดีขึ้น  “โมนิก้า” กล้าพูดได้ทันทีว่า คิดจะเล่นอาจเก็งกำไรสั้น ๆ ได้ เพราะข้อมูลในช่วง 1 เดือนล่าสุดพบว่า ราคาดีสุดอยู่แค่ 14.10 บาทนะจ๊ะ

รวมทั้งรายของหุ้นนิคมอย่าง AMATA หลังจากราคาหุ้นลงลึกจนเข้าเขต Oversold ก็เกิดแรงซื้อกลับขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ดีดมาปิดที่ 18.80 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 1.62% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 145 ล้านบาท “โมนิก้า”  มองว่าราคามันยังไม่สะท้อนกับปัจจัยพื้นฐานเอาเสียเลย ยิ่งเจาะไปดูยอดขายที่ดินครึ่งปีหลังมีความเติบโตโดดเด่น แววว่าสูงถึง 926 ไร่ เดี๊ยนว่านี่อาจเป็นตัวเร้าอารมณ์ให้ผู้เล่นกลับมาสนใจนะจ๊ะ

ปิดท้ายส่วนตัวที่เชื่อว่า น่าจะปรับตัวขึ้นมากกว่าลง “โมนิก้า” ขอเบนเข็มไปที่ KKP ถือเป็นธนาคารที่มีรายได้เติบโตแข็งแกร่ง คุณภาพสินทรัพย์ดี สิ่งสำคัญราคาหุ้นที่ถูกค่า P/E เพียง 7.75 เท่า พร้อมลุ้นกำไรไตรมาส 3 จะทำนิวไฮซึ่งสินเชื่อที่ยังเติบโตแกร่ง แม้ว่าราคาหุ้นอาจร่วงมาปิดที่ 69.25 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 0.36% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 329 ล้านบาท มันอาจเป็นช่วงจังหวะของการช้อนซื้อนะจ๊ะ