หุ้นต่ำบุ๊ก ไม่ซื้อเสียค่าโง่แพง
แทบไม่น่าเชื่อที่จะได้เห็นราคาหุ้นชั้นยอดอย่างผู้ผลิตหลอดไฟในรถยนต์ที่เกือบไร้คู่แข่งขันในตลาดชิ้นส่วนยานยนต์ อย่าง STANLY ต่ำกว่าบุ๊ก
แทบไม่น่าเชื่อที่จะได้เห็นราคาหุ้นชั้นยอดอย่างผู้ผลิตหลอดไฟในรถยนต์ที่เกือบไร้คู่แข่งขันในตลาดชิ้นส่วนยานยนต์ อย่าง STANLY ต่ำกว่าบุ๊กมากกว่า 30%
ทั้ง ๆ ที่บริษัทไม่เคยมีตัวเลขขาดทุนเลย
ความซวยของคนที่ถือหุ้นชั้นดี นอกจากเรื่องโควิด-19 แล้ว ก็ไม่มีอะไรมากกว่านั้น แม้กระทั่งปีนี้รายได้และกำไรของบริษัทจะเริ่มกลับมาสู่ระดับปกติแล้ว แต่นักวิเคราะห์ก็ยังคงละล้าละลัง แม้จะมีคำแนะนำให้ซื้อ แต่ราคาเป้าหมายก็ยังคงต่ำแค่ 240 บาทต่อหุ้น ทั้งที่ราคาตามบุ๊กอยู่ที่ 267.70 บาท แถมยังมีกำไรสะสมมากกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท
การที่ราคาเป้าหมายยังคงต่ำกว่าบุ๊ก ถือว่าผิดปกติ เพราะราคาที่เหมาะสมควรสูงกว่าบุ๊ก แต่ที่นักวิเคราะห์ให้ราคาเป้าหมายต่ำดังกล่าว เพราะไม่ไว้วางใจตลาดหุ้นมากกว่า
ในภาพรวมซึ่งยังมีลักษณะผีเข้าผีออกตลอดเวลาจากการที่ต่างชาติยังไม่ขนเงินเข้ามา หลังจากขายออกไปเยอะมากในช่วงนี้
สำหรับขาประจำของนักลงทุนแบบ VI แล้ว นี่คือจังหวะเวลาซื้อสะสมอย่างแท้จริง เนื่องจากพิจารณาดูการตลาดของธุรกิจนี้แล้ว หุ้นอย่าง STANLY ถือว่าเป็นหุ้นที่มีความสามารถในการแข่งขันที่สูง เพราะมีสิทธิบัตรทางด้านเทคโนโลยีด้วยไฟรถยนต์ที่กำลังเปลี่ยนเป็นหลอดแอลอีดี เพราะแทบจะเรียกได้ว่าไร้คู่แข่ง
ปีนี้เริ่มกลับมาทำกำไรเป็นกอบเป็นกำอีกครั้ง หลังจากรถยนต์ทั้งใช้น้ำมัน ไฮบริด และ EV เริ่มกลับมาขายดีระลอกใหม่ ยังผลให้ไตรมาสสองที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิที่ปกติจากการดำเนินงานล้วน ๆ โดยเฉพาะช่วงไตรมาสสาม (ซึ่งไม่เหมือนกับชาวบ้านชาวช่อง เพราะต้องตามบริษัทแม่ที่จดทะเบียนในตลาดสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นโดดเด่นมากถึง 48.0% จากไตรมาสก่อนหน้า ชนิดฟื้นตัวทั้งรายได้และอัตรากำไรขั้นต้น
แม้ว่าแรงกดดันจากอัตราแลกเปลี่ยนจะทำให้มีกำไรต่ำกว่าคาด คือมีกำไรสุทธิ 396 ล้านบาทในไตรมาส 3/2564 (ต.ค.-ธ.ค. 2564) หากตัดกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลงเพราะค่าบาทลดลงเนื่องจากในไตรมาส 2/2564 (ก.ค.-ก.ย. 2564) ลูกค้าผู้ผลิตรถยนต์หลายค่ายเผชิญปัญหาการขาดแคลนชิป ทำให้ลูกค้าสั่งหยุดสายการผลิตหรือลดลง
การกลับมาของกำไรปกติงวด 9 เดือนที่ระดับ 1,032.7 ล้านบาท เติบโตจากระยะเดียวกันปีก่อนมากถึง 114.0% โดยรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 23.5% ถึงขั้นบางไตรมาสมีการขาดทุนสุทธิเกิดขึ้น แต่แล้วในช่วงขาขึ้นรอบใหม่ก็พลิกกลับมาทำกำไรตามปกติ
กำไรที่สวยงามทำให้นักวิเคราะห์จำต้องปรับราคาเป้าหมายใหม่สูงขึ้น แต่ยังไม่มั่นใจมากนัก ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 250 บาท ขณะที่ราคาปัจจุบันอยู่แถว ๆ 167 บาทเท่านั้น ประมาณการไว้ก่อน เนื่องจากคำสั่งซื้อในอุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง แกร่งมาก คาดกำไรปี 2565-2567 โตเฉลี่ย 20%
ความแข็งแกร่งทางการเงินจากการที่มียอดขายเพิ่มขึ้น และไม่มีหนี้เพิ่มจากการที่เป็นบริษัทปลอดหนี้และมีสภาพคล่องแกร่ง มีเงินสดในมือมาก และเงินลงทุนระยะสั้นมากกว่า 5.6 พันล้านบาท
ตอนนี้ราคาของ STANLY ถือว่าต่ำมากเกินไป ซึ่งหากมีแรงกระตุ้นใหม่จากบอร์ดบริษัทที่ยังเงียบงัน เช่นการจ่ายปันผลเพิ่ม หรือการเพิ่มทุนขายหุ้นให้กับรายใหญ่ในราคาสูงขึ้น ก็จะทำให้ราคาพุ่งขึ้นไปอีก
ซื้อไว้ตอนนี้เพื่อรับปันผลหรือรับราคาหุ้นในยามประกาศงบสิ้นปีระลอกใหม่ถือว่ายังไงก็คุ้ม