ทุบไม่ลง?

กลายเป็นเรื่องที่ตลกหกเก้ามาก ๆ เมื่อบรรดากองทุนต่างพุ่งเป้าโจมตีไปที่ท่าทีของกบข.มากเป็นพิเศษ หลังมีข้อสันนิษฐานจากกองทุนต่าง ๆ ว่านี่คือตัวการทุบหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา พร้อมกับโยงเหตุผลหลายอย่างมาซัพพอร์ตแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่น่าหนักใจสำหรับ “เจ๊แป๊ด” อย่างแน่นอน เพราะทุกสายตาจับจ้องไปที่หน่วยงานของเจ๊แบบไม่กะพริบตา แต่เจ๊ก็สวนคืนหมัดตรงด้วยการท้าเปิดพอร์ตให้ดู ทุกอย่างเลยสงบลงในเวลาอันรวดเร็วนะจะบอกให้

ในขณะเดียวกัน ถ้าแยกภาพการลงทุนหุ้นไทยออกเป็น 2 ส่วนจะเห็นว่า หุ้นใหญ่ยังตกอยู่ภายใต้อิทธิพล “กองทุน” กับ “ต่างชาติ” ส่วนหุ้นขนาดกลางเล็กยังล้อไปตามกระแสตลาดหุ้นในวันนั้น แต่ก็มีเจ้ามือเข้ามาเล่นหุ้นเป็นช่วง ๆ โดยอิงกับบรรยากาศลงทุนเอื้อแค่ไหนเป็นหลัก “โมนิก้า” จึงอยากถามแฟนคลับว่า วันนี้หุ้นมีโอกาสโดนทุบมากน้อยขนาดไหน? หลังวานนี้ประคองตัวปิดที่ระดับ 1,592.73 จุด บวกไป 4.01 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.64 หมื่นล้านบาทเจ้าค่ะ

ถ้าว่ากันตามจริง วานนี้หุ้นไทยน่าจะโดนหนักไม่ใช่น้อย เพราะเมื่อคืนก่อนหน้าดัชนีดาวโจนส์ออกอาการหมดแรง และทำท่าไปต่อไม่ไหว และยังต้องเผชิญกับดอกเบี้ยพุ่งขึ้นเยอะมาก แถมยังต้องเจอกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่นิ่ง “โมนิก้า” ถึงมองสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยคงกลิ้งไปกลิ้งมาอีกสักพัก ก่อนจะเดินหน้าขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนหน้า เพราะเป็นช่วงที่บริษัทจดทะเบียนเริ่มโชว์กำไรไตรมาส 3 (เขาว่าน่าพอใจ) กันสะบึมหึ้มไงละคะ

โดยเฉพาะในรายของแบงก์ BBL ก็เป็นอีกหนึ่งทีเด็ดที่อยากเม้าท์ถึงเป็นลำดับแรก เพราะก่อนหน้าเคยพูดถึงจุดแข็งของหุ้นแบงก์ตัวนี้อย่างจุใจ และยังพูดถึงเรื่อง P/E 10 เท่า กับ BV 259 บาท มันคือจุดที่ย้ำหัวหมุดให้รู้ว่า ดาวน์ไซด์ต่ำสุด ๆ แต่อัพไซด์เปิดกว้างสุด ๆ จึงไม่แปลกใจที่วานนี้หุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 143 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 1.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.43 พันล้านบาท และมองเป้าถัดไปที่บริเวณ 150 บาทได้เลยจ้า!

คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น EA เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่มีลุ้นขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 100 บาทเป็นครั้งที่ 3 โดยทั้งหมดเป็นผลมาจากไตรมาส 4 เตรียมบันทึกรายได้จากธุรกิจอีวีจำนวนมหาศาล และเรื่องนี้ก็ส่งผลโดยตรงกับกำไรที่จะออกมาเสียด้วย รวมทั้งการออกหุ้นกู้แปลงสภาพ ซึ่งมีผู้รู้ตีราคาแปลงไว้ 120 บาท “โมนิก้า” ถึงมองว่า การยืนปิดที่ระดับ 93.50 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 0.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.25 พันล้านบาท ยังน่าสนใจเหมือนเดิมค่ะ

ส่วนคนที่ชอบหุ้นสไตล์เด้งกลับเป็นล่ำเป็นสัน “โมนิก้า” ขอชี้เป้าไปที่หุ้น KISS เป็นลำดับแรก หลังหุ้นไต่เพดานขึ้นอย่างช้า ๆ เป็นเวลาร่วม 3 เดือน ผสานกับมีโบรกฯ ชี้เป้าโตปีละ 20% อย่างน้อยอีก 2 ปี แถมมีการให้เป้าเบื้องต้นอยู่ที่ระดับ 11 บาท เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ระดับ 10 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 6.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 110 ล้านบาท เหมาะต่อการเล่นตามน้ำพับผ่าสิ!

อีกรายที่เริ่มขยับต่อเนื่อง และเป็นหุ้นที่รายย่อยเล่นมันคงต้องมองไปที่หุ้น CH แบบไม่ลังเลใจ เพราะการขยับตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 4.96 บาท บวกไป 0.28 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 120 ล้านบาท โดยทุกคนรับรู้กันอย่างทั่วไปว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ของทุกปี มันเป็นช่วงพีกที่จะเห็นกำไรโตสนั่น “โมนิก้า” จึงอยากให้แฟนคลับนำข้อมูลดังกล่าวไปประกอบการตัดสินใจว่าจริงป๊ะ!

คล้ายกับการเล่นรอบใหม่ของ PSG ก็เป็นสถานการณ์ที่น่าตามดูเช่นกัน เพราะเที่ยวก่อนหุ้นพยายามเทกตัวขึ้นไปหายอดแถว 1.70 บาท แต่สุดท้ายก็มาหมดแรงเอาอีตอนแตะ 1.60 บาท ต่อจากนั้นก็ไหลพรวดลงมากองแถว 131 บาท ก่อนจะตีตื้นขึ้นมาอีกครั้ง จนวานนี้ยืนปิดที่ระดับ 1.37 บาท บวกไป 0.03 บาท หรือขึ้นไป 2.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 105 ล้านบาท ท่ามกลางกำไรไตรมาส 4 น่าจะกลับมาโตแบบนี้..ลุยเลยไหมตัวเอง

เช่นเดียวกับในรายของ OTO มีแรงซื้อต่อเนื่องเข้ามาเป็นวันที่ 3 จนวานนี้ขึ้นมาปิดที่ระดับ 15.50 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 6.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 90 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตของขาลุย ที่เชื่อว่างบไตรมาส 3 น่าจะพลิกกำไร จึงกระโจนเข้ามาเล่นอีกรอบแบบไม่ลังเลใจ และช็อตนี้ก็เป็นเรื่องของความเชื่อใจเสียด้วย เลยไม่อยากให้นักเล่นพบกับความผิดหวัง เพราะทรงหุ้นกำลังมาน่ะซี