สังคมข่าวหุ้น
ดัชนี SET กลับมายืนเหนือ 1,600 จุดได้อีกครั้ง แต่มูลค่าการซื้อขายยังค่อนข้างน้อย หรือ 64,424 ล้านบาท
ดัชนี SET กลับมายืนเหนือ 1,600 จุดได้อีกครั้ง แต่มูลค่าการซื้อขายยังค่อนข้างน้อยหรือ 64,424 ล้านบาท หากตัวเลขกลับมาบริเวณ 7.5–8 หมื่นล้านบาทต่อวันได้ น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีกับภาวะตลาดฯ ในระยะถัดไป หรือความมั่นใจเริ่มกลับมานั่นเอง
กลุ่มโบรกฯ หรือบริษัทหลักทรัพย์ เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากสุดหากวอลุ่มเทรดต่อวันลงมาอยู่ระหว่าง 4-6 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะหากลงมาบริเวณ 4.5 หมื่นล้านบาท บวก/ลบ ว่ากันว่า ต้องมีโบรกฯ ขาดทุนยับหลายแห่ง หรือปิดหนีตายแน่นอน โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีส่วนแบ่งตลาดไม่ค่อยมากนัก หรืออยู่ในอันดับมากกว่า 20 ขึ้นไป และมีรายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์เป็นหลัก
บมจ.ไทยประกันชีวิต TLI ราคาดีดขึ้นมาได้อีกครั้ง หลัง โนมูระฯ ส่งข้อมูลว่า มีโอกาสสูงมากที่จะเข้าคำนวณดัชนี MSCI ประกาศในวันที่ 10 พ.ย.นี้ รวมถึงแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/2565 จะออกมาได้ตามคาดการณ์ ราคาหุ้นวานนี้ขึ้นมาสูงสุดในช่วงเช้าคือ 15.80 บาท ก่อนที่จะมีไม้ใหญ่เข้ามาขวางไว้ ด้วยการกดหุ้น จนกดราคาลงมาเคลื่อนไหว 15.30-15.40 บาท และเมื่อเปิดตลาดภาคบ่าย ยังมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาต่อเนื่อง ดันราคาขึ้นมาอยู่ระหว่าง 15.60-15.70 บาท ต้องมาจับตาดูว่า ไม้ใหญ่ (ของบางกองทุน) ยังออกมาขวางอีกหรือเปล่า
บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป หรือ JKN ของ “แอน” จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ไล่ซื้อกันสนุกสนาน ราคาพุ่งเกือบชนซิลลิ่ง ก่อนที่จะมีแรงซัดออกมาในช่วงเวลา 16.00 น. พอดี ก่อนที่จะมีการซื้อกลับ ดันราคาขึ้นมาปิด 5.60 บาท บวก 1.14 บาท เปลี่ยนแปลง +25.56% พี/อี ขึ้นมาแตะ 36-37 เท่า แต่จากประเด็นบวกของ JKN เรื่องธุรกิจประกวดนางงาม คงไม่ได้มาสนใจเรื่องราคาเรื่อง พี/อี กันแล้วล่ะ ใส่กันไฟแลบอย่างเดียว เท่าไหร่เท่ากัน ส่วนใครเข้าทีหลังต้องระวังลุกช้าจ่ายรอบวงกันล่ะ
แบงก์ทหารไทยธนชาต TTB ราคาไม่ผ่านแนวต้านใหญ่ 1.40 บาท หลังจากปรับขึ้นมาต่อเนื่อง บวกติดต่อกันมา 8 วันทำการ รวม 0.18 บาท ทำให้วานนี้ราคาย่อตัวลงไป -0.02 บาท มาที่ 1.36 บาท เข้าใจว่า ราคาน่าจะแกว่งอยู่ในกรอบ 1.35–1.40 บาท ไปอีกสักพัก เว้นแต่จะมีแรงซื้อดันราคาพุ่งเหนือ 1.40 บาท นั่นแหล่ะ อาจจะพอไปต่อได้ แต่ไม่น่าจะเกิน 1.50 บาท (ราคาเป้าหมายเฉลี่ยอยู่ที่ 1.52 บาท) เว้นแต่ไตรมาส 4/2565 จะออกมาสวยงามได้อีก และโบรกฯ เพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นไป
ช่วงนี้ลงทุนในหุ้นกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน อาจจะดูยากสักหน่อย อย่าง JASIF ราคาหน่วยลงทุนยังผันผวน เอาแน่นอนไม่ได้ จากดีลที่ยังไม่มีความชัดเจนว่า ADVANC จะซื้อต่อหรือจบดีล เพราะนักลงทุนเองก็กลัวว่า จะมีเงื่อนไขอะไรเพิ่มเติม แล้วทำให้ราคาหุ้นวูบอีก ทำให้เงินปันผลที่คาดว่าจะได้รับกับส่วนต่างราคาของหุ้นหรือหน่วยลงทุน จะได้ (ยีลด์) ไม่คุ้มเสีย ส่วน DIF เอง แม้จะมีความแน่นอนกว่า แต่อย่าลืมว่า นับจากสิ้นไตรมาส 4/2565 เป็นต้นไป รายได้จากผลตอบแทนเงินปันผลของผู้ถือหน่วยฯ จะต้องเสียภาษี 10% ทำให้ผลตอบแทนโดยรวมตลอดทั้งปี เมื่อเทียบกับราคาหน่วยลงทุนปัจจุบัน ลงมาเหลือเพียง 7% เท่านั้น (ของ JASIF ยังได้รับการเว้นจ่ายภาษี)