ซื้อเงินบาทหรือเงินเยนอย่างไหน หรือหุ้นดีกว่ากัน
เงินบาทกลับมาแข็งค่ากะทันหันที่ระดับ 36.50 บาทต่อดอลลาร์ ในขณะที่ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นยังเสมือนอ่อนค่าลงต่อเนื่องที่ 25.60 บาทต่อ 100 เยน
เงินบาทกลับมาแข็งค่ากะทันหันที่ระดับล่าสุด 36.50 บาทต่อดอลลาร์ ในขณะที่ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นยังเสมือนอ่อนค่าลงต่อเนื่องที่ 25.60 บาทต่อ 100 เยน
แล้วที่สำคัญคือค่าเยนเทียบกับดอลลาร์ยังทำนิวโลว์ต่อไปแถว ๆ 145 เยนต่อดอลลาร์
การอ่อนค่าของเงินเยนเทียบกับดอลลาร์ นับว่าช้าลงไปมากกว่าเมื่อสัปดาห์ก่อน
สะท้อนให้เห็นว่าใกล้จะถึงก้นเหวแล้ว น่าจะต้องซื้อเงินเยนที่ระดับนี้มากขึ้น
ส่วนค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นเทียบกับทั้งดอลลาร์ และเยน ก็น่าจะถึงเวลาซื้อเงินบาทกลับมาอีกครั้ง
สำหรับเหตุผลที่ควรซื้อเงินบาทมากกว่าตรงที่ทุนสำรองเงินตราของไทยนั้น หากคิดเป็นบาทล่าสุด กลับเพิ่มขึ้นมากมายกว่า 2 แสนล้านบาท
รองลงไปคือเงินเยนที่ยังไม่นิ่ง แต่ถ้าจะมีแผนการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นในอนาคตอันใกล้ช่วง 3-6 เดือนข้างหน้าการซื้อเงินเยนแล้วถือไว้น่าจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากกว่า
การแบ่งปันเงินลงทุนบางส่วนของนักลงทุน ในยามที่อัตราแลกเปลี่ยนผันผวนอย่างรุนแรง จึงถือเป็นส่วนหนึ่งของการจัดสรรเงินออมให้เกิดอรรถประโยชน์สูงสุด
เพียงแต่ต้องไม่ลืมว่า การจัดสรรเงินเพื่อให้เกิดประโยชน์นั้น จะต้องการจ่ายให้เหมาะสม
การแบ่งเงินลงทุนเพื่อย้ายไปตลาด forex จึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องฝึกฝนความชำนาญในยามที่ตลาดกำลังเหวี่ยงตัวค่อนข้างรุนแรง
ทางเลือกในการลงทุนด้วยตลาด forex จึงมีทางเลือกที่ดี แต่ต้องไม่ลืมว่าตลาดหุ้นนั้นยังมีหุ้นเกลื่อนตลาดที่ราคาน่าสนใจจากวิกฤตที่เกิดขึ้นชั่วคราว
เอาแต่นอนกอดหุ้นอย่างเดียว มันไม่ค่อยจะสนุกเลยครับ