งบแย่..โดนหนัก

ช่วงนี้มีคนที่รู้จักถาม โมนิก้า ค่อนข้างเยอะว่า กลัวตลาดหุ้นไทยตกหนักไหม? เดี๊ยนเลยตอบทุกคนไปว่า ไม่กลัว! เพราะมันเป็นเรื่องปกติของตลาดหุ้นไทย


ช่วงนี้มีคนที่รู้จักถาม “โมนิก้า” ค่อนข้างเยอะว่า กลัวตลาดหุ้นไทยตกหนักไหม? เดี๊ยนเลยตอบทุกคนไปว่า ไม่กลัว! เพราะมันเป็นเรื่องปกติของตลาดหุ้นไทย และเป็นเรื่องที่หลายคนรับรู้พอเลา ๆ ว่า ทุกครั้งที่ตลาดหุ้นไทยยกฐานใหม่สูงขึ้นกว่าเดิม มักมีแรงขายทำกำไรออกมาเขย่าขวัญเป็นประจำ ผสานกับตลาดหุ้นไทยต้องเผชิญกับรายการ sell on fact หลังประกาศงบอย่างเป็นทางการ จึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องมานั่งวิตกจริตนะตัวเอง

เนื่องจากสิ่งที่ต้องคิดถัดมาก็คือ ไตรมาส 4 ยังเป็นช่วงที่บริษัทต่าง ๆ โกยกำไรไม่อั้นใช่ไหม? และถ้าเป็นแบบที่คิดไว้จริง ๆ ก็ควรจะเพลาการขายกันได้แล้ว เพราะอาจเข้าตำราขายหมูอีกครั้ง “โมนิก้า” จึงมองการยืนปิดที่ระดับ 1,622.45 จุด ลบไป 10.16 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.12 หมื่นล้านบาท คือจังหวะของคนที่ต้องการเก็บของเพื่อเอาไปขายในราคาที่สูงกว่า จึงอยากให้แฟนคลับคิดดี ๆ ก่อนจะเคาะซ้าย (ถ้ากำไรเยอะ ขายก่อนก็ได้)..อิอิอิ

เหมือนอาการที่เกิดขึ้นกับหุ้นควงเจริญ KCE ซึ่งถูกถล่มขายตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนสุดท้ายลงมายืนปิดที่ระดับ 45 บาท ลบไป 2.50 บาท หรือลงไป 5.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.28 พันล้านบาท “โมนิก้า” ก็มองเป็นเรื่องของ sell on fact ธรรมดา ๆ ไม่มีอะไรที่เป็นประเด็นให้ข้องใจแม้แต่นิดเดียว เพราะเมื่อดูจากกำไรที่พอโตได้ และราคาหุ้นเพิ่งผงกหัวได้ไม่ทันไร จึงกลายเป็นจังหวะของการช้อนหุ้นพะย่ะค่ะ

เช่นเดียวกับสถานการณ์ของหุ้นลีสซิ่ง MTC ก็ตกอยู่ในสภาพขาลงเป็นแรมปี ทั้งที่กำไรในบรรทัดสุดท้ายก็ยังดูดี ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่คล้ายกับในปี 63 โดยในปีนั้นกำไรก็ออกมาดีตลอด แต่ราคาหุ้นดันร่วงจาก 68 บาท ก่อนจะมาทำโลว์ที่ระดับ 30 บาท ก่อนจะมีแรงซื้อเข้ามาดันหุ้นกลับขึ้นไปแถว 60 บาท และทะยานขึ้นไปทำยอดใหม่ที่บริเวณ 70 บาท “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นลองกลับไปคิดกันว่า การยืนปิดที่ระดับ 34.75 บาท ลบไป 3 บาท หรือลงไป 7.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.55 พันล้านบาท ท่ามกลาง PE 15 เท่า น่าสนใจขนาดไหนเจ้าค่ะ

ในเมื่อเม้าท์ถึงประเด็นที่ต้องคิดกันทั้งที่ “โมนิก้า” ก็ขอเอ่ยถึงหุ้น SABUY สักหน่อย เพราะเป็นหุ้นที่นักเล่นให้ความสนใจเยอะมาก ๆ และการทรุดตัวของหุ้นลงมาปิดที่ 13.10 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 7.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 725 ล้านบาท ทั้งที่กำไรบรรทัดสุดท้ายโตระเบิด มันทำให้คนสงสัยกำไรที่เกิดขึ้นอาจเป็นแค่ตัวเลขทางบัญชี! จึงเป็นเรื่องที่ต้องตามดูกันต่อไปว่า สุดท้ายจะเป็นอย่างไรนะจ๊ะ

ส่วนรายที่มีอาการโคม่าอย่างหุ้น STGT ก็ต้องยอมจำนนแบบไม่มีข้อแม้ เพราะกำไรไตรมาส 3 ออกมาแย่กว่าคาด จึงทำให้นักเล่นระดมขายหุ้นทิ้งแบบไม่คิดชีวิต วานนี้จึงเห็นหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 10.20 บาท ลบไป 1.30 บาท หรือลงไป 11.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 541 ล้านบาท พร้อมกับมีเรื่องให้นักเล่นต้องคิดต่อไปว่า ไตรมาส 4 ฟื้นไหม? เพราะสถานการณ์ในปัจจุบันไม่เอื้อต่อธุรกิจถุงมือยาง ยิ่งเห็นกำไรต่อหุ้นงวดนี้เหลือแค่สตางค์เดียว ยิ่งขวัญผวาหนักกว่าเดิมจ้า!

ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น WICE เป็นรายถัดมา เพราะการที่หุ้นทรุดตัวลงมาปิดที่ระดับ 11.20 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 5.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 110 ล้านบาท มันเกี่ยวข้องโดยตรงกับกำไรไตรมาส 3 ที่ลดลงอย่างแน่นอน และเกี่ยวข้องกับพญามังกรยังไม่เปิดประเทศ ซึ่งตีความได้ว่า กำไรไตรมาส 4 ก็ไม่โตอีกกระมัง! ราคาหุ้นถึงอยู่ในทิศทางไซด์เวย์ดาวน์นานเหลือเกินนะจ๊ะ

หุ้นอีกรายที่อยู่ในข่ายโดนจัดหนักจากสต๊อกน้ำมันทำเหตุ และเป็นเรื่องที่หลายคนรับรู้มาระยะหนึ่งว่า งบไม่สวย ก็ต้องมองไปที่หุ้น IRPC หลังโดนขายจนราคาหุ้นลงมากองอยู่ที่ 3.08 บาท ลบไป 0.16 บาท หรือลงไป 4.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 578 ล้านบาทแบบไร้ทางสู้ เลยต้องใช้เวลาฟื้นตัวอีกระยะหนึ่ง และที่สำคัญคือ ต้องเคลียร์เรื่องสต๊อกให้เรียบร้อยเสียก่อน เดี๊ยนเลยเชื่อว่า หากราคาหุ้นลงต่ำกว่า 3 บาทน่าทยอยเก็บนะคะ

เม้าท์ถึงหุ้นที่น่าเก็บขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปยังหุ้น NER กันสักหน่อย เพราะเมื่อดูกำไรที่โตถึง 20% พ่วงด้วยการเทรดบน PE 5.80 เท่า มันเป็นจุดที่ชี้ว่า หุ้นมีอัพไซด์ค่อนข้างเยอะ และเป็นหนึ่งในหุ้นดาวเด่นที่เหมาะต่อการเล่นระยะยาว เดี๊ยนถึงมองการยืนปิดเสมอตัวที่ระดับ 5.95 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 83 ล้านบาท เป็นจังหวะของคนที่มีเงินเย็นโดยเฉพาะนะนายจ๋า!

Back to top button