จากนี้ อีกนานนนน…แฉทุกวัน ทันเกมหุ้น
ไม่อยากพูดถึง บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ SSI เลย เพราะอาจจะถูกตั้งข้อหาฝ่ายเดียว ด้วยความเข้าใจผิดๆ ว่า คอลัมน์นี้ ชอบข้ามคนล้ม ซึ่งไม่ใช่เจตนาประจำสถาบันของ ข่าวหุ้นธุรกิจ แม้แต่น้อย
ไม่อยากพูดถึง บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ SSI เลย เพราะอาจจะถูกตั้งข้อหาฝ่ายเดียว ด้วยความเข้าใจผิดๆ ว่า คอลัมน์นี้ ชอบข้ามคนล้ม ซึ่งไม่ใช่เจตนาประจำสถาบันของ ข่าวหุ้นธุรกิจ แม้แต่น้อย
ความต้องการให้นักลงทุนรู้ทันผู้บริหารและเกมหุ้นของบริษัทจดทะเบียน ต่างหากที่เป็นเป้าหมายสำคัญ
คำแถลงล่าสุดของเสี่ยวิน วิริยประไพกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มและกรรมการผู้จัดการใหญ่ SSI ล่าสุด ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า วันที่ 21 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นวันนัดไต่สวนวันแรกที่ศาลล้มละลายกลางระหว่าง SSI และ 3 เจ้าหนี้ธนาคาร คือ TISCO, SCB และ KTB สำหรับหนี้สินร่วม 4.3 หมื่นล้านบาท ของบริษัทจะทำอย่างไรกัน ทำให้ต้องมีประเด็นพูดถึงอย่างเลี่ยงไม่พ้น
เหตุผลก็เพราะเสี่ยวินพูดเอาไว้ชัดว่า การชำระบัญชีของ SSI UK ต้นเหตุของความยุ่งยากทั้งปวง จะยังไม่สามารถดำเนินการได้ในระยะอันสั้น
รายละเอียดเนื้อเต็ม ไม่ต้องตัดต่อ ประกอบด้วย ”…ทั้งนี้ บริษัทฯ ประเมินมูลค่าที่คาดว่าจะได้รับคืนหลังสิ้นสุดกระบวนการชำระบัญชีของ SSI UK เชิงอนุรักษนิยมเป็นศูนย์ เนื่องจากทรัพย์สินหลักของ SSI UK เป็นโรงงานถลุงเหล็กและผลิตเหล็กกล้าขนาดใหญ่ ถูกควบคุมโดยกฎระเบียบพิเศษทางด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม Control of Major Accident Hazards (COMAH) มีปัจจัยภายนอกหลายปัจจัยที่มีความไม่แน่นอนและอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัทฯ เช่น ความใช้ได้ของใบอนุญาตทางสิ่งแวดล้อม ขั้นตอนและกฎระเบียบในการดูแลรักษาทรัพย์สิน เป็นต้น จึงทำให้กระบวนการชำระบัญชีในกรณีนี้อยู่นอกเหนือกรณีปกติที่เคยมีมา ยังมีความไม่ชัดเจนในเชิงกฎหมายและขั้นตอนการชำระบัญชีโดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ทั้งนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างการหารือกับที่ปรึกษาทางกฎหมายและกลุ่มธนาคารเจ้าหนี้รายใหญ่เพื่อกำหนดแนวทางดำเนินการต่อไป”
ประโยคเดียวสั้นๆ แต่มีความหมาย คือ อย่าได้หวังจะได้เงินคืนจากทรัพย์สินของ SSI UK เพราะยังประเมินค่าไม่ได้
แน่นอนว่า หนี้ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของหนี้ 4.3 หมื่นล้านบาทที่จะเจรจาในศาลล้มละลายกลางด้วย
ตีความเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยว่า ตัวเลขขาดทุนสุทธิรวม 33,122 ล้านบาทของ SSI ไตรมาส 3 ล่าสุดที่เพิ่งประกาศออกมา โดยรวมประมาณการขาดทุนจากการชำระบัญชีของ SSI UK มูลค่า 28,877 ล้านบาท ไม่ชัดเจนแล้วว่าจะถูกต้องหรือไม่…เพราะอาจจะมีมากหรือน้อยกว่านั้นได้ ขึ้นกับการประเมินในภายหน้า
แล้วอย่างนี้ เจ้าหนี้จะตีค่าเพื่อเจรจาต่อได้อย่างไร?
…อึ้ง กิม กี่ กันไปเลยนะสิ…ถามได้
ใครที่คาดว่ากรณีนี้จะจบลงรวดเร็ว…เลิกคิดได้เลยนะจ๊ะ
คำแถลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก วันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขึ้นเครื่องหมาย SP ห้ามซื้อขายหุ้นของ SSI เพราะว่า น.ส.สุรีย์รัตน์ ทองอรุณแสง ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต บริษัท เคพีเอ็มจี ภูมิไชย สอบบัญชี ไม่แสดงความเห็นต่อข้อมูลทางการเงินสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558 นี้เพราะมีข้อจำกัดในการเข้าไปตรวจสอบงบของบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี ยูเค (เอสเอสไอยูเค) ที่กำลังชำระบัญชีอยู่ ส่งผลกระทบอย่างมีสาระสำคัญต่องบเอสเอสไอ เพราะเจ้าหนี้รายใหญ่ขอเรียกหนี้คืนทันทีรวม 43,424 ล้านบาท เป็นหนี้ของ SSI UK มูลค่า 29,764 ล้านบาท และหนี้ที่ SSI ค้ำประกันอีก 13,660 ล้านบาท และเกิดข้อสงสัยอย่างมีนัยสำคัญเกี่ยวกับความสามารถในการดำเนินงานต่อเนื่องของบริษัท
นัยของคำแถลงครั้งล่าสุดของเสี่ยวิน คือ เชื่อมั่นว่าจะหาเงินทุนหมุนเวียนและสินเชื่อเพียงพอสำหรับการดำเนินธุรกิจในอนาคต ภายใต้สมมติฐานว่าการฟื้นฟูกิจการตามแผนฟื้นฟูจะประสบความสำเร็จ…เนื่องจากมีแต้มต่อเหนือเจ้าหนี้หลายขุม
เหตุผลก็เพราะทั้งเสี่ยวิน และเจ้าหนี้ ถือหลักปรัชญาร่วมกันคือ Too Big to be Failed…ยิ่งใหญ่ ยิ่งล้มไม่ได้
เพราะขืนปล่อยให้ล้ม หนี้สินรวมล่าสุดของ SSI ที่ 65,738.44 ล้านบาท ก็จะสูญเปล่าในอากาศ เพราะว่าส่วนผู้ถือหุ้นของ SSI ตอนนี้ติดลบไป 35,382.65 ล้านบาท และบู๊คแวลูติดลบ 0.06 บาทต่อหุ้น
ล้มก็หนี้สูญ ปล่อยไว้ก็เจ้าหนี้เจ๊งเพิ่มแทน
ชักตื้นติดกึก ชักลึกติดกัก…เป็นสถานการณ์กลืนไม่เข้า คายไม่ออกของแบงก์เจ้าหนี้ SSI นับจากนี้ไป
แต่ฟากลูกหนี้นั้น วิน-วิน อย่างเดียว
สบาย…สบาย…ๆๆๆ