LH บ้านหรูดีมานด์แกร่ง
LH บริษัทอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ที่ครองแชมป์ทำกำไรสูงสุดมาหลายปีซ้อน ปีนี้คาดว่าจะกลับมาเติบโตโดดเด่นอีกครั้ง หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย
คุณค่าบริษัท
บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ที่ครองแชมป์ทำกำไรสูงสุดมาหลายปีซ้อน เพิ่งจะมาเสียแชมป์ให้กับบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เมื่อปีที่แล้ว แต่คาดว่าปีนี้น่าจะกลับมาเติบโตโดดเด่นอีกครั้ง หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย
โดยมีการประเมินกันว่า ยอดขาย (Presale) ในไตรมาส 3/2565 จะอยู่ที่ 9,160 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ยอดขายสะสม 9 เดือนแรกของปี 2565 แตะระดับ 24,600 ล้านบาท หรือคิดเป็น 79% ต่อเป้าหมายของบริษัท แบ่งเป็น กลุ่มแนวราบ 8,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% ได้แรงหนุนจากมูลค่าเปิดตัวโครงการใหม่ที่สูงขึ้นในไตรมาส 3/2565 ที่ 14,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 274% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และกลุ่มคอนโดมิเนียม 675 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 147% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการคลายล็อกดาวน์และการเปิดประเทศ
ขณะที่ ปี 2565 LH ตั้งเป้าหมายรับรู้รายได้จากยอดโอนไว้ที่ 33,000 ล้านบาท และเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 31,000 ล้านบาท
บล.พาย ประเมินกำไรสุทธิในไตรมาส 3/2565 ของ LH ไว้ที่ 1,960 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รับปัจจัยหนุนจาก 1) การรับรู้รายได้จากยอดขายอสังหาริมทรัพย์ที่สูงขึ้นเป็น 7,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนจากโครงการเดอะ คีย์ พระราม 3 2) ส่วนแบ่งกำไรสูงขึ้นเป็น 716 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 3) อัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ 31.5% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้านบล.กรุงศรี คาดกำไรของ LH จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งเฉลี่ยถึง 17% CAGR ในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยจะมาจาก 1) ยอดโอนที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ 2) รายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้นจากโรงแรมใหม่ (Space พัทยา GCP) และศูนย์การค้าใหม่ (T21 พระราม 3) ท่ามกลางการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และ 3) กำไรจากการขายสินทรัพย์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแหล่งรายได้ที่ค่อนข้างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในปัจจุบัน LH มีสินทรัพย์ในประเทศ 3 แห่ง และในต่างประเทศ 4 แห่งที่สร้างรายได้แบบ recuring income ซึ่งจะทำให้บริษัทมีกำไรจากการขายสินทรัพย์ได้อีกอย่างน้อย 7 ปีข้างหน้า ซึ่งยังไม่รวมโรงแรมใหม่สามแห่งที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ได้แก่ GCP ลุมพินี, GCP สุรวงศ์ และ GCP ราชดำริ 2
สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น LH ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 14.95 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 17.70 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายต่ำกว่าตลาด แต่อย่างไรก็ตามถ้าดูจาก P/BV ที่ระดับ 2.19 เท่า ก็ถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ปัจจุบันซื้อขาย P/BV เฉลี่ยที่ 1.62 เท่า
…
รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่
- นายอนันต์ อัศวโภคิน 23.93%
- บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 18.51%
- บริษัท เมย์แลนด์ จำกัด 5.67%
- THE BANK OF NEW YORK MELLON 3.02%
- สำนักงานประกันสังคม 2.88%
รายชื่อกรรมการ
- นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ ประธานกรรมการบริษัท, ประธานกรรมการบริหาร
- นายวัชริน กสิณฤกษ์ กรรมการผู้จัดการ, กรรมการ
- นายโชคชัย วลิตวรางค์กูร กรรมการผู้จัดการ, กรรมการ
- นายวิทย์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ, กรรมการ
- นายนันทวัฒน์ พิพัฒวงศ์เกษม กรรมการ
- นายอาชวิณ อัศวโภคิน กรรมการ
- นายภควัต โกวิทวัฒนพงศ์ กรรมการอิสระ, ประธานกรรมการตรวจสอบ
- นายพิภพ วีระพงษ์ กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
- นายบัณฑิต พิทักษ์สิทธิ์ กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ