‘ด่วนกะทู้-ป่าตอง’ เกมชี้วัดคอนเนคชั่น.!?
แม้ตัวเลขมูลค่าโครงการไม่ได้สูงมากนัก..แต่ “โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง” กลับกลายเป็นโครงการเนื้อหอมที่จะต้องเข้าประมูลแย่งชิงให้ได้
แม้ตัวเลขมูลค่าโครงการไม่ได้สูงมากนัก..แต่ “โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง” กลับกลายเป็นโครงการเนื้อหอมที่บรรดาบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง, บริษัทผู้ให้บริการทางด่วนและทางพิเศษต่าง ๆ หมายมั่นปั้นมือกันไว้ว่า จะต้องเข้าประมูลแย่งชิงโครงการนี้ให้ได้..ในยามที่ “เมกะโปรเจกต์” ของรัฐเหือดแห้งเช่นนี้
เริ่มจากบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT ที่ประกาศตัวชัดเจนว่าเข้าร่วมประมูลอย่างแน่นอน ตามด้วยบริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมตัวเข้าร่วมทุน (Joint Venture) เช่นเดียวกับบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ที่พร้อมจะควงลูกบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ร่วมสู้ศึกด้วยเช่นกัน ส่วนบริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL รับเหมาก่อสร้างรุ่นเก๋า..แต่เป็นน้องใหม่ในตลาดหุ้น มีโครงการนี้อยู่ในแผนด้วย
ที่น่าจับตาเป็นพิเศษ..หนีไม่พ้นกลุ่มกิจการร่วมค้า BGSR (ประกอบด้วยบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS, บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF, บริษัท ซิโน-ไทยเอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC และบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH)
อย่าลืมนะว่ากลุ่มกิจการร่วมค้า BGSR ชนะประมูลโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 (สายบางปะอิน- นครราชสีมา) (M6) และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 (สายบางใหญ่-กาญจนบุรี) มาแล้ว..!!?
ล่าสุดการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ระบุว่า โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ระยะทาง 3.98 กิโลเมตรวงเงินลงทุน 14,670 ล้านบาท จะมีการเปิดประมูลคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมทุน ภายในสัปดาห์แรกเดือน ธ.ค. 2565 และให้เวลาในการจัดทำข้อเสนอ 90 วัน เพื่อยื่นข้อเสนอประมาณต้นเดือน มี.ค. 2566
หากไม่ติดอันใดจะได้ข้อสรุปผู้ร่วมลงทุนช่วงปลายปี 2566 ระยะเวลาก่อสร้าง 4 ปี และเปิดให้บริการปี 2570 รองรับกับการจัดงาน World Specialised Expo 2028
สำหรับโครงการนี้ลักษณะการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ในรูปแบบ PPP Net Cost โดยภาครัฐรับผิดชอบการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและภาคเอกชนรับผิดชอบงานส่วนที่เหลือทั้งหมด ได้แก่ การออกแบบ, รายละเอียดและการก่อสร้าง, และการดำเนินงานและบำรุงรักษา (Operation and Maintenance : O&M) ประเมินปริมาณจราจรเฉลี่ย 70,000 คันต่อวันและโครงการนี้ เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายใหม่และนักลงทุนต่างชาติเข้ามาแข่งขันมากขึ้น
จากผลการศึกษาของกทพ.โครงการนี้ มีอัตราผลตอบแทนด้านเศรษฐกิจ (EIRR) 20.44%, ผลตอบแทนด้านการเงินมีมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) 1,734 ล้านบาท Equity IRR 8.50% อัตราส่วนผลตอบแทนต่อต้นทุน (B/C ratio) 1.12 เท่า ระยะเวลาคืนทุน 21 ปี ส่วนรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติและได้รับการอนุมัติให้ใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้..เรียบร้อยแล้ว
สำหรับรูปแบบโครงการเป็นการก่อสร้างทางยกระดับ มีอุโมงค์อยู่ช่วงกลางของแนวเส้นทาง ระยะทางรวม 3.98 กิโลเมตรเป็นทางพิเศษขนาด 4 ช่องจราจรต่อทิศทางจุดเริ่มต้นโครงการเชื่อมกับถ.พระเมตตา พื้นที่ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จนถึงจุดสิ้นสุดโครงการพื้นที่ต.กะทู้ อ.กะทู้ มีทางขึ้น-ลง 2 แห่ง และมีด่านเก็บค่าผ่านทางตั้งอยู่บริเวณ ต.กะทู้ 1 ด่าน และถือเป็นโครงการทางด่วนสายแรกที่มีการเปิดให้บริการรถจักรยานยนต์สามารถใช้บริการได้ เบื้องต้นมีอัตราค่าบริการรถจักรยานยนต์จะอยู่ที่ 15 บาท ส่วนรถ 4 ล้อ อยู่ที่ 40 บาท รถ 6-10 ล้อ อยู่ที่ 80 บาท และมากกว่า 10 ล้อ อยู่ที่ 120 บาท
ถือเป็นโครงการที่ต้องจับตามองอย่างยิ่ง เพราะไม่เพียงแข่งขันกันเป็นปกติวิสัยเท่านั้น แต่เป็นการวัด “ขุมข่ายคอนเนคชั่น” ช่วงบั้นปลายรัฐบาลชุดนี้..ได้เป็นอย่างดีทีเดียว..!!