เพราะ…เปลี่ยนนามสกุล??แฉทุกวัน ทันเกมหุ้น
วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน กลายเป็นวันลากวินาศสำหรับราคาหุ้นของบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เพราะหลังจากบ่ายสามโมงครึ่งไปจนถึงปิดตลาด มีแรงเทขายหุ้นนี้ออกมาแรงสุดชนิดควบคุมไม่ได้ สวนทางกับราคาหุ้นตัวอื่นและดัชนีตลาด จากระดับประคองตัวที่ 3.08 บาท ลงมาปิดตลาดที่ 2.94 บาท แต่ก่อนหน้าจะปิดตลาดลงไปที่จุดต่ำสุดของวัน 2.86 บาท เลยทีเดียว
วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน กลายเป็นวันลากวินาศสำหรับราคาหุ้นของบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เพราะหลังจากบ่ายสามโมงครึ่งไปจนถึงปิดตลาด มีแรงเทขายหุ้นนี้ออกมาแรงสุดชนิดควบคุมไม่ได้ สวนทางกับราคาหุ้นตัวอื่นและดัชนีตลาด จากระดับประคองตัวที่ 3.08 บาท ลงมาปิดตลาดที่ 2.94 บาท แต่ก่อนหน้าจะปิดตลาดลงไปที่จุดต่ำสุดของวัน 2.86 บาท เลยทีเดียว
ต้นตอของแรงเทขายมาจากข่าวลือว่า สองสามีภรรยา ผู้ก่อตั้งและถือหุ้นใหญ่ของบริษัท หมอสมยศ อนันตประยูร ประธานกรรมการและซีไอโอ และนางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองประธานกรรมการ(ชื่อและนามสกุลเดิม นางจรีพร อนันตประยูร) พากันทิ้งหุ้นด้วยสาเหตุที่ไม่เปิดเผย
เดือดร้อนต้องออกโรงมาแก้ต่างเป็นพัลวันว่า ไม่มี…ไม่มีการทิ้งหุ้น
แถมยังตั้งโต๊ะชี้แจงว่า มีแต่จะซื้อเพิ่มเท่านั้นเอง เพราะแผนการลดหนี้ของบริษัทหลังสร้างหนี้จากดีลใหญ่เทกโอเวอร์ HEMRAJ ที่ทำให้กิจการขาดทุนในไตรมาสสามที่ผ่านมาสดๆ ร้อนๆ ยังคงเดินหน้า
แผนดังกล่าว มีทั้งขายสินทรัพย์เข้ากอง WHART ในเดือนธ.ค. 2558 จะได้เงินราว 4 พันล้านบาท และการถอน HEMRAJ ออกจากตลาดฯ ในต้นเดือนมี.ค. 2559 จากนั้นจะเสนอขายกอง Hemraj REIT ในเดือนเดียวกัน จะได้เงินราว 7.5 พันล้านบาท และนำกระแสเงินสดเหล่านี้ไปชำระหนี้ทันที ทำให้ภาระหนี้ระยะสั้นลดลงเหลือไม่เกิน 1.4 หมื่นล้านบาท หรือลดลงกว่า 50%
ในคำชี้แจงดังกล่าว ผู้บริหารคนหนึ่งของ WHA ระบุอย่างมีนัยสำคัญ 2 อย่างว่า “เท่าที่ตรวจสอบ พบว่ามีคนต้องการใช้ประโยชน์จากข่าวลือ เพื่อทุบหุ้น ทั้งเรื่องของการยืมหุ้นมาขายชอร์ต หรือผู้บริหารเปลี่ยนนามสกุล เพราะทะเลาะกัน ผู้บริหารจะทิ้งหุ้น ซึ่งเราขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง”
คำชี้แจงช่วยได้ก็เพียงแค่ทำให้ราคาหุ้นกลับมาที่เหนือ 3 บาท อันเป็นราคาระดับก่อนถูกทุบลงไป แต่ที่หวังจะให้กลับไปที่ราคาแนะนำของนักวิเคราะห์คือ เหนือ 5 บาท คงต้องรออีกนานเป็นปี
ถ้าพิจารณาแล้ว 2 สาเหตุที่ยกขึ้นมาอ้างของ WHA ยังคงไม่รู้ว่าสาเหตุไหนจะเป็นหลัก
เรื่องเปลี่ยนคำนำหน้าและนามสกุลของจรีพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองประธานกรรมการ จากคำว่า นาง และนามสกุล อนันตประยูร มาเป็น นางสาว และ นามสกุลเก่าของตนเอง จารุกรสกุล จนมีข่าวลือกันว่า ”เตียงหัก” นั้น แม้จะเป็นข่าวลือที่ไม่มีเหตุผลมากนัก แต่เป็นประเด็นเปราะบางสำหรับสังคมไทยไม่น้อย
ชื่อ นามสกุล และคำนำหน้าชื่อ ล้วนโยงใยเข้ากับ ฮวงจุ้ย โหงวเฮ้ง และ ภาพลักษณ์ของผู้บริหารอย่างมากมาย ชนิดแยกไม่ออก
เป็นที่ทราบกันมาตั้งแต่เปิดตัวเข้าระดมทุนในตลาดแล้วว่า หมอสมยศนั้น มีหลังบ้านที่ “ยิ่งใหญ่” ชื่อ จรีพร ทำให้สะดวกสบายในการรุกธุรกิจ จากบริษัทขนาดกลางจนมาเป็นกิจการเฉียดแสนล้าน
คำพังเพยเก่าที่ว่า “เบื้องหลังบุรุษที่ยิ่งใหญ่ คือสตรีที่ยิ่งใหญ่กว่า” ยังคงใช้การได้เสมอในทุกกรณี …ห้ามเถียง
การเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ จาก นาง เป็นนางสาว และกลับไปใช้นามสกุลเดิม แทนที่นามสกุลของสามี โดยมีรายละเอียดเสริมว่า ด้วยสาเหตุอะไร ย่อมทำให้เกิดข่าวลือซุบซิบได้ง่าย…เหมือนนิทานน้ำผึ้งหยดเดียว
ข่าวลือเรื่อง เตียงหัก ของนักธุรกิจ จึงไม่ใช่ข่าวลือ “ส่วนตั๊ว ส่วนตัว” แบบดาราบางคน ที่ชอบบอกว่า ”ขอลดสถานะ จากแฟน เป็นเพื่อน” อะไรน้ำเน่าเทือกนั้น แต่มันบ่งบอกว่า อาจจะมีรายการแยกทรัพย์สิน หรือทางใครทางมันขึ้นมาได้
ถ้าบอกให้ละเอียดอีกนิดหนึ่งว่า แยกกันด้วย ”เหตุผลทางธุรกิจ หรือเหตุผลทางการวางแผนภาษี” และยังนอนเตียงเดียวกัน (เตียงอาจสั่นได้บางคืน แต่ไม่มีหัก) อาจจะทำให้เข้าใจง่ายกว่าเยอะ
ใครบอกว่าเปลี่ยนนามสกุล ไม่สำคัญ…ดูเรื่องนี้เป็นตัวอย่าง
ส่วนเรื่องของมีคนทุบหุ้นนั้น มีกรณีเดียวที่เป็นไปได้คือ ทุบหุ้นแม่เพื่อให้คนถือ ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น หรือ WHA-W2 ที่มีอยู่ทั้งหมด 1,314,395,958 หน่วย (10% ของหุ้นเดิมที่มีอยู่) ที่ใกล้จะหมดอายุ และต้องเอ็กเซอร์ไซส์ หรือแปลงสิทธิ์ในราคา 2.70 บาท (ดังที่เคยมีคนทำมาแล้ว ในกรณีของ BLAND-w2) แต่กรณีดังกล่าว เป็นไปไม่ได้ เพราะว่า WHA-W2 นั้น หยุดเทรดไปตั้งแต่เทรดวันสุดท้าย วันที่ 17 พฤศจิกายน 2558 เป็นต้นไปแล้ว
ทุบแม่ไป ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะบัญชีรายชื่อคนถือวอร์แรนต์ WHA-W2 ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีกแล้ว เหลือแต่ว่าผู้ถือ WHA-W2 จะไปแจ้งใช้สิทธิ์ของตนเอง 27 พฤศจิกายน-11 ธันวาคม 2558 ก่อนจะถึงวันใช้สิทธิ์จริงคือจันทร์ที่ 14 ธันวาคม 2558
ทุบไปก็ป่วยการ ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เปลี่ยนแปลงสถานการณ์ไม่ได้เลย
ข้อกล่าวหาว่ามีคนทุบหุ้น จึงดูเลื่อนลอย
มีกรณีเดียวที่เป็นไปได้คือ ขายหุ้นแม่ เอาเงินสดแปลงสิทธิ์ซื้อลูก ซึ่งก็ดูแล้วไม่สมเหตุสมผล
ในกรณีนี้ ผู้ช่ำชองวงการ (ไม่ขอประสงค์เอ่ยนาม) ระบุว่า การร่วงลงของราคา WHA น่าจะเป็นการปรับตัวตามปกติของหลัก price dilution มากกว่า เพื่อรองรับราคาที่จริงหลังการแปลงสิทธิ์ในวันที่ 14 ธันวาคม ล่วงหน้า
ในมุมกลับกัน ราคาหุ้น WHA ที่กลับขึ้นมาเหนือ 3.00 บาท จึงน่าจะถือเป็นราคา “ไม่ปกติ” มากกว่า