หุ้นร้อนตัวแรง

ตอนนี้คงต้องยอมรับกันตรง ๆ ว่า หุ้นใหญ่คือกลุ่มที่ไม่อยู่ในเรดาร์ความสนใจของแมงเม่า ซึ่งสังเกตได้จากข่าวเม้าท์ที่ออกมาจากเม่ากลุ่มต่าง ๆ ล้วนเม้าท์ถึงหุ้นร้อนกันอย่างอื้ออึงราวกับอึ่งอ่างรำพันหาคู่ทั่วท้องนา “โมนิก้า” จึงต้องตามกระแสมหาชนเพื่อไม่ให้ตัวเองตกยุค เพราะการลงทุนในเที่ยวนี้เขาวัดกันที่ข่าวลือมากกว่าพื้นฐาน เลยทำให้หุ้นใหญ่ถูกเบียดตกกระป๋องอย่างง่ายดายพะย่ะค่ะ

ถ้าว่ากันตามตรงก็คือหุ้นใหญ่หมดสตอรี่ ผนวกกับกองทุนก็ตั้งป้อมสาดหุ้น ส่วนฝรั่งตาน้ำข้าวก็เอาแต่ตั้งรับ ดัชนีถึงแกว่งตัวไปมาในกรอบ 1,600-1,640 จุดเป็นเวลาร่วมเดือน และเป็นเหตุผลที่ทำให้หุ้นใหญ่หลายตัวเทคตัวไม่ผ่านแนวต้านสำคัญขึ้นไปได้ จึงลงมาตั้งหลักเล่นใหม่ที่บริเวณฐานด้านล่าง และรอเวลาให้ฟ้าฝนเป็นใจอีกครั้ง ต่อจากนั้นถึงจะเห็นหุ้นใหญ่กลับมาโฉบเฉี่ยวบนกระดานหุ้นเจ้าค่ะ

ฉะนั้นการที่ดัชนีมีอาการเมาหมัด จนหมุนเคว้งตลอดทั้งวัน แม้จะพยายามตั้งหลักลุกขึ้นมาใหม่ แต่สุดท้ายก็โดนตบลงมาปิดที่ระดับ 1,620.84 จุด ลบไป 4.12 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.67 หมื่นล้านบาท จึงเป็นเรื่องที่พอทำใจได้ในระดับหนึ่ง และต้องปล่อยให้เวทีนี้เป็นของหุ้นร้อนไปครองอีกสักหนึ่งถึงสองสัปดาห์นั้น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ควรปล่อยให้เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เพราะก๊วนขาใหญ่กระโจนเข้ามาลุยหนักเหลือเกินจ้า!

เหมือนกับในรายของหุ้น MORE มหาประลัย มักสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ๆ ตลอดเวลา จนบางคนรู้สึกเอือมระอากับสิ่งที่เกิดขึ้น (พอเจ็บตัวขึ้น ก็ร้องเป็นแมว) แต่บางคนกลับมองเป็นจังหวะได้เปรียบ และต้องเล่นตามน้ำไปกับเจ้ามือ เพราะคนคุมเกมหุ้นคงไม่ทุบหุ้นในช่วงนี้ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นหุ้นขยับขึ้นไปอีก “โมนิก้า” จึงต้องเอ่ยปากเตือนด้วยความหวังดีว่า ถ้าจะคิดจะเล่นกับไฟแบบนี้ ก็ต้องเผื่อใจโดนไฟคลอกด้วย หลังหุ้นยืนปิดได้แค่ระดับ 0.58 บาท ลบไป 0.01 บาท หรือลงไป 1.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 905 ล้านบาทน่ะซี

เช่นเดียวกับคนที่เข้ามาเล่นหุ้น JTS แบบไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของรสนิยมส่วนตัวมากกว่าเรื่องอื่น เพราะเมื่อดูตลาดคริปโตที่ตกอยู่ในสถานการณ์พังทลายไปทีละรายสองราย ก็ทำให้หุ้นเหมืองรายนี้มีความเสี่ยงเต็มประตู แต่ทันทีที่ “ไบแนนซ์” มีการประกาศตั้งกองทุนฟื้นฟูคริปโต ก็ทำให้หุ้นตัวนี้วิ่งระเบิดเถิดเทิงทันที..เว่อร์ไปไหม? จึงอยากให้แฟนคลับประเมินการปิดที่ 40.75 บาท บวกไป 9.25 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 262 ล้านบาท เป็นการปลุกผีอ๊ะป่าว?

ประเด็นร้อนดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องรีบชำเลืองตามองไปที่หุ้น POLY เป็นลำดับถัดมา เพราะรายชื่อที่โผล่มาให้เห็นคาตาเที่ยวนี้มันเหมือน A5 สาขา 2 โดยเฉพาะการเข้ามาไล่เก็บหุ้นเพิ่มในกระดานของ “ทวีรัช” มันทำให้รู้ว่าเที่ยวนี้จัดหนักแบบไม่มีถอย แถมได้กองหนุนจาก “เสี่ยปู่” ที่เป็นคนคอยอัดฉีด ราคาหุ้นถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 15 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 0.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 837 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 41 เท่าแบบนี้..บอกได้คำเดียวว่า เว่อร์เกิน! และมีคนติดดอยแน่ ๆ..ถ้าไม่เชื่อ ก็คอยดูแล้วกัน..อิอิอิ

ในเมื่อนักเล่นมีความกระสันเป็นทุนเดิม และเจ้ามือยังไม่อยากให้ลูกค้าลุกจากวง จึงจำเป็นต้องเคาะกะลาเรียกแขกให้อยู่ต่ออีกนิดหนึ่ง “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่เจ้ามือพยายามยกหุ้น TH กลับขึ้นมาอีกครั้ง แต่ดูเหมือนเงินในกระเป๋าจะหมดเสียก่อนกระมัง! หุ้นเลยยืนได้แค่ระดับ 2.68 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือลงไป 0.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 170 ล้านบาท ท่ามกลางผู้ถือหุ้นใหญ่พัวพันปั่นหุ้นแบบนี้..กล้าเล่นต่อกันจริง ๆ เหรอคะ

เม้าท์ถึงเรื่อง “ความกล้า ท้านรก” ขึ้นมาปุ๊บ ต้องให้พื้นที่กับหุ้น ZIGA มากเป็นพิเศษ เพราะนี่เป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่เทหน้าตักไปยังเรื่องคริปโตแบบสุดซอย..สุดท้ายก็ไม่เป็นเหมือนที่ฝันไว้ ราคาหุ้นก็ทรุดลงมาเรื่อย ๆ แต่หุ้นก็กลับมาใหม่ด้วยเรื่องกองทุนฟื้นฟูคริปโตแบบนี้ “โมนิก้า” เลยกลัวเหลือเกินว่า เดี๋ยวจะพากันไปตายบนยอดดอย จึงอยากให้นักเล่นคิดก่อนว่า การยืนปิดที่ระดับ 3.86 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 6.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 447 ล้านบาท ไม่เสี่ยงจริงเหรอวิ!

ตบท้ายกันที่หุ้นร้อนอย่าง DEMCO กันสักหน่อย เพราะบิ๊กล็อตที่เกิดขึ้นเป็นจำนวน 170 ล้านหุ้นเที่ยวนี้ มันสื่อให้เห็นว่า ป.พาเพลินเข้ามากุมทุกอย่างเบ็ดเสร็จ แถมก่อนหน้านี้ได้เห็น “ธนา พาวเวอร์ โฮลดิ้ง” ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ WEH เข้ามาเก็บหุ้นเพิ่มไปอีกล็อต จึงตีความได้อย่างเดียวว่า งานใหญ่! เพราะสิ่งที่รออยู่ข้างหน้าก็คือการประมูลไฟหมุนเวียน 5 พันเมกฯ จึงไม่แปลกใจที่ราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาเรื่อย ๆ จนล่าสุดขึ้นมาปิดที่ระดับ 5.45 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 4.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.12 พันล้านบาท เพราะถ้าได้ไฟมาจริง ๆ ก็กินรวบตั้งแต่ฐานราก จนไปถึงติดตั้ง และจ่ายไฟไงล่ะคะ