TKN กำไรงอกเงย
หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย มีการเปิดเมือง เปิดประเทศ ก็เห็นการฟื้นตัวของ TKN อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงบไตรมาส 3/65
คุณค่าบริษัท
บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ซึ่งทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยวประเภทสาหร่ายทั้งในและต่างประเทศภายใต้แบรนด์ “เถ้าแก่น้อย” รวมถึงขนมขบเคี้ยวและผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ เป็นอีกบริษัทที่บาดเจ็บหนักจากวิกฤตโควิด เนื่องจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเป็นลูกค้าหลักหายไป จากมาตรการปิดประเทศ และการใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ หรือ Zero-COVID ของจีน
สะท้อนได้จากผลประกอบการในปี 2563 ที่รายได้รวมเหลือแค่ 3,998 ล้านบาท กำไรสุทธิเหลือ 242 ล้านบาท ส่วนปี 2564 มีรายได้รวม 3,636 ล้านบาท กำไรสุทธิลดเหลือ 182 ล้านบาท
แต่หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย มีการเปิดเมือง เปิดประเทศ ก็เห็นการฟื้นตัวของ TKN อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงบไตรมาส 3/2565 ที่มีกำไรสุทธิ 179 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 835% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 19 ล้านบาท และมีรายได้จากการขาย 1,208 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 830 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากตลาดในประเทศ 444 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.6% และรายได้จากตลาดต่างประเทศ 764 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.2%
จะเห็นว่าเป็นการเติบโตทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเกิดจากการเติบโตของสินค้าใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มสาหร่ายอบ ควบคู่ไปกับการเติบโตจากการขยายช่องทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย และเวียดนาม ที่มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้
โดยในไตรมาสนี้ แม้ต้นทุนขายจะเพิ่มขึ้น 25.2% อยู่ที่ 840 ล้านบาท แต่เพิ่มในอัตราที่น้อยกว่ารายได้จากการขาย ส่งผลให้กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 368 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 130.7%
ขณะที่ ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2565 มีกำไรสุทธิ 313 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 221% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 97 ล้านบาท และมีรายได้จากการขาย 3,135 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการขาย 2,533 ล้านบาท
ส่วนแนวโน้มในไตรมาส 4/2565 คาดว่าการฟื้นตัวของยอดขาย ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มมีแรงผลักดันยอดขายจากจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศไทยและอีกหลาย ๆ ประเทศที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งมีการทำการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตที่ดี โดยมุ่งเน้นเรื่องของการขยายฐานลูกค้าและสินค้าใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
ทำให้คาดว่า ผลงานในปี 2565 ของ TKN น่าจะกลับมาเติบโตโดดเด่นมากกว่าช่วงเกิดโควิด
สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น TKN ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 39.88 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 17.62 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาด สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 7.70 เท่า ก็อาจสูงว่าค่าเฉลี่ยที่ส่วนใหญ่ P/BV จะอยู่ที่ระดับ 1.60 เท่า
…
รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่
- บริษัท พีระเดชาพันธ์ โฮลดิ้ง 360,000,000 หุ้น 26.09%
- นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ 298,676,200 หุ้น 21.64%
- บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) 138,000,000 หุ้น 10.00%
- บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 70,899,497 หุ้น 5.14%
- น.ส.อรพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ 56,615,000 หุ้น 4.10%
รายชื่อกรรมการ
- นายยุทธ วรฉัตรธาร ประธานกรรมการ, กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
- นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ
- น.ส.อรพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ กรรมการ
- น.ส.พรธีรา รงคะศิริพันธ์ กรรมการ
- นายจิระพงษ์ สันติภิรมย์กุล กรรมการ
- น.ส.มุกดา ไพรัชเวทย์ กรรมการ
- นางวณี ทัศนมณเฑียร กรรมการอิสระ, ประธานกรรมการตรวจสอบ
- นายชัยยงค์ รัตนเจริญศิริ กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
- นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการอิสระ