พาราสาวะถี
อ่านกันไว้ไม่มีผิด การตั้ง ธนกร วังบุญคงชนะ ขึ้นชั้นเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ
อ่านกันไว้ไม่มีผิด การตั้ง ธนกร วังบุญคงชนะ ขึ้นชั้นเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ เพื่อใช้เป็นมือไม้ทำงานแทนในมิติทางการเมือง อันหวังผลไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะเกิดขึ้นกับพรรครวมไทยสร้างชาติ เห็นได้จากคำสั่งล่าสุดที่ให้ธนกรไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมมอบนโยบายกับให้ผู้บริหารสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้งที่ การกำกับดูแลงานดังกล่าวเป็นหน้าที่ของ อนุชา นาคาศัย
ไม่มีอะไรซับซ้อน นี่คือคนที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจไว้วางใจที่สุดในฐานะผู้ภักดีทำงานรับใช้แบบถวายหัว เมื่อหัวหมู่ทะลวงฟันอย่าง เสกสกล อัตถาวงศ์ ได้ไปกรุยทางแผ้วถางพรรคใหม่ไว้รอจน พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เข้ามากุมบังเหียนพร้อมลุยศึกเลือกตั้ง การจะใช้งานคนการเมืองที่ดึงมาจากพรรคต่าง ๆ โดยเฉพาะจากประชาธิปัตย์นั้น เห็นได้ชัดว่าท่านผู้นำยังไม่ไว้วางใจใคร และนี่ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ สุเทพ เทือกสุบรรณ หลุดไปจากวงโคจรของการจะได้เข้ามาบัญชาการพรรคของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ
การให้คนที่ไว้วางใจไปลุยพื้นที่จังหวัดทางภาคใต้ เป็นการตอกย้ำว่าผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจตั้งความหวังกับการจะได้ที่นั่ง ส.ส.ในดินแดนด้ามขวานเป็นพื้นที่หลัก รวมถึงใน กทม.ด้วย เพียงแต่ว่านาทีนี้ต้องการที่จะไปกรุยทางเพื่อปักหลักลงฐาน สร้างความมั่นใจก่อนว่าอย่างน้อยจะต้องมี ส.ส.จากภาคใต้ไม่น้อยกว่า 20 เสียงขึ้นไป เพื่อการันตีสิทธิ์ในการที่จะให้พรรครวมไทยสร้างชาติมี ส.ส.ไม่น้อยกว่า 25 คนสำหรับการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณา
โจทย์ตรงนี้ไม่ว่าพรรคการเมืองใดก็ต้องทำให้ได้ มิเช่นนั้น จะไม่สามารถเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของตัวเองได้ จุดนี้อาจจะมองกันว่าไม่น่าจะใช่เรื่องยากสำหรับผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ แม้กระทั่งพีระพันธุ์เองก็ยืนยันว่าจะได้ ส.ส.จำนวนดังกล่าวอย่างแน่นอน และจะมากกว่านั้นเสียด้วยซ้ำ ทางการเมืองเป็นเรื่องปกติที่หัวหน้าทุกพรรคจะต้องประกาศเป้าหมายสูงลิ่วไว้ก่อน เพื่อไม่ให้ผู้ที่จะมาร่วมขบวนเสียขวัญ ในทางปฏิบัติจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน
สำหรับพรรคตั้งใหม่การได้ตัว ส.ส.มาร่วมงานก็ไม่ใช่การการันตีว่าจะมีเก้าอี้ในสภาแน่ เพราะการเลือกตั้งทุกครั้งจะมี ส.ส.จำนวนหนึ่งสอบตกกันเป็นเรื่องปกติ ยิ่งภายใต้สถานการณ์ที่มีการแข่งขันกันสูง โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ที่ถูกคาดหมายว่าจะดุเดือดกว่าการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากจะเป็นการตะลุมบอนกันของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นด้านหลัก ขณะที่ซีกของฝ่ายค้านอย่างก้าวไกลก็มีโอกาสสอดแทรกได้หลายจังหวัด เช่นเดียวกับที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ พรรคประชาชาติของ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ถือเป็นก้างชิ้นโตสำหรับทุกพรรคการเมือง
ตัวเลข 25 ส.ส.ถือเป็นด่านแรกของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจที่พรรคซึ่งจะไปสังกัดต้องทำให้ได้ โจทย์ใหญ่ประการต่อมา คือ การจับมือกันตั้งรัฐบาลเที่ยวหน้าถามว่าเสียงของรวมไทยสร้างชาติ กับภูมิใจไทย พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา และพรรคอื่น ๆ จะเกินครึ่งของสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ ถ้าเป็นไปได้ คำถามต่อมา คือ ภูมิใจไทยหากได้คะแนนมาเป็นอันดับสอง ด้วยตัวเลขที่ทิ้งห่างพรรคของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ อนุทิน ชาญวีรกูล จะยอมรับเงื่อนไข “นายกฯ คนละครึ่ง” เช่นนั้นหรือ
ในเมื่อเจ้าตัวประกาศชัดเจนแล้วว่า หากพรรคภูมิใจไทยมีคะแนนมากกว่าทุกพรรคที่จะจับมือกันตั้งรัฐบาล คนที่จะเป็นนายกฯ ต้องเสี่ยหนูเท่านั้น เช่นนั้นผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจจะยอมรับและพร้อมที่จะเป็นเพียงแค่รองนายกฯ หรือไม่ เพราะมันชัดเจนในคำอธิบายของตัวท่านผู้นำเอง หากจะกลับมาทำงานทางการเมืองต่อ ขอเวลาอีก 2 ปี ซึ่งนั่นหมายถึงตำแหน่งนายกฯ เพียงอย่างเดียว เช่นนี้แล้วอนุทินจะยอมตระบัดสัตย์เป็นรอบที่สองอย่างนั้นหรือ
ไม่เพียงเท่านั้น ซีกของพรรคสืบทอดอำนาจการที่พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ดึงตัว มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ มาร่วมทีม โดยชูเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ และอาจจะถึงขั้นเป็น 1 ในแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค มันก็ย่อมเป็นอุปสรรคสำคัญต่อตัวผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจที่ว่า แนวทางของพรรคแกนนำรัฐบาลปัจจุบันได้ปฏิเสธการที่จะสนับสนุนท่านผู้นำสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างเป็นทางการแล้ว เพียงแต่พี่ใหญ่เลือกที่จะให้คนอื่นพูดแทนเท่านั้น
สิ่งที่เป็นความท้าทายสำหรับผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเป็นอย่างมากสำหรับการโหวตเลือกนายกฯ รอบหน้าก็คือ เสียงของ ส.ว.ลากตั้งยังคงจะแข็งขันหลับหูหลับตายกมือให้ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเหมือนครั้งที่แล้วหรือเปล่า ไม่ต้องสงสัยส่วนหนึ่งเป็น ส.ว.ที่ได้รับการดูแลโดยพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป. ส่วนหนึ่งเป็น ส.ว.ที่มีสังกัดในนามเครือข่ายของนักการเมืองหรือพรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่ง ซึ่งนั่นไม่สามารถที่จะสั่งให้ซ้ายหันขวาหันกันได้อีกต่อไป
ไม่เพียงเท่านั้น หากมีผู้ประสงค์ต้องการที่จะให้เกิดความเปลี่ยนแปลง แต่ยังอยู่ภายใต้พรรคการเมืองที่ยืนข้างฝ่ายอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง และตัวนายกฯ ต้องไม่ใช่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ถ้าเป็นอนุทินการกดปุ่มเช่นนี้เชื่อได้เลยว่า ส.ว.ส่วนใหญ่ก็พร้อมที่จะยกมือหนุนเพราะเป็นเสียงที่ยากจะปฏิเสธ แม้จะยอมรับว่าไปต่ออีก 2 ปี และไปร่วมงานกับรวมไทยสร้างชาติแน่ แต่บทบาทของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจจะเล่นเกมการเมืองแบบเต็มตัวหรือแทงกั๊กยังรอบรรดากุนซือทั้งหลายประเมินสถานการณ์กันอีกกระทอก
ด้านของพรรคเพื่อไทย หลังจากชูนโยบายค่าแรง 600 บาทต่อวัน และปริญญาตรีเงินเดือนขั้นต่ำ 25,000 บาท เหมือนเป็นการโยนหินถามทาง และวัดกระแส หยั่งท่าทีของฝ่ายต่าง ๆ ดูว่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ถือว่าได้ผลในแง่ของจิตวิทยาเพื่อทดสอบนโยบายประชานิยม ทำให้สามารถแยกแยะออกได้ว่าใครพวกไหน แม้จะถูกโจมตีก็ถือว่าได้มากกว่าเสีย เพราะการป่าวประกาศตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้วเกิดเสียงวิจารณ์มันสามารถที่จะนำเสียงสะท้อนเหล่านั้นกลับไปปรับแก้ได้ ส่วนพวกที่เต้นเป็นเจ้าเข้าและสาดเสียเทเสีย ถือเป็นเรื่องปกติ การคิดใหญ่แล้วได้เสียงสะท้อน ยังดีกว่าพวกคิดเล็กคิดน้อย หรือไม่มีหัวคิด คิดแล้วแต่ทำไม่ได้