SCB มีอัพไซด์ 36%

เส้นทางนักลงทุน

เปิดศักราชใหม่ในวันที่ 19 มกราคม 2566 เวลา 14.00 น. บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX ใช้ชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า “SCB” จะมีการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีวาระการประชุมที่สำคัญคือ การออกหุ้นกู้ โดยวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุม (Record date) คือ วันที่ 9 ธันวาคม 2565

เป้าหมายในการเป็นยานแม่ของ SCBX จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้เงินทุนจำนวนมากในการเดินหน้าตามแผน ดังนั้นที่ประชุมคณะกรรมการ SCBX เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา จึงมีมติเกี่ยวกับแผนการระดมทุนด้วยการออกตราสารหนี้วงเงินรวมไม่เกิน 100,000 ล้านบาท

โดยจะเสนอขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายในระยะเวลา 5 ปี เงินระดมทุนดังกล่าวนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลงทุนในธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม

การระดมทุนมูลค่า 100,000 ล้านบาท ดังกล่าว หากมองแง่บวกจะช่วยสนับสนุนให้ SCBX สามารถขยายและต่อยอดธุรกิจของยานลูกได้คล่องตัวขึ้น แต่ก็มีผลกระทบด้านภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่จะต้องเพิ่มมากขึ้นด้วย

ในมุมมองของ “ตฤณ สิทธิสวัสดิ์” นักวิเคราะห์กลุ่มธุรกิจการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ที่มีต่อแผนการระดมทุนของ SCBX เห็นว่าน่าจะเป็นบวกต่อ SCBX โดยการออกหุ้นกู้จะเป็นช่องทางหลักในการหาแหล่งเงินทุนใหม่ ๆ สำหรับลงทุนในธุรกิจย่อยภายในกลุ่ม ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเงินฝากและเงินทุนที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการและการทำธุรกิจของธนาคารไทยพาณิชย์ (SCBB)

ซึ่งมีข้อดี เพราะการดำเนินธุรกิจของบริษัทย่อยต่าง ๆ จะมีเกณฑ์ในการทำธุรกิจที่ผ่อนปรนและคล่องตัวกว่าการประกอบธุรกิจภายใต้ธนาคาร จึงสามารถที่จะแข่งขันกับนอนแบงก์ (Non–Bank) รายอื่น ๆ ได้ ด้วยเกณฑ์ที่เท่าเทียมกัน

ขณะที่บริษัทย่อยของ SCBX จะได้รับการสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีของกลุ่มที่มีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความได้เปรียบในการดำเนินงาน

แต่การระดมทุนจำนวนมากก็จะมีข้อเสียหลัก ๆ คือ SCBX จะมีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากการออกหุ้นกู้เพื่อขยายธุรกิจ

ทั้งนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ฟิทช์ เรทติ้ง (Fitch Rating) ได้มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ของ SCBX ที่ระดับ BBB (International Rating) และ AA+ (National Rating) เท่ากันกับ Credit Rating ของ SCBB

บล.หยวนต้า ประเมินว่า เบื้องต้นคาดหุ้นกู้ดังกล่าวจะมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับ 3.5-4.5% สูงกว่าต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยในปัจจุบันของบริษัทที่อยู่ในระดับต่ำเพียง 0.7%

รวมทั้งมองว่าการออกหุ้นกู้จะแบ่งออกเป็นหลายชุด ตามความต้องการใช้เงินของบริษัทย่อยในช่วง 5 ปีข้างหน้า เพื่อไม่ให้ต้นทุนทางการเงินเร่งตัวขึ้นเร็วเกินไป

โดย SCBX มีแผนจะนำเงินทุนที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปใช้เพื่อลงทุนต่อยอดในธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าธุรกิจเดิม ๆ ของธนาคาร ซึ่งให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเพียง 4%

โดยเฉพาะในกลุ่ม Consumer Finance ซึ่งมีธุรกิจที่น่าสนใจและมีความพร้อมในการขยายตัวอยู่แล้ว อย่าง CardX หรือสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ที่คาดผลตอบแทนเฉลี่ย 15%

และกลุ่ม AutoX หรือสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ที่คาดผลตอบแทนเฉลี่ย 17-18% ตลอดจนสินเชื่อในกลุ่ม Digital Lending ทั้ง MONIX, SCBABACUS หรือสินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ที่คาดผลตอบแทนเฉลี่ย 20%

ด้วยเหตุผลดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนให้ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin) หรือ NIM และ Spread ของกลุ่ม SCBX จะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น ตามปริมาณสินเชื่อในกลุ่ม Consumer Finance ที่เร่งตัวขึ้น

นอกจากนี้ SCBX ยังมีแผนนำเงินไปลงทุนในธุรกิจ Digital Asset เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในอนาคต และธุรกิจ Digital Platform ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถเข้าถึงและได้ข้อมูลของลูกค้านอกเหนือจากฐานลูกค้าเดิมที่มีบัญชีธนาคาร นำไปสู่การทำ Cross Selling และ Upselling

อย่างไรก็ตาม แผนงานนี้จะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 19 มกราคม 2566 ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงที่มาประชุมก่อน

ด้วยเหตุผลต่าง ๆ เหล่านี้ โบรกเกอร์รายนี้จึงชื่นชอบหุ้น SCB โดยมองว่าจากทิศทางการพัฒนาธุรกิจที่เน้นการขยายธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งแม้ในช่วงสั้นอาจทำให้ดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นมาบ้าง แต่ในระยะยาวจะมีศักยภาพทำกำไรที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ

และช่วยให้อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ของ SCB หรือ SCBX เร่งตัวขึ้นได้โดดเด่นกว่าธนาคารใหญ่รายอื่น ให้ราคาจากมูลค่าพื้นฐานปี 2566 ที่ 144 บาท (อิง Prospective PBV ที่ 1x) จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

โบรกเกอร์ 17 รายแนะนำ “ซื้อ” SCB ให้ราคาเป้าหมายกลางที่ 140.71 บาท สูงสุด 155 บาท และต่ำสุด 120 บาท ในรอบ 1-2 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น SCB ความเคลื่อนไหวไม่หวือหวาเมื่อเทียบกับภาวะตลาดหุ้นที่ส่งสัญญาณดีขึ้น

หากมองยาวไปในรอบ 1 ปี หุ้น SCB เคยทำจุดสูงสุดไว้ที่ 121.50 บาท ทำจุดต่ำสุดที่ 89.75 บาท แต่ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ราคาเคยหลุด 100 บาทลงมา

สุดท้ายสามารถประคองตัวกลับขึ้นไปยืนเหนือ 100 บาท ได้ในช่วงปลาย ๆ เดือนเดียวกัน จากนั้นวิ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 111.50 บาทได้ในเดือนกันยายน

ล่าสุด SCBB ประกาศนำร่องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มขึ้นอีก 0.125-0.25% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2565 เป็นต้นไป

ปัจจุบันราคาหุ้น SCB ย่อลงมายืนอยู่แถว ๆ 103-105 บาท ณ ระดับราคานี้ ยังมีอัพไซด์ (Upside) จากราคาเป้าหมายกลางของโบรกเกอร์ราว ๆ 36%