BGRIM สปอตไลต์ปลายอุโมงค์

ในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จะเห็นว่าหุ้นไฟฟ้าดี๊ด๊าเป็นพิเศษ มีการเข้ามาเก็งกำไรกันคึกคัก นอกเหนือจากสตอรี่ชิงเค้กขายไฟฟ้า 5,203 เมกะวัตต์


ในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จะเห็นว่าหุ้นไฟฟ้าดี๊ด๊าเป็นพิเศษ มีการเข้ามาเก็งกำไรกันคึกคัก นอกเหนือจากสตอรี่ชิงเค้กขายไฟฟ้า 5,203 เมกะวัตต์ ให้กับภาครัฐ ก็ยังมีหุ้นไฟฟ้าบางตัวที่มีปัจจัยพื้นฐานโดดเด่นร่วมหนุน นั่นคือ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ซึ่งมีโรงไฟฟ้า SPP มากสุด…

ก่อนหน้านี้หุ้น BGRIM ค่อนข้างซึมกะทือ จากผลงานไตรมาส 3/2565 ที่น่าผิดหวัง เนื่องจากพลิกมาขาดทุนสิทธิ 529 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 447 ล้านบาท…

สาเหตุหลักมาจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวขึ้นแรงแซงทางโค้ง ขณะที่ค่าไฟฟ้าโดยรวมปรับตามไม่ทัน มิหนำซ้ำยังถูกพิษค่าเงินบาทเล่นงานจนสะบักสะบอม ทำให้มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสูงถึง 830 ล้านบาท ส่งผลให้งวด 9 เดือนแรกปี 2565 มีตัวเลขขาดทุนสุทธิปาไป 699 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,080 ล้านบาท

เลยทำให้นักลงทุนพร้อมใจถอยดีกว่า…ไม่เอาดีกว่า จากหุ้น BGRIM..!!

แต่ถ้าดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ BGRIM ไม่เหมือนเดิมแล้วนะจ๊ะ…เพราะมีสตอรี่เชิงบวกเข้ามาหนุนเพียบ เริ่มจากค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่าต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 3/2565 ซึ่งอยู่ที่ 37-38 บาท แถมบางวันทะลุ 38 บาทเสียด้วยซ้ำ แต่ล่าสุดแข็งค่าต่ำกว่า 35 บาทแล้ว

เท่ากับว่าไม่น่าจะเห็นการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสูงเหมือนไตรมาส 3/2565 มากดดันงบในไตรมาส 4/2565 แล้วน่ะสิ…

แต่ไฮไลต์อยู่ที่ต้นทุนก๊าซ ซึ่งถือเป็นต้นทุนหลักของโรงไฟฟ้า SPP…ถ้าดูจากราคาน้ำมันที่ปรับลงมาเยอะ โดยเมื่อสิ้นไตรมาส 3/2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 100 เหรียญต่อบาร์เรล เทียบกับราคาปัจจุบันที่ลงมาต่ำกว่า 80 เหรียญต่อบาร์เรล นั่นหมายถึงราคาก๊าซก็จะปรับลดลงมาด้วย ตามทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ก็จะทำให้แรงกดดันของ BGRIM ผ่อนคลายมากขึ้น

อ้อ…ยังมีนโยบายภาครัฐให้ลดราคาก๊าซที่ปตท.ซื้อมาแล้วขายให้กับกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ซึ่ง BGRIM ก็จะได้ผลดีไปด้วย

ในขณะที่ BGRIM จะได้รับผลดีจากการปรับขึ้นค่า Ft (งวด ก.ย.-ธ.ค. ในอัตรา 0.6866 บาทต่อหน่วย) เข้ามาเต็มไตรมาส 4/2565 และหากมีเซอร์ไพรส์ มีการปรับขึ้นค่า Ft อีกรอบในงวด ม.ค.-เม.ย. 2566 BGRIM ก็จะได้รับประโยชน์ไปเต็ม ๆ…

หันไปดูกำลังการผลิตก็เพิ่มขึ้นด้วยนะ จากการกดปุ่ม COD โรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 1 กำลังการผลิต 140 เมกะวัตต์ ซึ่งขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา

จากปัจจัยข้างต้น ทำให้ BGRIM ไม่ใช่เห็นแค่แสงสว่างปลายอุโมงค์นะ แต่จะเป็นสปอตไลต์ปลายอุโมงค์เลยแหละ..!!

นักวิเคราะห์หลายสำนักก็เห็นพ้องกันว่า แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4/2565 ของ BGRIM จะฟื้นตัวได้จากไตรมาสก่อน โดยคาดกำไรปกติปี 2565 จะอยู่ที่ 362 ล้านบาท ลดลง 85% จากปีก่อน ขณะที่กำไรน่าจะกลับมาฟื้นแรงในปี 2566

โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายสูงสุด 44.00 บาท

ก็ยังมีอัพไซด์เหลืออีกเพียบ…

แต่ถ้าใครเห็นต่างจากนี้ก็ไม่ว่ากัน…

เอาเป็นว่า ใครใคร่ซื้อ…ซื้อ ใครใคร่ขาย…ขาย

เลือกที่สบายใจละกัน…

…อิ อิ อิ…

Back to top button