พาราสาวะถี
บอกมาโดยตลอดพื้นที่ภาคใต้คือพื้นที่การเมืองที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเชื่อมั่น และสร้างความสุขให้กับตัวเองมาตลอดระยะเวลากว่า 8 ปีที่ผ่านมา
บอกมาโดยตลอดพื้นที่ภาคใต้คือพื้นที่การเมืองที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเชื่อมั่น และสร้างความสุขให้กับตัวเองมาตลอดระยะเวลากว่า 8 ปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผูกพันในฐานะที่ฝ่ายหนึ่งเป็นแกนหลักและแนวร่วมสำคัญในการเป่านกหวีดโบกมือดักกวักมือเรียกให้เกิดคณะรัฐประหาร คสช. จนแปรสภาพกลายเป็นขบวนการสืบทอดอำนาจมาจนถึงทุกวันนี้ และน่าจะเป็นพื้นที่เดียวในประเทศไทยที่เวลาไปแล้วมีแต่ประชาชนมารอให้กำลังใจ ไม่ต้องให้เจ้าหน้าที่มาเหนื่อยกับการสกัดกั้นม็อบที่จะมาด่าทอต่อว่า
ดังนั้น หลังการเสร็จสิ้นประชุม ครม.เมื่อวันอังคาร ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจจึงรีบเดินทางไปจังหวัดสงขลาเพื่อลุยตรวจสถานการณ์น้ำท่วม ให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบภัย เมื่อเทียบกับเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคอีสานก่อนหน้านี้หลายจังหวัดและท่วมเป็นเวลานาน ความกระตือรือร้นของท่านผู้นำต่างกันอย่างสิ้นเชิง นี่ก็เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจและพรรครวมไทยสร้างชาติหมายมั่นปั้นมือกับพื้นที่ที่สุด
สมรภูมิภาคใต้จึงถูกมองว่าจะเข้มข้น ดุเดือดตั้งแต่ปี่กลองการเลือกตั้งเริ่มประโคมขึ้น โดยตัวผู้สมัครที่เป็น ส.ส.ปัจจุบันก็เกิดการแย่งชิงกันอุตลุด ยื่นข้อเสนอกันสารพัด ที่พร้อมกว่าใครเพื่อนคงหนีไม่พ้นภูมิใจไทย กับสโลแกน “พูดแล้วทำ” พื้นที่ปลายด้ามขวานกับนโยบายกัญชาเสรีถือว่าได้ใจชาวปักษ์ใต้ไปเต็ม ๆ จนเป็นเหตุให้เกิดการเตะตัดขากันขึ้นของพรรคร่วมและคู่แข่งสำคัญอย่างประชาธิปัตย์ ถึงขนาดที่ ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังบอกว่า ไม่รู้ร่างกฎหมายกัญชาจะผ่านความเห็นชอบเมื่อไหร่
ขณะเดียวกัน พรรคสืบทอดอำนาจของพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ก็ยังหวังที่จะได้เก้าอี้ ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้แม้จะไม่เท่าเดิมที่ 18 เก้าอี้ แต่ควรจะได้ไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของครั้งก่อน ยังไม่นับรวม 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่แย่งเก้าอี้กันดุเด็ดไม่แพ้กัน มีพรรคประชาชาติของ วันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นตัวเต็งหลัก สิ่งที่ทำให้บรรดา ส.ส.และแกนนำของแต่ละพรรคที่มุ่งมั่นหวังผลในจังหวัดทางภาคใต้ต่างจ้องไปยังผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจตาเขม็งก็คือ ทำไมต้องทุ่มสุดตัวขนาดนั้น
การรีบเร่งเดินทางไปตรวจน้ำท่วมสงขลา ทั้งที่ความจริงสถานการณ์ความรุนแรงไม่ได้หนักหน่วงท่วมนานเหมือนกรณีน้ำท่วมภาคกลาง ตะวันออกและอีสานก่อนหน้านี้ นั่นเป็นเพราะจะต้องเร่งทำคะแนนและสร้างความมั่นใจให้กับ ส.ส.ที่จะย้ายมาสังกัดรวมไทยสร้างชาติ การผูกมิตร ซื้อใจจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำโดยเร็ว ขณะเดียวกันสมรภูมิจังหวัดสงขลา และนครศรีธรรมราช แม้จะมีเจ้าของพื้นที่เดิมของแต่ละพรรคอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีช่องที่พรรคของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจจะสามารถทำคะแนนเพื่อคว้าชัยได้มากอยู่
ความโรยราและกระแสตกอย่างน่าใจหายของพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้ทุกพรรคการเมืองต่างเชื่อมั่นว่าจะสามารถปักธงมี ส.ส.ในพื้นที่สองจังหวัดนี้ได้ ไม่เว้นแม้แต่พรรคฝ่ายค้านอย่างเพื่อไทยหรือก้าวไกล การลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม พร้อมกับหอบหิ้ว พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติที่ ครม.เพิ่งรับทราบการตั้งให้เป็นเลขาธิการนายกฯ หมาด ๆ ถือเป็นการส่งสัญญาณถึงความชัดเจนทางการเมืองของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจไปในตัว หลังจากที่ได้ย้ำในวงอาหารกับว่าที่ผู้สมัครและ ส.ส.ที่จะมาร่วมกับพรรคของตัวเองไปก่อนหน้านี้
ด้านพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.เหมือนจะเงียบเหงา และทำท่าว่าจะพอใจกับจำนวนคนที่มีอยู่ในเวลานี้ แต่ความจริงมือดีลทั้งน้องชายร่วมสายเลือดอย่าง “บิ๊กป๊อด” พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ และมือประสานสิบทิศที่ไม่เปิดเผยตัวตน ยังคงซุ่มต่อสายเจรจาเพื่อดึงว่าที่ผู้สมัครของพรรคการเมืองใหญ่ทั้งเพื่อไทยและภูมิใจไทย ที่เกิดปัญหาทับซ้อนให้มาเป็นผู้สมัครของพรรคสืบทอดอำนาจ โดยมี ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นผู้เดินเกมออกหน้า การันตีถึงพลังการช่วยเหลือที่พร้อมดูแลเต็มที่
พูดถึงความมีชีวิตชีวา ฝั่งพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ดูจะคึกคักมากกว่า เพราะกล้าได้กล้าเสียและมีความชัดเจนต่อทิศทางทางการเมือง ถึงขนาดที่ ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคสืบทอดอำนาจประกาศออกสื่อนี่คือแคนดิเดตนายกฯ เพียงคนเดียวของพรรค อาจดูเหมือนเป็นการพูดเชิงหลักการ แต่ความจริงมันคือเจตนาที่จะบอกให้ชาวบ้านร้านรวงรู้ว่า พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.และพรรคแกนนำรัฐบาลไม่ใช่ผู้ที่จะมาแบกเสลี่ยงให้ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจได้เสวยสุขอีกต่อไป
ความจริงในเชิงยุทธศาสตร์หรือผู้ที่กรำศึกกันมานาน ย่อมเข้าใจดีว่าไม่มีใครที่จะมาแบกเสลี่ยงหรือเป็นนั่งร้านให้คนอื่นนั่งไปตลอดชีวิต พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ก็เช่นกัน หลังจากได้ชิมลางรักษาการนายกฯ จนเกิดวลีทอง “ใช้ใจบันดาลแรง” ก็ทำให้รู้ว่าความจริงตัวเองก็มีศักยภาพและเป็นที่ยอมรับของคนไม่แพ้น้องเล็กเหมือนกัน เหนือสิ่งอื่นใด การเดินเกมการเมืองในลักษณะที่กล้าประกาศความชัดเจนนั้น เป็นการช่วยให้มือดีลของตัวเองทำงานง่าย และไม่เป็นการผูกมัดว่าหลังเลือกตั้งจะต้องจับมือกับคนนี้ พรรคนี้เท่านั้น
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นช่วงปลายสมัยของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจหนนี้ ต้องบอกว่าหลายอย่างไม่เป็นอย่างที่ขบวนการสืบทอดอำนาจต้องการ ตั้งแต่ร่างกฎหมายเกี่ยวกับเลือกตั้ง 2 ฉบับที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความ การทำงานขององค์กรอิสระที่เคยถูกมองว่าเป็นเครื่องมือค้ำยันเสถียรภาพของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจและใช้เล่นงานฝ่ายตรงข้าม ดูเหมือนว่าเวลานี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้น กกต.ดูท่าว่าจะทำงานขันแข็ง ยึดโยงหลักการมากขึ้น ส่วน ป.ป.ช.กับคดีจำนำข้าวหรือจีทูจีภาค 2 ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ตั้งป้อมไว้
จากที่มองว่ามีการกันตัว บุญทรง เตริยาภิรมย์ เป็นพยานไว้ เพื่อจะซัดทอดเล่นงาน ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ส่งผลสะเทือนไปถึงเป้าหมายแลนด์สไลด์ของเพื่อไทย เอาเข้าจริงปรากฏว่ามีการยกคำร้องในส่วนนี้โดยกรรมการ ป.ป.ช.เสียงส่วนใหญ่เห็นว่าทั้งสามคนเคยตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาคดีระบายข้าวจีทูจีภาคแรกมาแล้ว และคณะกรรมการ ป.ป.ช.ขณะนั้นมีมติไม่แจ้งข้อกล่าวหา การนำเอาทั้งสามคนมาแจ้งข้อกล่าวหาและพิจารณาอีกครั้ง เข้าข่ายไม่ชอบด้วยข้อกฎหมายและเป็นการฟ้องซ้ำ ส่วนปมเทปลับที่บุญทรงอ้างก็ไม่มีอยู่จริง ผิดแผนกันมากขนาดนี้ไม่รู้จะเรียกว่าขาลงของแท้ได้หรือเปล่า