สังคมข่าวหุ้นเกียรติก้อง ว่องไวยากร

หนังสือพิมพ์รายวัน “ข่าวหุ้นธุรกิจ” กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน ฉบับประจำวันพุธที่ 25พฤศจิกายน พ.ศ. 2558******


หนังสือพิมพ์รายวัน “ข่าวหุ้นธุรกิจ” กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน ฉบับประจำวันพุธที่ 25พฤศจิกายน พ.ศ. 2558*******กลุ่มสื่อสารทุบตลาดฯ

********วานนี้หุ้นกลุ่มสื่อสารถูกเทขายกระหน่ำ หลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ คาดว่ากลุ่มสื่อสารจะยังคงเผชิญแรงกดดันในปี 2559 จากการแข่งขันที่รุนแรง การขยายตัวของรายได้ที่อ่อนแรงลง การลงทุนที่มีมูลค่าสูงสำหรับการประมูลคลื่นความถี่ใหม่ และการขยายเครือข่าย ส่งผลให้หุ้น TRUE ถูกขายหนักสุด ราคาร่วงต่ำสุดในรอบปีกว่าๆ แม้ว่าพื้นฐานของหุ้นยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก

*********ด้านเกจิแนะเก็งกำไรหุ้น ก่อนงาน Thailand Focus สัปดาห์หน้า  ระหว่างวันที่ 2-4 ธ.ค. 2558 นี้ คาดว่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามา งานนี้เปิดให้นักลงทุนสถาบันจากต่างประเทศเข้ารับฟังข้อมูลบริษัทจดทะเบียนในไทย รวมถึงทิศทางการดำเนินนโยบายของรัฐบาล งานนี้เม่าก็เข้าฟังได้ แม้มีเงินไม่หนาเหมือนกองทุน  

***** แต่ยังไงตลาดหุ้นไทยก็คงไปได้ไม่ไกล หลังจากที่ประธานเฟดนิวยอร์กสนับสนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ยกลางเดือน ธ.ค.นี้ กระทบค่าเงินทั้งภูมิภาค รวมทั้งค่าเงินบาทไทยที่อ่อนปวกเปียก เงินไหลออกอีกระยะหนึ่ง หลังจากที่นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไปกว่า 1 แสนล้านบาทไปแล้ว คงเหลือให้ขายอีกไม่มาก ต่อไปถือเป็นเวลาซื้อคืนเท่านั้น

*****อนาคตหุ้นกรุงไทย  กำลังจะเปลี่ยนไป จากมือของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน มาเป็นของกระทรวงการคลัง งานนี้ยังสงสัยว่าจะมีทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ด้วยหรือเปล่า เพราะมีการซื้อขายหุ้นกันมากกว่า 25% ส่วนหนี้ของกองทุนฯ ประมาณ 1 ล้านล้านบาทก็จะถูกโอนมาด้วย แต่การชำระหนี้ยังเหมือนเดิม คือ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจ่าย ผู้ถือหุ้นรายย่อยก็ต้องไปศึกษากันว่าจะถือต่อไป หรือปล่อยของออกไปก่อน รอดูความชัดเจนอีกที

***************PK กลับมาดี๊ด๊าอีกครอบ หลังจากถูกกดราคาจนรายย่อยขวัญกระเจิงกันไปรอบหนึ่งแล้ว รอบนี้มาไม่รู้ว่าจะมีเม่าตัวไหนตามหรือเปล่า เพราะคราวที่แล้วก็ติดยอดดอยกันมาหลายอยู่ ส่วนกำไรยังไม่ดี และเรื่องพันธมิตรใหม่ กลุ่มประเทศเอเชียใต้และกลุ่มแอฟริกาเหนือก็ยังไม่ชัดเจน จะเล่นก็ต้องระมัดระวังอย่าเพลินกันมากนัก

************ธุรกิจตู้เติมเงินบุญเติมดันราคา FORTH วิ่ง ดูไปดูมาอนาคตสดใส แถมยังจับมือกับกลุ่มสิงห์ ตู้กดเครื่องดื่มอัตโนมัติ พันธมิตรเยอะมาก ยังไม่รวมแพลนบีอีกราย ผลประกอบการปีนี้ดูดีแน่นอน ราคาเป้าหมาย 10 บาท ก็ยังพอมีอัพไซด์ให้เล่นกันอยู่

**********MTLS แรงต่อเนื่อง ทั้งกองทุนรายย่อยเก็บเข้าพอร์ต หลังจากที่ผู้บริหารออกมาประกาศแผนในอนาคต ที่ยังคงจะเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 50% หุ้นแบบนี้หายากเต็มที ในตลาดฯขณะนี้ เพราะไม่ใช่มาจากฐานต่ำ แต่เริ่มมาก็ทำนิวไฮมาตลอด ของเขาดีจริงๆ

**********GPSC หุ้นที่จะเข้า SET 50-100 ตัวนี้ฐานค่อนข้างต่ำ ถ้าเทียบกับราคาไอพีโอ ใครเก็บช่วงนี้ถือว่ายังไม่แพง เป็นหุ้นโรงไฟฟ้าราคาไม่วิ่งกระฉูด แต่ถ้าเมื่อไหร่ราคาพลังงานเป็นขาขึ้นตัวนี้น่าสนใจ แถมยังมีจ่ายปันผลให้อย่างสม่ำเสมอ ************IFEC ยังน่าเล่นหลังลงนามซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 33 เมกะวัตต์ แดนกิมจิ ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะเจจู 30% นอกเหนือจากโรงไฟฟ้าในประเทศที่อยู่ในมืออีกหลายโครงการ ทั้งพลังงานลมและแสงอาทิตย์ที่เดินเครื่องไปแล้วหลายแห่ง

*********ปัญหาพิพาทระหว่างภาครัฐและเอกชน มีให้เห็นกันมาตลอด ล่าสุด CHO เล็งฟ้องศาลปกครอง หาก ขสมก.ยกเลิกการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศเอ็นจีวี จริง  ตอนนี้รอแค่หนังสืออย่างเป็นทางการจาก ขสมก.เท่านั้น งานนี้ไม่รู้จะมีค่าโง่เหมือนคลอดด่านหรือเปล่า

*****KBS ยักษ์ใหญ่โรงงานน้ำตาล ยังคงอยู่ในภาวะที่ทรงๆตัว ทั้งผลประกอบการและกำไร ผู้บริหารคาดว่างบไตรมาสที่ 4 ยังไม่สวย และอาจขาดทุนต่อเนื่อง ส่วนปีหน้าจะดีกว่าปีนี้ จากรายได้ขายไฟให้ กฟผ. และกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ระยะยาวหากผันจากโรงงานน้ำตาลไปเป็นผู้ผลิตไฟฟ้ามากขึ้น รายได้คงจะเติบโตดีกว่านี้

********ตัวเลขส่งออกของไทยล่าสุดยังคงแย่ติดลบไปกว่า 8% แต่ถ้าดูดุลการค้าก็ถือว่ายังบวก ก็ถือว่าค้าขายไม่ขาดทุน ตัวเลข 10 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ต.ค. 58) การส่งออกขยายตัวลดลง 5.32% มีมูลค่า 180,129 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนการนำเข้าขยายตัวลดลง 11.27% มีมูลค่า 170,270 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยดุลการค้าในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้เกินดุล 9,859 ล้านเหรียญสหรัฐ รถยนต์ยังคงครองแชมป์ส่งออกมากที่สุดอยู่

**************ส่วนค่ำวันนี้ ชาวหุ้นจะไปลอยกระทงกันทีไหนบ้าง จากตัวเลขการสำรวจพบว่าปีนี้จะมียอดใช้จ่ายคึกคักมากที่สุดในรอบ 3 ปี เนื่องจากราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น และนโยบายกระตุ้นการบริโภคของภาครัฐ งานนี้กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรมน่าจะได้รับอานิสงส์ไม่มากก็น้อย **************

Back to top button