วินโดว์ เดรสซิ่ง หลังวันคริสต์มาส

ทุกสิ้นไตรมาส จะมีคนพูดถึงคำว่า วินโดว์ เดรสซิ่ง ไตรมาสนี้ก็ไม่ต่างกัน แต่ดูเหมือนว่า ดัชนี SET ที่ใต้ระดับ 1,650 จุด ไม่น่าที่ดัชนีจะทะลุไปได้


ทุกสิ้นไตรมาส จะมีคนพูดถึงคำว่า วินโดว์ เดรสซิ่ง ไตรมาสนี้ก็ไม่ต่างกัน แต่ดูเหมือนว่า ดัชนี SET ที่ใต้ระดับ 1,650 จุด ไม่น่าที่ดัชนีจะทะลุไปได้ เพราะปัจจัยแวดล้อมทั้งภายนอกประเทศ และภายในไม่เอื้อมากนัก แต่ราคาหุ้นสำคัญที่ต่ำกว่าปีก่อน ๆ น่าจะปรับตัวขึ้นใกล้เคียงกับปีก่อนได้ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคาร และการเงินที่กลับมาทำกำไรกันสวยสดอีกครั้ง

เพียงแต่ความคาดหวังว่า ราคาหุ้นปิดจำนวนมากในตลาดดูดีกว่าปกติเสมอในวันสิ้นสุดไตรมาส จึงไม่น่าจะเกิดขึ้นในไตรมาสนี้

ปรากฏการณ์นี้ ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เกิดขึ้นเป็นปกติ หลายต่อหลายครั้ง เพราะไม่ได้มีสูตรสำเร็จ เนื่องจากมีปัจจัยหรือลูกเล่นที่ทำให้สถานการณ์แปรเปลี่ยนได้

นักลงทุนรายย่อย จึงไม่ควรที่จะติดกับดักความเชื่อว่า  สิ้นทุก ๆ ไตรมาสจะต้องมีวินโดว์ เดรสซิ่งตายตัว แต่ควรเรียนรู้เพื่อที่จะจับได้ไล่ทันว่า แต่ละไตรมาสจะมีสถานการณ์พิเศษ ที่ทำให้เกิดมีวินโดว์ เดรสซิ่ง เพื่อทำกำไรระยะสั้นได้หรือไม่

ที่มา หรือ รากเหง้าของพฤติกรรมวินโดว์ เดรสซิ่ง ดังที่ทราบกันดีในหมู่ผู้จัดการกองทุนทั้งหลายที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นช่วงดังกล่าวว่า เดิมทีมาจากศัพท์ที่ใช้กันในงานแต่งหน้าร้านของร้านค้าปลีก หรือ ร้านขายสินค้าแฟชั่นทั้งหลาย ที่พยายามตกแต่งหน้าร้านให้สวยหรู เพื่อหลอกล่อให้ลูกค้าที่เดินผ่านไปมา ต่อมาคำนี้ถูกนำมาใช้เปรียบเทียบโดยนักบัญชี และนักการเงิน

กลุ่มนักลงทุนในตลาดเก็งกำไรที่ชอบใช้และจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์นี้ จะเป็นพวกผู้จัดการกองทุนทั้งหลายที่ลงทุน โดยเฉพาะในตลาดหุ้น เพื่อทำให้มูลค่าสินทรัพย์สุทธิของหน่วยลงทุนเมื่อวันสิ้นงวดแต่ละไตรมาสดูดี เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ถือกองทุนนั้น ๆ เพราะมันเกี่ยวข้องกับโอกาสในการไถ่ถอน

ผลงานที่วัดกันได้จากวันสิ้นงวดไตรมาสของกองทุนแต่ละชนิด คือความจำเป็นที่จะต้องสร้างวินโดว์ เดรสซิ่งขึ้นมา ดังนั้นสิ่งที่จะต้องแต่งหน้าตาของมูลค่าสินทรัพย์ให้ดูดีก็จึงเกิดขึ้น และทำจนเป็นนิสัยสืบต่อกันมา

วิธีการแต่งหน้าตา ก็คือการปรับพอร์ตการลงทุนที่มีทั้งขายและซื้อพร้อมกัน โดยผลลัพธ์ท้ายที่สุดก็คือการที่ทำให้มูลค่าของหน่วยลงทุนหรือสินทรัพย์สุทธิต่อหน่วยสวยงามมากขึ้น ทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยเปรียบเทียบกับผลงานในไตรมาสก่อนหน้า หรือระยะเดียวกันปีก่อน

ที่ต้องทำก็เพราะว่า มูลค่าสินทรัพย์สุทธิของหน่วยลงทุนของกองทุนแต่ละแห่งนั้น เขาวัดกันที่ราคาตลาดของหุ้น (มาร์ก ทู เดอะ มาร์เก็ต-mark to the market) เป็นสำคัญ

การปรับพอร์ต  กลยุทธ์ “ปรับเปลี่ยน” (switching strategy) ก็คือการเร่งขายหุ้นที่มีผลประกอบการไม่ดี หรือซื้อมาแล้วขาดทุนออกไป แล้วซื้อหุ้นที่มีผลประกอบการดีหรือมีอนาคตสดใสเข้ามาแทนที่ หรือ กำลังจะประกาศผลประกอบการที่ดีเป็นพิเศษในช่วงใกล้สิ้นไตรมาส

การปรับพอร์ตถือหุ้นมีอนาคตสดใสขึ้น และทิ้งหุ้นที่มีอนาคตย่ำแย่ออกไป เป็นกลยุทธ์ที่ไม่ใช่เรื่องประหลาด และไม่ควรจะถือเป็นเรื่องของการฉ้อฉลแต่อย่างใดทั้งสิ้น เพียงแต่มายาคติของนักลงทุนที่ไม่เข้าใจในกลยุทธ์การปรับพอร์ตของผู้จัดการกองทุน ทำให้เข้าใจกันผิด ๆ ต่อเนื่องมาว่า การทำวินโดว์ เดรสซิ่งคือการดันราคาหุ้น หรือการเข้าซื้อทางเดียวของกองทุนเพื่อให้หุ้นราคาวิ่งแล้วตัวเลขกองทุนดูดีกว่าปกติ เฉพาะในช่วงสิ้นไตรมาส

ความไม่เข้าใจเช่นนี้ ทำให้คนเชื่อกันว่า เมื่อวันสิ้นงวดไตรมาสทุกครั้ง ดัชนีตลาดหรือหุ้นบลูชิพทั้งหลายในตลาด จะต้องถูกดันราคาหุ้นสูงขึ้น แล้วถ้าหากว่าข้อเท็จจริงตรงกันข้ามกับความเชื่อ คนที่เข้าใจผิดทั้งหลายก็จะพาลเข้าใจอีกว่า ไตรมาสนั้นไม่มีการทำวินโดว์ เดรสซิ่ง ทั้งที่โดยความเป็นจริงเบื้องลึกแล้ว การทำวินโดว์ เดรสซิ่งได้กระทำตลอดเวลา ไม่ต้องรอสิ้นไตรมาส

การทำวินโดว์เพื่อปรับพอร์ตลงทุนให้ดูดี ต่อด้านราคาหุ้นหรือดัชนีตลาดหุ้น จึงอาจจะมีทิศทางเดียวกัน หรือ ขัดแย้งกันได้ ไม่จำต้องเป็นการดันราคาเสมอไป

การหาประโยชน์จากธุรกรรมวินโดว์ เดรสซิ่งในตลาด จึงอยู่ที่จะต้องจัดการซื้อหุ้นที่คาดว่าจะมีผลประกอบการล่วงหน้าสวยงามกว่าระยะเดียวกันปีก่อน หรือดีกว่าไตรมาสที่ผ่านมา หรือ มีราคาต่ำกว่าบุ๊กเก็บเอาไว้ล่วงหน้า เพื่อรอให้ผู้จัดการกองทุนเข้ามาซื้อเพื่อปรับพอร์ตในเวลาก่อนสิ้นไตรมาส

ในทางกลับกัน ก็ควรจะรีบขายหุ้นเน่า (แม้อาจจะเป็นหุ้นบลูชิพ) ที่คาดว่า จะมีผลประกอบการย่ำแย่ลง ออกไปจากมือ ก่อนที่บรรดาผู้จัดการกองทุนจะขายก่อน

ความรู้เท่าทันตลาดของรายย่อยในเรื่องวินโดว์ เดรสซิ่งนี้ ต้องการข้อมูลและประสบการณ์ที่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะเพทุบายของนักลงทุนแต่ละกลุ่มที่มีการวางตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ที่ต่างกันออกไป

ความเข้าใจเบื้องหน้าเบื้องหลังในการหาคำอธิบายว่าทำไมบางช่วงที่ ต่างชาติ-กองทุนในประเทศ-โบรกเกอร์ มีตัวเลขซื้อสุทธิ แต่หุ้นลงหนักจากฝีมือรายย่อย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ เนื่องเป็นแค่ตัวเลขหลอก ๆ

ในอีกด้านหนึ่ง การที่ปริมาณซื้อขายหุ้นกระจุกตัวในหุ้นขนาดใหญ่หลายเดือนมานี้ อาจจะไม่ใช่การซื้อเพื่อถือระยะยาว หากแต่เป็นการที่นักลงทุนสถาบันหรือส่วนบุคคลหน้าตักใหญ่ (ที่เกิดจากอำนาจของบล็อกเทรด) เข้ามาซื้อขายแบบฉาบฉวยชนิดผ่านมา และผ่านไป อย่างมีแบบแผนยาวนานกว่าปกติเท่านั้น

ความเข้าใจในเรื่องวินโดว์ เดรสซิ่งของนักลงทุนในตลาดหุ้น จึงน่าจะเริ่มต้นจากว่า ความหมายที่แท้ ไม่ได้หมายความถึงการปั้นแต่งราคา แต่เป็น การปั้นแต่งพอร์ตลงทุนต่างหาก

การขึ้นลงช่วงสั้น ๆ ของวินโดว์ เดรสซิ่งคราวนี้ในท้ายปี 2565  หากนักลงทุนที่มีประสบการณ์เข้าใจได้อย่างนี้ การรู้ทันจะไม่ยากเย็นอะไร และรับมือกับสถานการณ์ได้ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น

ขอให้ทุกท่านโชคดีในการล่าคือ คำอวยพรที่พอจะทำได้ ยามนี้!

Back to top button