หุ้นธีม แคนดิเดตนายกฯ
STEC SC SIRI 3 หุ้นที่ว่านี้ ราคาได้ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เวลามีนักลงทุนมาถามเหตุที่สามหุ้นดังกล่าว ปรับตัวเพิ่มขึ้น มาจากปัจจัยอะไร
บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC
บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI
3 หุ้นที่ว่านี้ ราคาได้ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา
เวลามีนักลงทุนมาถาม
เหตุที่สามหุ้นดังกล่าว ปรับตัวเพิ่มขึ้น มาจากปัจจัยอะไร
คำตอบ คือ นอกเหนือจากพื้นฐานแล้ว
ยังน่าจะมาจากทั้งสามหุ้นอาจจะมีความใกล้ชิดกับบุคคลที่ได้รับการวางตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี สำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 2/66
ซิโน-ไทยฯ ราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาชนแนวต้าน 13.30 บาท
หรือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิถุนายน 65
หากราคาหุ้นผ่านแนวต้านนี้ไปได้
จะมีแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 13.50–14.50 บาท
หุ้นกลุ่มรับเหมา เป็นอีกกลุ่มที่นักวิเคราะห์ต่างแนะนำให้เข้าลงทุนในช่วงก่อนการเลือกตั้ง
เพราะมองว่า หลังจากหลังเลือกตั้งแล้วเสร็จ
รัฐบาลชุดใหม่ น่าจะมีการเปิดประมูลเพื่อก่อสร้างในโครงการขนาดใหญ่จำนวนมาก
ยิ่งหุ้นที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนักการเมืองด้วยแล้ว
ถูกมองว่า น่าจะช่วยเป็นแรงบวกทาง “จิตวิทยา” ได้อย่างมาก
ล่าสุด วานนี้ STEC ราคาปิด 13.20 บาท
ถือเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับราคาเป้าหมายของบางโบรกฯ แล้ว
ทว่า ยังมีอีกหลายโบรกฯ ที่ให้ราคาเป้าหมายหุ้นตัวนี้ไว้บริเวณ 16.00-17.00 บาท
ในระยะสั้น อาจมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง
มาดูหุ้น เอสซี แอสเสทฯ กันบ้าง
ในรอบ 1 เดือนราคาขึ้นจาก 3.80 บาท มาอยู่ที่ 4.28 บาท เปลี่ยนแปลง เพิ่ม 12.00-13.00%
เอสซีฯ ในทางเทคนิค ราคาหุ้นผ่านแนวต้านสำคัญที่ 2.20 ขึ้นมาแล้ว
และน่าจะเป็นระดับราคาสูงสุดในรอบเกือบ 5 ปี
แน่นอนว่า นอกเหนือจากปัจจัยเรื่องแนวโน้มผลประกอบการงวดไตรมาส 4/65
ยังน่าจะมาจากนักลงทุนไปเก็งกำไรจากที่จะมีแคนดิเดตนายกฯ นั่นแหละ ทั้งที่อาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวข้องเลยก็ได้
เอาเป็นว่า ถือเป็นปัจจัยทางด้าน “จิตวิทยา” แล้วกัน
ในระยะสั้น ราคาหุ้นอาจจะมีการย่อตัวบ้าง
และน่าจะเป็นแรงรับซื้อพอสมควร แนวรับแรกคือ 4.20-4.00 บาท
แต่หากมีความชัดเจนเรื่องการวางตัวนายกฯ แบบชัดเจนขึ้น
ราคาอาจมีการเข้ามาเก็งกำไรสูงขึ้นไปอีก
ส่วน แสนสิริ ราคาบินขึ้นมาต่อเนื่อง
ทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก่อนใคร หรือตั้งแต่เดือน กันยายน 2565
รูปแบบของราคาที่ปรับขึ้น จะทยอยปรับขึ้นมา และหากช่วงไหนที่ราคาย่อตัว จะพบว่า มีแรงเข้ามารับซื้อค่อนข้างมากเช่นกัน
แสนสิริ นักลงทุนเม้าท์กันว่า ราคาอาจจะขึ้นไปแตะ 2.00 บาทได้
แต่เบื้องต้นแนวต้านใหญ่คือ 1.80-1.90 บาท
ก่อนการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในช่วงปี 66
หุ้นทั้งสามตัวที่ว่านี้ น่าจะยังมีการเก็งกำไรกันอยู่พอสมควร
จนกว่าจะมีความชัดเจนเรื่องนายกรัฐมนตรีคนใหม่
ถึงจะมีแรงขายทำกำไรออกมา