ปีนี้จะเกิดผลกระทบเดือนมกราคม??

คำว่า แจนยัวรี่ เอฟเฟกต์ เป็นมายาคติอย่างหนึ่งที่ติดมากับตลาดหุ้นในนิวยอร์ก และกลายเป็นปรากฏการณ์ที่ใช้เรียกการทะยานของราคาหุ้นขาขึ้นชั่วคราว


คำว่า แจนยัวรี่ เอฟเฟกต์ หรือ ผลกระทบเดือน มกราคม เป็นมายาคติอย่างหนึ่งที่ติดมากับตลาดหุ้น ในนิวยอร์ก และกลายเป็นปรากฏการณ์ที่ใช้เรียกการทะยานของราคาหุ้นในดัชนีตลาดที่เป็นขาขึ้นชั่วคราวว่าดังนี้

คำพูดติดปากนักวิเคราะห์ดังกล่าวมา เกิดขึ้นจากการเฝ้าสังเกตครั้งแรกโดยนักการเงินที่เป็นที่ปรึกษาการเงิน นายซิดนีย์ วัคเทล Sidney B. Wachtel ในปี 1942 โดยสังเกตว่าตั้งแต่ปี 1925 หุ้นขนาดเล็กมีประสิทธิภาพดีกว่าตลาดในวงกว้างในเดือน มกราคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนกลางเดือน ซึ่งเท่ากับหุ้นเหล่านั้นไม่มีผลต่อดัชนีของตลาดบ้านเราเรียกว่าหุ้นจิ๋วแต่แจ๋ว ว่างั้นเถอะ

สังเกตครั้งแรกโดยนายวัคเทลจะไม่ปรากฏเป็นจริงตามนั้น เสมอไป โดยเฉพาะภายหลังจากมีการเรียกภาษีการขายหุ้นที่มีกำไร จากการที่ผลตอบแทนมักจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงเดือน มกราคม ……เรียกกันง่าย ๆ……ว่ามาตรการป้องกันภาษีทำให้การขายเพื่อล็อกผลขาดทุนทางภาษีมีความสำคัญน้อยลงและก็มักจะไม่มีนัยสำคัญ และเป็นการยากที่จะคาดเดาว่าผลกระทบของเดือน มกราคมจะเด่นชัดขึ้นเมื่อใด แต่ก็เป็นคำพูดที่นักลงทุนหลายคนเชื่อมั่นเสียเหลือเกินว่าจะเกิดขึ้น

เทรดเดอร์ของพร็อพเทรดบางราย ก็ยังนอนเพ้อละเมอเฝ้ากอดรัดกับมายาคติ เรื่องผลกระทบเดือน มกราคม……บางคนเชื่อว่าผลกระทบในเดือน มกราคมเป็น ‘ผลกระทบจากปฏิทิน’ ที่เชื่อถือได้ซึ่งสามารถใช้สำหรับโอกาสในการซื้อขาย กล่าวคือ โอกาสในการซื้อหุ้นในราคาต่ำและขายหลังจากผลกระทบในเดือน มกราคมเกิดขึ้นและเพิ่มราคา คนอื่นอาจพิจารณาถึงผลกระทบในเดือน มกราคมเมื่อต้องการซื้อหรือขายหุ้นในช่วงเวลานั้นของปี

เหตุใดผลกระทบเดือน มกราคมจึงได้เกิดขึ้นเกิดขึ้น เพื่อจะทำให้การขายทิ้งหุ้นกองทุนที่เกิดขึ้นในเดือน กุมภาพันธ์มีความสมเหตุสมผลอย่างนั้นเองหรือไง

คำตอบมีบางส่วนที่ถูกต้อง ……ยกเว้นกองทุนแบบมุ่งเป้าเร็วหรือ targeting funds ที่มีวงจรของมันเอง…-เพราะเหตุผลหลักคือเดือน กุมภาพันธ์ หรือ มีนาคม จะเป็นช่วงของการทบทวนเพื่อชี้ชัดถึงความสามารถของกองทุนรวม ที่จะทำให้เกิดการขายทิ้งหุ้นที่ประกาศการจ่ายเงินปันผลหรืออาจจะไม่ประกาศ เพราะขาดทุนจากการที่ติดหุ้นในตลาด

ดังนั้นคำนี้ที่ว่าด้วย ผลกระทบเดือน มกราคม” จึงได้เกิดขึ้นเสมอไป และไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าเหตุใดจึงเกิดขึ้น แม้ว่าจะมีคำอธิบายที่เป็นไปได้หลายประการ ตัวอย่างเช่น นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการเก็บเกี่ยวผลขาดทุนทางภาษีก่อนสิ้นปี (ในกรณีของประเทศที่เรียกเก็บภาษีจากส่วนต่างของราคาหุ้นหรือหลักทรัพย์……) ซึ่งนักลงทุนอาจขายสถานะที่ลดลงเพื่อนำเงินที่สูญเสียไปในภาษีของปีปฏิทินนั้น จากนั้นนักลงทุนเหล่านั้นจะซื้อหุ้นเดิมคืนในเดือน มกราคมของปีใหม่

อีกทฤษฎีหนึ่งก็เชื่อว่าผลกระทบในเดือน มกราคมเกิดจากการที่ผู้คนได้รับโบนัสสิ้นปีและลงทุนในตลาด หรือโดยเงินสมทบสิ้นปีสำหรับเงินบำนาญพนักงานและแผน 401,000 นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากนักลงทุนในและต่างประเทศใช้ปีใหม่เป็นเครื่องเตือนใจให้นำเงินไปลงทุนในบัญชีที่ลงทะเบียนไว้ ตัวอย่างเช่น นักลงทุนชาวแคนาดาได้รับอนุญาตให้เพิ่มเงินเพิ่มเติมอย่างจำกัดทุกปีไปยังบัญชีออมทรัพย์ปลอดภาษี (TFSA) และแผนการออมเพื่อการเกษียณ ที่ลงทะเบียนไว้

อิทธิพลอื่นอาจเป็นปัจจัยทางจิตวิทยา สารพัดรูปแบบ ที่สรรหามาเสกปั้น ราคาหุ้นให้ขึ้นมาได้ ล้วนไม่สมเหตุสมผลทั้งสิ้น

เหตุผลทั้งหลายที่กล่าวอ้างถึง : ผลกระทบเดือน มกราคม ที่ไม่ได้เกิดขึ้นเสมอไป เนื่องจากบางครั้งหุ้นขนาดเล็กมีผลประกอบการต่ำกว่าตลาดในวงกว้าง  นี่คือกรณีที่เกิดกับตลาดวอลล์สตรีท ในปี 1982, 1987, 1989 และ 1990 ถือเป็นความสุ่มเสี่ยงที่ไม่จำเป็น

หากหมั่นทบทวน ให้ถี่ถ้วนและรอบคอบ จะเห็นได้ดีว่าหลายปีที่ผ่านมาความผันผวนนั้นละเอียดอ่อนกว่าที่เคยสังเกตในครั้งแรกในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 อย่างไรก็ตาม แต่ทั้งนี้แม้ว่าจะมีหลายปีที่ราคาหุ้นลดลงในระดับปานกลางในเดือน มกราคม แต่การลดลงอย่างรวดเร็วไม่ได้เกิดขึ้นจนเป็นปกติจนกลายเป็นกรณีทั่วไป

ดังนั้น  ทฤษฎีปฏิทิน เช่น January Effect และ Santa Claus Rally เป็นเพียงทฤษฎีเท่านั้น ไม่มีใครรู้ว่าเหตุใดจึงเกิดขึ้นจริงและไม่สามารถคาดเดาได้ เนื่องจากพวกที่เอ่ยขึ้นมา พูดพล่อย ๆ โดยไม่ได้คาดการณ์พฤติกรรมของตลาดและตลาดสามารถและมักจะท้าทายภูมิปัญญาของทฤษฎีเหล่านี้

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น จึงอาจจะทำให้เป็นเสมือนทุภาษิตที่ว่า “จุ๊หมาน้อยขึ้นดอย” ที่มีไว้หลอกกินค่าคอมมิชชั่นสำหรับการซื้อขายมากกว่า โดยมีค่าโง่ของบรรดาแมงเม่าที่ไร้เดียงสา เป็นต้นทุนของการประสบผลขาดทุนหรือติดหุ้นได้

คำเตือนสำหรับนักลงทุนที่พิจารณาพยายามใช้ประโยชน์จาก January Effect หรือผลกระทบเดือน มกราคม ให้ระมัดระวังที่สุดสำหรับการตูดขาดที่จะตามมาว่า สูเจ้าอย่านอนร้าย แล้วฝันดี

Back to top button