1,700 ชัวร์
เปิดศักราชใหม่ขึ้นมาปุ๊บ “โมนิก้า” ก็มีความฮึกเหิมในการลงทุนขึ้นมาทันที หลังบรรยากาศช่วงเฉลิมฉลองปีใหม่ และการจับจ่ายใช้สอยคึกคักอย่างสุดขีด
เปิดศักราชใหม่ขึ้นมาปุ๊บ “โมนิก้า” ก็มีความฮึกเหิมในการลงทุนขึ้นมาทันที หลังบรรยากาศช่วงเฉลิมฉลองปีใหม่ และการจับจ่ายใช้สอยของคนไทยคึกคักอย่างสุดขีด หรือแม้กระทั่งจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ล้วนเป็นตัวแปรที่ทำให้เดี๊ยนเชื่อว่า ดัชนีมีโอกาสขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,700 จุดอย่างแน่นอน จึงเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องใส่แบบสุดซอยกันไปเลยพะยะค่ะ
ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ “โมนิก้า” มองการยืนปิดของดัชนีที่ระดับ 1,668.66 จุด บวกไป 7.46 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.76 หมื่นล้านบาท คือบันไดที่จะทำให้ดัชนีขึ้นไปถึงเป้าดังกล่าวในไม่ช้า และถ้ามองย้อนกลับไปในปี 62 จะเห็นว่า ดัชนีพยายามเทคตัวฝ่าแนวต้าน 1,740 จุด แต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จเหมือนที่คาดหวัง และยังมาเจอโควิดเล่นงานอีกดอกในช่วงไตรมาส 4 ดัชนีเลยไหลลงมากองแถว 1,580 จุดนะจ๊ะ
ที่สำคัญคือ หากมองย้อนไปยังปี 61 ช่วงที่ธุรกิจภาคการท่องเที่ยวบูมสุด ๆ ดัชนีก็ไต่ระดับขึ้นอย่างช้า ๆ พร้อมกับขึ้นไปทำไฮไว้ที่บริเวณ 1,850 จุด ซึ่งเป็นภาพที่ “โมนิก้า” ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และมีการวาดฝันดัชนีจะขึ้นไปถึง สองพันจุด พร้อมกับตั้งสมมติฐานกำไรต่อหุ้นทั้งตลาดอาจขยับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 112 บาท ล้วนเป็นเรื่องราวที่เดี๊ยนจดจำได้เป็นอย่างดี และอยากจะถ่ายทอดให้แฟนคลับได้รู้อีกครั้งเจ้าค่ะ
งานนี้ “โมนิก้า” ต้องบอกก่อนว่า นี่ไม่ใช่การชี้นำแต่อย่างใด! แต่ต้องการให้แฟนคลับฉุกคิดกันนิดหนึ่งว่า บรรยากาศทางเศรษฐกิจ และการลงทุนในจังหวะนี้เอื้อให้ขนาดไหน? รวมทั้งสิ่งที่เม้าท์ให้แง่คิดสำหรับการเคาะขวาในวันนี้ขนาดไหน? หรือแม้กระทั่งแรงซื้อรอบใหม่ที่กำลังเข้ามา อาจพุ่งตรงไปยังหุ้นบลูชิพเป็นลำดับแรกเลยหรือเปล่า? ก็เป็นเรื่องที่ต้องคิดทั้งนั้นนะจะบอกให้
เม้าท์ถึงเรื่องบรรยากาศที่คึกคักขึ้นมาทีไร “โมนิก้า” คงต้องมองไปที่หุ้น BEM เพื่อให้สอดคล้องกับการเดินทางที่หนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ผสานกับราคาหุ้นในปีที่ผ่านมาก็เคลื่อนไหวในลักษณะไซด์เวย์อัพ จึงเป็นจังหวะของการไหลตามน้ำแบบชิล ๆ เพราะการยืนปิดของหุ้นที่ระดับ 9.80 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 681 ล้านบาท ท่ามกลางความมั่นใจของนักลงทุนที่ล้นปรี่..หุ้นก็ควรไปต่อใช่ไหมคะ
ประเด็นดังกล่าวสอดคล้องกับการวิ่งขึ้นต่อเนื่องของ CRC พร้อมกับเดินหน้าทำนิวไฮไม่หยุดหย่อน ก็อนุมานได้ทันทีว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกำไรโตต่อเนื่องอย่างแน่นอน “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉย ๆ ที่เห็นหุ้นอ่อนตัวลงมาปิด 46.25 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 1.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 504 ล้านบาท เพราะถ้ามองย้อนกลับไปดูกำไรต่อหุ้นช่วงปกติอยู่ที่ระดับ 2.26 บาท เทียบกับ PE 30 เท่า ก็จะได้ราคาเป้าอยู่แถว 67 บาทนะนายจ๋า!
เรื่องข้างต้นคล้ายคลึงกับสถานการณ์ของหุ้น GLOBAL ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหุ้นที่ทำผลงานได้ค่อนข้างดีในช่วงที่ผ่านมา และปีนี้ก็มีลุ้นทำผลงานได้ดีขึ้นไปอีก “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 22.40 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 1.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 303 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 29 เท่า จึงเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับคนที่มองเรื่องเติบโตเป็นหลัก และมีของแถมเกี่ยวกับปันผลนิด ๆ หน่อย ๆ เจ้าค่ะ
ส่วนคนที่ชอบหุ้นเล็กที่เคาะมัน ๆ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น PRI เพื่อชี้ให้เห็นอัพไซด์ที่ค่อนข้างเปิดกว้าง และถ้ามองเฉพาะกำไรต่อหุ้นงวด 9 เดือนที่ทำได้ในระดับ 1.20 บาท มันคือภาพที่ชี้ให้เห็นว่า การยืนปิดที่ระดับ 24.60 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 122 ล้านบาท ยังมีโอกาสไปต่อได้อีกเยอะพอสมควร โดยมีข้อแม้ว่า กำไรในปีนี้ต้องโตอย่างน้อย 10% นะตัวเอง
ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” นึกถึงหุ้น “จิ๋วแต่แจ๋ว” อย่าง LEO ขึ้นมาในทันที เพราะในมุมของการเปิดประเทศแบบเต็มตัว รวมทั้งการเทรดบนค่า PE 10 เท่า ก็ทำให้รู้ได้ทันทีว่า นี่เป็นหุ้นที่ดาวไซด์ต่ำ และเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับคนที่ชื่นชอบหุ้นขนส่ง เดี๊ยนเลยกล้าฟันธงว่า การยืนปิดเสมอตัวที่ระดับ 12.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 21 ล้านบาท คือเซฟโซนไงล่ะคะ