เสี่ยยักษ์ลูบคมตลาดทุน

เสี่ยยักษ์ หรือคุณวิชัย วชิรพงศ์ นักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้นของประเทศไทย


ธนะชัย ณ นคร

 

เสี่ยยักษ์ หรือคุณวิชัย วชิรพงศ์ นักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้นของประเทศไทย

สัปดาห์ก่อนหน้านี้มีโอกาสได้สนทนากับเสี่ยยักษ์ ในช่วงเวลาเล็กน้อย

ผมถามว่า ในฐานะนักลงทุนรายใหญ่ มีมุมมองต่อตลาดหุ้นไทยในปี 2558 ที่เหลืออีกประมาณ 1 เดือนนี้อย่างไร

แน่นอนว่า สไตล์การมองหุ้นของเสี่ยยักษ์ เขาไม่ได้มองดัชนีหุ้น คือ… แบบว่าไม่สนใจดัชนีหุ้นเลยว่าจะอยู่เท่าไหร่อย่างไร เพราะเขาบอกว่าไม่มีใครคาดการณ์ได้หรอก

วิธีการมองแบบเสี่ยยักษ์ก็น่าจะคล้ายกับเสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี ที่ทำธุรกิจโดยไม่ได้สนใจตัวเลขจีดีพีมากนัก

เสี่ยยักษ์นั้น เขาจะมองเป็นเหตุการณ์ มองหุ้นเป็นรายตัว

อย่างเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดที่จะมีการประชุมในช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้

และมีการส่งสัญญาณมาเป็นระลอกว่า ขึ้นแน่ๆ

ทว่า สำหรับเสี่ยยักษ์นั้น เขาเชื่อว่า “ไม่ขึ้น”

ผมก็เลยบอกกลับไปว่า แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดบอกว่ามีโอกาสมากที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะเศรษฐกิจสหรัฐมีความเข้มแข็งพร้อมแล้ว

เสี่ยยักษ์ก็ยังยืนยันคำเดิมครับ “ไม่ขึ้น”

เขาบอกว่า มันเป็นเซนติเมนต์ส่วนตัว บวกกับประสบการณ์ที่อยู่ในวงการหุ้นมานาน

เหตุผลของเสี่ยยักษ์ คือ เศรษฐกิจสหรัฐเพิ่งจะฟื้นตัว และเป็นการรวดเร็วไปหากเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย

แล้วปัจจัยในประเทศ เสี่ยยักษ์ ก็มองว่านโยบายของคุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จะช่วยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้ ทั้งการตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน และเร่งรัดเรื่องรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ รวมถึงโครงการลงทุนขนาดใหญ่

ทั้งหมดนี้ หากทำให้เสร็จจริงๆ ก็จะช่วยเรื่องสภาพคล่องได้มาก

ส่วนแนวโน้มหุ้นในปี 2558 ที่เหลือเวลาให้ซื้อขายกันอีกกว่า 1 เดือน

เสี่ยยักษ์ ก็มองอีกว่าดัชนีหุ้นไทยเมื่อลงมาถึงจุดจุดหนึ่ง ก็จะมีแรงซื้อเข้ามา ซึ่งจะต่างจากเมื่อก่อน ที่พอมีแรงขาย ก็ขายตามกันไป

“นักลงทุนมีความรู้ เก่งขึ้น เชื่อมั่นในหุ้นของตัวเอง ไม่ได้เล่นตามกันไปเหมือนก่อนหน้านี้”

“หุ้นปั่นตายหมด ออก PP ราคาต่ำ รายย่อยไม่เอาด้วย มันหมดยุคแล้ว”

เสี่ยยักษ์กล่าวไว้ทั้ง 2 ประโยค

แล้วมองหุ้นตัวไหน กลุ่มไหนน่าสนใจในปี 2559 ล่ะ…ผมถาม

เสี่ยยักษ์บอกว่า ก็หุ้นที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ เช่น หุ้นรถไฟฟ้า ซึ่งหลังจากนี้อีก 1 ปี จะปรับตัวดีขึ้นแน่นอน

หุ้นกลุ่มรับเหมาก็มีแนวโน้มที่ดี กลุ่มวัสดุก่อสร้าง เช่น SCC (เครือซิเมนต์ไทย) จะได้รับประโยชน์จากลงทุนภาครัฐ

ราคาหุ้น GPSC ก็มีทิศทางที่ดีขึ้น (20 พ.ย.)

ส่วนกลุ่มสื่อสาร เสี่ยยักษ์มองว่า ไม่น่าสนใจ

เหตุผลก็คือ หุ้นเหล่านั้นใช้เงินลงทุนสูงมาก และเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

และการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนั้นเอง ทำให้โอเปอเรเตอร์ (หุ้นค่ายมือถือ) ก็ต้องยิ่งลงทุนเพิ่ม ใช้เงินเยอะมาก

ส่วนกลุ่มค้าปลีกนั้น เสี่ยยักษ์บอกว่า ดีอยู่แล้ว และก็ยังจะดีต่อไปอีก

และมาถึงคำถามสำคัญว่า หุ้นที่เสี่ยยักษ์สนใจเป็นอย่างไร

คำตอบคือ เขาจะเลือกซื้อหุ้นที่หลายคนมองว่ามันไม่ดี แต่มีโอกาสจะดี หรือจะเป็นหุ้นเทิร์นอะราวด์ได้

ผมเลยถามต่อเกี่ยวกับหุ้น ITD ว่าจะยังถือต่อไปใช่หรือไม่

และที่มีการขายกันออกมาก่อนหน้านี้ พี่ยักษ์ไม่ได้ขายใช่ไหมครับ

เสี่ยยักษ์ยืนยันคำตอบว่า “ไม่ได้ขาย” และ “ไม่มีเหตุผลที่จะต้องขาย” และ “ใครอยากขายก็ขายไป” และ “แต่ผมไม่ได้ขาย ผมยังถือหุ้น ITD อยู่”

“เหมืองโปแตช” เป็นโครงการที่เสี่ยยักษ์ดูเหมือนจะฝากความหวังไว้มาก

รวมถึง “โครงการทวาย” ที่ล่าสุดทางรัฐบาลจีนจะเข้ามาช่วยสร้างถนนให้ ส่วนธุรกิจรับเหมาก็ยังคงเติบโตได้ดีสำหรับ ITD ในปี 2559

แต่ก็มีเรื่องที่ ITD จะต้องดำเนินการ คือ การปรับโครงสร้างหนี้ให้ชัดเจน

โรงปูนซีเมนต์ (สระบุรี) จะต้องนำเข้าตลาดหลักทรัพย์

ส่วนสินทรัพย์ลงทุนของเสี่ยยักษ์ตอนนี้ กว่า 50% ยังอยู่ในตลาดหุ้น ซึ่งเสี่ยยักษ์บอกว่า พอร์ตลงทุนของเขามีขนาดใหญ่มาก หากจะเลิก หรือปรับเปลี่ยนอะไร มันไม่ง่าย…ไม่เหมือนกับพอร์ตหุ้นขนาดเล็ก

ส่วนสินทรัพย์ลงทุนอื่นๆ ก็มีลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์

เช่น ซื้อที่ดินราคาถูก และมีศักยภาพเพื่อเก็งกำไร

Back to top button