ตัวแรงมาอีกแล้ว

ช่วงนี้มีมิตรสหายที่เป็นบริษัทจดทะเบียนแวะเวียนมาหาสายข่าวของ “โมนิก้า” มากเหลือเกิน ซึ่งแต่ละรายก็เม้าท์เป็นเสียงเดียวกันว่า ผลงานปีนี้น่าจะดีกว่าปีก่อนอย่างชัดเจน


ช่วงนี้มีมิตรสหายที่เป็นบริษัทจดทะเบียนแวะเวียนมาหาสายข่าวของ “โมนิก้า” มากเหลือเกิน ซึ่งแต่ละรายก็เม้าท์เป็นเสียงเดียวกันว่า ผลงานปีนี้น่าจะดีกว่าปีก่อนอย่างชัดเจน และสัญญาณดังกล่าวก็เริ่มปรากฏให้เห็นตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 65 และมาแจ่มแจ้งสุด ๆ ในช่วง 10 วันที่ผ่านมานี้ ผนวกกับบริษัทต่าง ๆ เตรียมลงทุนแบบจัดเต็มอีกครั้ง ส่งผลให้หลายอย่างกลายเป็นสีชมพูไปหมดไงล่ะคะ

ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ไม่แปลกใจที่นักเล่นพากันไล่หุ้นตัวท็อปอย่างสนุกสนาน เพราะของมันเห็นกันมาระยะหนึ่งว่า มีหุ้นพื้นฐานดีหลายตัวที่ราคาต่ำเกินไป ขณะเดียวกันก็กลับมาไล่หุ้นเก็งกำไรอย่างเมามัน ส่งผลให้การเคลื่อนตัวของดัชนีออกไปในทาง “ไซด์เวย์อัพ” เป็นส่วนใหญ่ ผสานกับมีจุดต่ำสุดของการย่อตัวลงมาในแต่ละรอบสูงขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้การขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,700 จุดไม่ใช่เรื่องยากพะย่ะค่ะ

ยิ่งดัชนีแสดงอาการกวัดแกว่งไปมาตลอดทั้งวัน และพยายามประคองตัวไม่ให้ทรุดลงแรง ยิ่งทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้นเป็นลำดับ เพราะแสดงให้เห็นว่า มีคนจำนวนมากรอช้อนหุ้นเมื่อย่อตัวลงมา วานนี้จึงเห็นดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,691.41 จุด บวกไป 0.29 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.05 หมื่นล้านบาท แบบไม่ทุกข์ร้อนอะไรทั้งสิ้น เพราะมันคือการเขย่าเพื่อเอาของ แต่ไม่มีใครยอมปล่อยของ ดัชนีถึงมีอาการ “ขึ้น ๆ ลง ๆ” เจ้าค่ะ

สำหรับหุ้นตัวใหญ่ที่ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงมากสุด และชอบเอ่ยถึงประจำ คงต้องมองไปที่ PTTGC เป็นรายแรก เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 50.25 บาท บวกไป 2.75 บาท หรือขึ้นไป 5.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.49 พันล้านบาท คือภาพสะท้อนที่ชี้ให้เห็นว่า สถาบันลุย! ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับคนที่ชอบตามกระแส เพราะสามารถวาดฝันถึงแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 55 บาทนะจะบอกให้

ประเด็นความคาดหวังดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” เลือกที่จะเอ่ยถึงหุ้นทาสหมาแมวอย่าง ITC ขึ้นมาทันที เพราะการไต่จากก้นเหวที่ระดับ 25 บาทขึ้นมาอย่างช้า ๆ ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 28.25 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 4.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 393 ล้านบาท น่าจะเป็นการเปลี่ยนโมเมนตัมที่สำคัญอีกครั้ง และเที่ยวนี้อาจคาดหวังการกลับขึ้นไปยืนเหนือไอพีโอ 32 บาทได้พอสมควร จึงอยากให้ตามดูกันไปเรื่อย ๆ นะจ๊ะ

เม้าท์ถึงเรื่องฟื้นตัวขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงต้องมองไปที่หุ้น SABUY เพื่อชี้ให้เห็นแรงซื้อที่ไหลเข้ามาสองวันติด จนราคาหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 12.10 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 8% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 835 ล้านบาท กลายเป็นจังหวะที่ขาลุยต้องโหนกระแสแบบไร้ข้อกังขา หลังกูรูหลายคนมองไปในทางเดียวกันว่า กำไรปีนี้จะโตสะบึ้ม ซึ่งเป็นผลมาจากยุทธการสร้างพลังผนึกกับบริษัทต่าง ๆ น่ะซี

ในเมื่อมาแนวหุ้นฟื้นตัวเป็นหลัก และมีแรงซื้อซัพพอร์ตเข้ามาเป็นระยะ คงต้องมองไปที่หุ้น FORTH เพื่อเสนอเป็นทางเลือกให้กับพวกเสือปืนไว เพราะแมงลือเม้าท์กันให้แซ่ดว่า สตอรี่กำไรโตถูกหยิบขึ้นมาปั่นกระแสอีกครั้ง แถมเจ้ามือก็อินกับเรื่องนี้พอสมควร วานนี้ถึงเห็นหุ้นขยับขึ้นมา 35.75 บาท บวกไป 3.25 บาท หรือขึ้นไป 10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 332 ล้านบาทเป็นวันแรก และมีโอกาสที่จะเห็นราคาหุ้นบวกต่อเป็นวันที่สองพะย่ะค่ะ

เรื่องดังกล่าวคล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นในหุ้นลูกเจี๊ยบ GFPT หลังราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 13.60 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 5.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 195 ล้นบาท “โมนิก้า” ไม่สามารถมองเป็นเรื่องอื่นได้เลยจริง ๆ และเมื่อมองจากยอดขายไก่ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เดี๊ยนเลยไม่แปลกใจที่หุ้นจะไปต่อแบบสวย ๆ เพราะโดยพื้นฐานที่มองจากบุ๊ก 1.50 เท่า มันทำให้ยอดด้านบนที่บริเวณ 16 บาทไม่ไกลเกินเอื้อมจ้า!

เหมือนกับสถานการณ์ของหุ้น NER ก็เห็นกันทนโท่ว่า เศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว แถมได้แรงหนุนจากจีนเปิดประเทศ จึงทำให้เชื่อว่า ผลงานไตรมาส 1 ปี 66 น่าจะสวยเช้งเลยทีเดียว! เมื่อนำมาผสานกับการขยับตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 6.40 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 2.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 61 ล้านบาท น่าจะส่งสัญญาณให้รู้ว่า เริ่มมีการไล่หุ้นรอบใหม่แบบเบา ๆ กันแล้วนะ..จริงเท็จอย่างไรก็ดูกันต่อไปเจ้าค่ะ

Back to top button