พาราสาวะถี

เห็นสภาพของการประชุมรัฐสภาที่ล่มด้วยเหตุผลองค์ประชุมไม่ครบ 2 วันติดทั้งที่เป็นการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. … ที่มีความสำคัญ งานนี้จะมาโทษว่าฝ่ายค้านไม่ให้ความร่วมมือไม่ได้ เพราะการถกร่างกฎหมายฉบับนี้ฝ่ายค้านได้ร่วมแสดงตัวเป็นองค์ประชุมด้วย โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาฝ่ายค้านได้แสดงตนเป็นองค์ประชุมกว่าร้อยเสียง นั่นหมายความว่า ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและ ส.ว.ลากตั้งพากันหายหัวไปกันหมด ตรงนี้สะท้อนถึงอะไร นักการเมืองเต็มตัวอย่างผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจต้องตอบให้ได้

สัญญาณเช่นนี้มันชัดเจนว่า ยังไงก็ยุบสภา ยิ่งจับคำพูดของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจล่าสุด ยืนยันว่าจะไม่ทำให้คนที่คิดจะย้ายพรรคเดือดร้อน คงไม่ได้หมายถึงการอยู่ครบวาระแน่นอน เพราะนั่นมันจะเป็นการบังคับให้ ส.ส.ต้องลาออกจากตำแหน่งก่อนวันที่ 7 กุมภาพันธ์นี้เพื่อการันตีความเป็นสมาชิกพรรคไม่น้อยกว่า 90 วัน แต่การยุบสภาไม่ว่าจะวันไหน ยังไงก็เป็นสมาชิกทันเพราะเวลาลดเหลือไม่น้อยกว่า 30 วัน ขณะที่การจัดการเลือกตั้งเมื่อมีการยุบสภาจะต้องทำภายในเวลาไม่น้อยกว่า 45 วันแต่ไม่เกิน 60 วัน

จนถึงนาทีนี้ ภาพของการลาออกย้ายพรรคความโดดเด่นยังคงไปปรากฏที่ภูมิใจไทยของ อนุทิน ชาญวีรกูล ซึ่งล่าสุด วีระกร คำประกอบ ถึงกับประกาศลาออกจากความเป็น ส.ส.นครสวรรค์ พรรคสืบทอดอำนาจ กลางที่ประชุมรัฐสภา แสดงความกล้าหาญก่อนจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคของเสี่ยหนูในวันรุ่งขึ้น พร้อมประกาศก้องด้วยว่า พรรคใหม่ของตัวเองจะเป็นแกนหลักในการจัดตั้งรัฐบาล ด้วยการได้จำนวน ส.ส.ไม่น้อยกว่า 120 ที่นั่ง

ถือเป็นกลอนพาไปจากบรรยากาศอันชื่นมื่นที่ได้รับการต้อนรับจากเสี่ยหนูและคณะอย่างอบอุ่น แต่ในสนามเลือกตั้งจริงจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ ส.ส.เฒ่าอย่างวีระกรย่อมรู้ดี คนที่ย้ายพรรคเป็นว่าเล่นต้องตอบสังคมให้ได้ เป็นเพราะกระแสหรือกระสุน ส่วนเหตุผลที่อ้างว่าต้องตีจากพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.จากความน้อยใจที่คนเป็นหัวหน้าพรรคเข้าพบยากเย็นเหลือเกิน ต้องแลกบัตร 3 ใบถึงจะได้เจอตัว หากเป็นเช่นนั้นจริง ส.ส.ที่เหลือก็คงจะพากันทิ้งพรรคแกนนำรัฐบาลกันหมด

ปัญหาสำคัญเวลานี้ไม่ได้อยู่ที่ว่าหัวหน้าพรรคเข้าพบยากหรือง่าย แต่เป็นเรื่องของปัจจัยสนับสนุนที่จะทำให้นักเลือกตั้งที่มีหัวโขน ส.ส.สามารถต่อรองเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวให้มากที่สุด ประกอบกับการวัดกระแสจากในพื้นที่ด้วยว่า พรรคไหนมีแนวโน้มที่จะสอบได้มากกว่าสอบตก ซึ่งถ้าพูดถึงเรื่องปัจจุบันพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ก็ใจถึงไม่แพ้ใครเหมือนกัน และนั่นก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ ส.ส.บางคนไม่ได้ย้ายไปอยู่กับผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ

อย่างไรก็ตาม การโชว์พลังการดูดมหาศาลของพรรคเสี่ยหนูนั้น ปัจจัยกระสุนเป็นตัวนำ นโยบายที่ใช้เป็นแค่ข้ออ้าง แต่อีกอย่างที่ทำให้ ส.ส.จำนวนไม่น้อยตัดสินใจไปร่วมคือ หากเกิดเหตุพลิกผันทางการเมือง แล้วจะต้องเลือกว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคการเมืองใด สมควรจะได้รับการโหวตจากที่ประชุมร่วมรัฐบาล ชื่อของอนุทินจะเป็นตัวเลือกลำดับต้นหรืออันดับแรกเลยก็ว่าได้ ปัจจัยนี้แม้แต่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจที่วางกลไกไว้เพื่อการอยู่ยาวยังต้องยอม

ส่วนแนวโน้มผลของการเลือกตั้งจนถึงเวลานี้ถ้าไม่มีการใช้เล่ห์กลใด ๆ เพื่อไทยยังคงจะเป็นพรรคที่ชนะการเลือกตั้ง อยู่ที่ว่าจะห่างจากพรรคอันดับสองคือ ภูมิใจไทยชนิดทิ้งขาดหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นขั้วการเมืองคงหนีไม่พ้นพรรคนายใหญ่ ภูมิใจไทย พรรคสืบทอดอำนาจ บวกด้วยก้าวไกล ปล่อยให้พรรคของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจและประชาธิปัตย์ไปเป็นฝ่ายค้านตามระเบียบ หากเป็นสูตรนี้จริงก็จะไม่ใช่สิ่งที่พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ต้องคิดหนักหรือหนักใจแต่อย่างใด

ถ้าผลการเลือกตั้งภูมิใจไทยเบียดมากับเพื่อไทย แล้วมีความประสงค์จะจับมือกับขั้วการเมืองเดิม ตรงนี้จะมีเงื่อนไขที่ต้องเจรจากันหลายซับหลายซ้อน อย่างแรกเลยผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจจะขอเป็นนายกฯ ตามสูตรคนละครึ่งหรือไม่ โดยที่อนุทินก็ประกาศไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าไม่ยอม พร้อมจะเป็นผู้นำประเทศคนที่ 30 แน่ ๆ เช่นนั้นเป็นได้แค่รองนายกฯ ทำใจรับได้หรือเปล่า ซึ่งโจทย์ข้อนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าพรรครวมไทยสร้างชาติได้ ส.ส.ไม่ถึง 25 เก้าอี้

ประการต่อมา การจับมือขั้วเดิมถ้าเป็นไปในเงื่อนไขผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจขอไปต่อ ต้องย้อนกลับไปถามพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ว่าจะยอมรับได้ไหม ถ้าพรรคของตัวเองได้คะแนนมาเป็นอันดับ 3 แต่น้องเล็กขอจองเก้าอี้นายกฯ เพราะนั่นหมายความว่า การจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีที่อยู่ภายใต้อุ้งมือของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ จะมีผลต่อบรรดาแกนนำในพรรคสืบทอดอำนาจ ที่เห็นเป็นปัญหาในปัจจุบันคือ พี่ใหญ่มีแค่เก้าอี้รองนายกฯ เป็นเครื่องปลอบใจเท่านั้น

ในเมื่อพรรคสืบทอดอำนาจเวลานี้มีทั้งกลุ่มของ ธรรมนัส พรหมเผ่า กลุ่มของ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หรือแม้แต่ มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ที่ประกาศไม่สนับสนุนผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ถ้ายังจับมือกันเหมือนเดิมพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.จะดูแลคนเหล่านี้อย่างไร และคงรับปากไม่ได้ว่าจะไม่เกิดปัญหาเหมือนเมื่อคราวที่อัปเปหิธรรมนัสและนฤมลพ้นเก้าอี้รัฐมนตรีเมื่อปี 2564 อีก ส่วนพรรคเก่าแก่จนถึงนาทีนี้ยังบอกไม่ได้ว่าเลือดหยุดไหลแล้วหรือยัง

ไม่เพียงแต่การไขก๊อกของ ส.ส.และแกนนำเท่านั้น พื้นที่การชิงชัยที่หวังผลในภาคใต้เป็นหลัก และหวังว่าจะได้ ส.ส.กทม.กลับคืนมาอย่างน้อยสี่ซ้าห้าที่นั่ง ก็ต้องแย่งกับพรรคที่เป็นพวกเดียวกันในปัจจุบัน ไม่นับพรรคสืบทอดอำนาจ ทั้งภูมิใจไทยและรวมไทยสร้างชาติถือเป็นศัตรูตัวฉกาจที่สร้างความเสียหายให้กับพรรคเก่าแก่อย่างใหญ่หลวง ภาวะแค้นฝังหุ่นเช่นนี้จะยอมพลิกลิ้นอีกคำรบหลังจากกลืนน้ำลายไม่สนับสนุนขบวนการสืบทอดอำนาจมาแล้วอย่างนั้นหรือ อย่างที่บอกว่า เลือกตั้งครั้งหน้าถ้าไม่นับการใช้วิชามารจ้องยุบพรรคฝ่ายค้าน ปัญหาจะเกิดระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันนี่แหละที่จะฟัดกันเละเทะ