พาราสาวะถี
แค่เริ่มต้นก็เริ่มสกัดดาวรุ่งกันแล้ว จึงต้องมองกันไปยาวๆ การเดินคนละทางสร้างดาวคนละดวง ท้ายที่สุดจะนำไปสู่ความบาดหมางระหว่างพี่กับน้องหรือไม่
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ คนที่ปากบอกว่ารักกันมานาน 40-50 ปี 3 ป.ฟอร์เอฟเวอร์ หรือแม้กระทั่งจะมีแต่ความตายเท่านั้นที่จะพรากความผูกพันที่มีต่อกันได้ แต่พออีกฝ่ายแยกตัวไปเดินบนถนนการเมืองเต็มตัว มีพรรคเป็นของตัวเอง ด้วยความที่ทุกอย่างเคยคิดและใช้ร่วมกันมาตลอด จึงแยกไม่ออกว่าสิ่งที่พอจะอ้างเป็นผลงานได้บ้างเป็นเครดิตของใคร ประเด็นบัตรคนจนที่พี่ใหญ่ชิงแถลงชูเป็นนโยบายสำคัญของพรรคสืบทอดอำนาจด้วยการอัดเงินเพิ่มให้สูงถึง 700 บาทต่อเดือน คนโปรดของน้องเล็กมองว่าไม่น่าจะถูกต้อง
มีการป่าวประกาศว่าบัตรคนจนคนต้นคิดคือผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ คนที่พูดก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ธนกร วังบุญคงชนะ ที่เพิ่งยื่นไขก๊อกโบกมือลาพรรคสืบทอดอำนาจไปอยู่กับท่านผู้นำที่มีพระคุณล้นเหลือ โดยเจ้าตัวได้ออกมาดักคอเตะตัดขาพี่ใหญ่ที่เพิ่งประกาศนโยบายเรื่องนี้ไป มันเท่ากับเป็นการฉีกหน้า ไม่ให้เกียรติเหมือนเป็นการกล่าวหาว่าพรรคแกนนำรัฐบาลปัจจุบันไปเคลมเอาความคิดของคนอื่นมาเป็นผลงานของตัวเองได้ยังไง
นี่แค่เริ่มต้น ก็เริ่มสกัดดาวรุ่งกันแล้ว จึงต้องมองกันไปยาว ๆ การเดินคนละทางสร้างดาวคนละดวง ท้ายที่สุดจะนำไปสู่ความบาดหมางระหว่างพี่ใหญ่กับน้องเล็กหรือไม่ ปากและภาพที่สร้างว่ารักกลมเกลียวกัน แต่ใจและการกระทำของลิ่วล้อที่เกาะแข้งเลียขานั้นมันคนละเรื่อง มิหนำซ้ำ ขบวนการไอโอที่มีการใช้มานับตั้งแต่รัฐประหารก็ยังคงปฏิบัติการด้อยค่าฝ่ายตรงข้ามอย่างต่อเนื่อง แต่น่าคิดว่าเมื่อพี่น้องกลายเป็นคู่แข่งทางการเมืองกันแล้ว หอกที่เคยใช้ทิ่มแทงศัตรูจะย้อนกลับมาเล่นงานพวกเดียวกันหรือไม่
ย้ำมาโดยตลอดการเลือกตั้งหนนี้ การห้ำหั่นชนิดเอาเป็นเอาตายกันนั้น ไม่ได้เป็นระหว่างฝ่ายค้านกับรัฐบาลเหมือนที่ผ่านมา จะเป็นการเชือดเฉือนกันเองของพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน ตกปลาในบ่อเพื่อนพันกันไปมาระหว่างพรรคสืบทอดอำนาจ ภูมิใจไทย และประชาธิปัตย์ พอมีรวมไทยสร้างชาติมาร่วมวงไพบูลย์อีกพรรค จึงต้องฟัดกันเละ นาทีนี้ยังมีผลประโยชน์ร่วมแต่อีกไม่กี่อึดใจ ทุกอย่างก็จะกลายสภาพเป็นคู่แข่งถึงขั้นเป็นศัตรูกันทันที
สภาพของสภาล่มรายวัน อ่านสัญญาณจาก วิษณุ เครืองาม เด่นชัดเป็นอย่างยิ่งว่านี่เป็นเทคนิคที่จะใช้เพื่อค้านหรือล้มกฎหมายบางฉบับ เช่นนั้นหมายความว่าร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่เป็นความหวังสำคัญของภูมิใจไทยมีอันจอดไม่ต้องแจว อนุทิน ชาญวีรกูล ต้องรอให้จบการเลือกตั้งถ้าได้กลับมาเป็นรัฐบาลค่อยผลักดันกันต่ออีกกระทอก บอกแล้วว่า ลำพังประชาธิปัตย์พรรคเดียวไม่อาจขวางลำได้ตลอดรอดฝั่งหากพรรคสืบทอดอำนาจไม่เล่นด้วย
เมื่อสภาเกิดความขัดแย้ง จนกระทั่งการประชุมล่มรายวันเช่นนี้ ย่อมหนีไม่พ้นที่สุดท้ายผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจต้องยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน อย่างไรก็ตาม เหตุผลสำคัญ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทยวิเคราะห์ไว้ก็น่ารับฟัง อย่าลืมนะว่าญัตติสำคัญเพียงเรื่องเดียวที่คาอยู่ และถ้าสภายังไม่หมดวาระยังไงก็ต้องเกิดขึ้น คือการอภิปรายรัฐบาลโดยไม่ลงมติของฝ่ายค้านตามมาตรา 152 แม้ว่าจะไม่มีผลล้มรัฐบาลเพราะไม่มีการโหวตไว้หรือไม่ไว้วางใจ
แต่คราวนี้จะเป็นการอภิปรายครั้งแรกที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ไม่มี ส.ส.ในพรรคของตัวเองคอยปกป้องดูแล นั่นเป็นเพราะคนของพรรคสืบทอดอำนาจคงจะไม่ยกมือช่วย เมื่อเจ้าตัวไม่ได้รักษามารยาทหรือใยดีต่อความเป็นแคนดิเดตนายกฯ ในนามพรรคแกนนำรัฐบาล ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคอื่นแล้ว ก็ป่วยการที่คนของพรรคสืบทอดอำนาจจะคอยมายกมือรักษาเสถียรภาพให้กับเก้าอี้นายกฯ สิ่งสำคัญคือ พี่ใหญ่ก็แสดงเจตนารมณ์อันแน่วแน่แล้วว่าเลิกแบกเสลี่ยงให้น้องรักนั่งอีกต่อไป
ขณะเดียวกัน ลูกน้องพวกสายตรงของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจจำนวนหนึ่งก็ลาออกจากความเป็น ส.ส.ไปแล้ว พวกที่ยังตกค้างอยู่ในสภาก็ไม่ใช่คนที่จะลุกขึ้นมาสู้รบตบมืออะไรกับฝ่ายค้านได้ อย่าทำเป็นเล่นไปเรื่องนี้อาจจะกำลังบีบหัวใจผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจอยู่ก็ได้ เพราะการเป็นนายกฯ ที่นั่งโดดเดี่ยวให้ฝ่ายค้านรุมกระหน่ำอยู่ 2 วัน ไม่มีพรรคพวก ส.ส.พรรคไหนคอยช่วยเหลือ มันย่อมทำให้ท่านผู้นำอยู่ในภาวะเสียวสันหลังไม่ใช่น้อย
แน่นอนว่า สองพรรคร่วมรัฐบาลภูมิใจไทยเมื่อถูกกระทำจากกฎหมายกัญชา ก็ต้องปล่อยให้ ส.ส.ได้ปล่อยของระบายความคับแค้นใจกันบ้าง ซึ่งนั่นไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากมีการซักฟอกของฝ่ายค้าน จากที่เคยซ้ายหันขวาหันทำตามลูกพี่สั่งเพียงอย่างเดียว อาจจะมีข้อมูลเด็ดมาอภิปรายพวกเดียวกันก็เป็นได้ ไม่ต้องพูดถึงประชาธิปัตย์ที่ถูกพวกรุมสหบาทา จนแทบจะไม่เหลือสภาพพรรคที่เคยยิ่งใหญ่ เหล่านี้คือสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจ จนบรรดาเนติบริกรศรีธนญชัยและนักกฎหมายขายตัวข้างกายผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจจะปล่อยให้มีการซักฟอกเกิดขึ้นได้
ความเห็นต่อการจะเกิดการยุบสภาเร็ว ๆ นี้ในมุมของณัฐวุฒิแม้จะเป็นไปในเชิงประชดประชัน แต่ก็เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก็น่าจะมองไม่ต่างกัน เหตุผลสำคัญที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจไม่อาจจะปล่อยให้มีการซักฟอกและเผชิญหน้ากับฝ่ายค้านอย่างโดดเดี่ยวได้ เพราะสถานะของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจนาทีนี้ไม่ใช่โดดเดี่ยวผู้น่ารัก แต่เป็นโดดเดี่ยวผู้น่าเกลียดน่าชังในสายตาประชาชนต่างหาก ดังนั้น เงื่อนเวลาราชาฤกษ์ที่จะยุบสภาในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้จึงยังมีความเป็นไปได้อยู่
ไม่เพียงแต่การเผชิญหน้าทางการเมืองกับบรรดาคู่แข่งขันประเภทเขี้ยวลากดินที่สร้างความหนักใจให้กับผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเท่านั้น การโกงหรือทุจริตที่ตัวท่านผู้นำย้ำมาตลอดว่าตัวเองไม่ยอมให้เกิดขึ้นเด็ดขาด เรื่องส่วยที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ปมการเด้งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ล่าสุดถูกผูกโยงเกี่ยวข้องกับปมการรีดเงินจากผู้ต้องหาในคดีมาเฟียจีนสีเทา ซึ่งยังมีปมที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ออกมาแฉและขู่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเอาไว้ ถ้าไม่จัดการเลือกตั้งได้เห็นดีกันแน่ จากที่เคยซุกกันไว้ใต้พรม ใครจะไปคิดว่าในภาวะที่ผู้คนเบื่อหน่ายผู้นำ ความฉาวโฉ่ต่าง ๆ จะผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดเช่นนี้