จุดเริ่มต้นสงครามราคารถ EV
สงครามราคาตลาดรถยนต์ EV เริ่มบังเกิดขึ้นแล้ว หลังจาก “เทสลา” ชิงเปิดสงครามก่อน ทำให้ค่ายรถอื่น ๆ จำเป็นต้องขยับปรับตัวตามด้วยเช่นกัน..!
สงครามราคาตลาดรถยนต์ EV เริ่มบังเกิดขึ้นแล้ว หลังจาก “เทสลา” ชิงเปิดสงครามก่อน ทำให้ค่ายรถอื่น ๆ จำเป็นต้องขยับปรับตัวตามด้วยเช่นกัน..!
เริ่มจาก “เทสลา” ได้ประกาศปรับราคารถยนต์ EV รุ่นโมเดลทรี (Model 3) และโมเดลวาย (Model Y) ข้อมูลจากเว็บไซต์ เทสลารถยนต์ EV รุ่น Model 3 จากราคาเดิม 46,990 ดอลลาร์สหรัฐ ถูกหั่นราคาลงถึง 6.4% เคาะราคาใหม่อยู่ที่ 43,990 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,446,390 บาท
ส่วนรุ่น Model Y Long Range AWD จากราคาเดิม 65,990 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.1 ล้านบาท ปรับราคาลงมาเหลือเพียง 52,990 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.7 ล้านบาท หรือประมาณ 20%
นั่นทำให้ Xpeng ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน กระโจนเข้าสู่สงครามนี้ด้วยการปรับลดราคาขายลงประมาณ 13% ทั้งราคารถรุ่น G3i SUV, P5 และ P7 ลงมากถึง 4,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 150,000 บาท)
เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. 66 การลดราคาครั้งใหญ่ถึง 13% ได้รับการประกาศผ่านบัญชี WeChat Official
รถซีดานที่ขายดีสุดของแบรนด์นี้ คือ รุ่น XPeng P7 ตอนนี้เริ่มต้นที่ 209,900 หยวน (ประมาณ 1,025,283 บาท) ได้ลดราคาลง 30,000 หยวน (ประมาณ 150,000 บาท) หรือลดลง 12.5%
ส่วนราคาเริ่มต้นรุ่น Xpeng G3i SUV ลดลงเหลือ 148,900 หยวน (ประมาณ 727,320 บาท) จากเดิมราคาอยู่ที่ 168,900 หยวน (ประมาณ 825,013 บาท) หรือลดลง 12%
โดยราคาของรถซีดาน รุ่น XPeng P5 ราคาประหยัดสุดลดลง 13% เหลือ 156,900 หยวน (ประมาณ 766,397 บาท) จากเดิมราคาอยู่ที่ 179,900 หยวน (ประมาณ 878,744 บาท) สำหรับราคารุ่น XPeng G9 ที่ถือเป็นเรือธง SUV ที่เพิ่งเปิดตัวล่าสุดยังคงราคาไว้เท่าเดิม
ไม่เพียงลดราคา XPeng มีการปรับปรุงสินค้า ด้วยการลดจำนวนการดีไซน์สำหรับรุ่น G3i และ P7 เพื่อเอาใจผู้ซื้อที่ไม่พอใจกับการที่ซื้อรถรุ่น XPeng P5, P7 หรือ G3i เมื่อปีก่อนการปรับลดราคา โดยบริษัทระบุว่าจะเสนอการขยายเวลาการบำรุงรักษาฟรี 4 ปี เป็นการชดเชยและขยายเวลาการรับประกันเป็น 10 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร
การปรับลดราคาของ XPeng ถือว่าเป็นไปตามการตัดสินใจที่คล้ายกันของ Aito ที่ถือเป็นแบรนด์รถยนต์ระดับพรีเมียมที่สนับสนุนโดย Huawei และ Seres โดยเมื่อ 13 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา Aito ลดราคามากถึง 30,000 หยวน (ประมาณ 150,000 บาท) สำหรับรุ่น M5 และ M7
นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น “สงครามราคารถยนต์ EV” เท่านั้น..นับจากนี้แบรนด์ EV สัญชาติจีนค่ายต่าง ๆ..จะพาเหรดลดราคามากขึ้นในช่วง 1-2 เดือนนี้ ด้วยเหตุจากการแข่งขันกลุ่มรถยนต์ EV ที่กำลังร้อนแรง..นั่นทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าถูกกดดันให้ลดราคาลงเพื่อช่วงชิงมาร์เก็ตแชร์และเพิ่มยอดขาย..!!
นี่จึงเป็นโอกาสทองของผู้ที่อยากครอบครองรถยนต์ EV..แต่ไม่ต้องใจร้อนถูกกว่านี้มีให้เห็นเป็นแน่..!??