พาราสาวะถี

เปิดตัวแสดงตนชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้เห็นความพร้อมต่อการท้าชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีจากผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจของพรรคเพื่อไทย


เปิดตัวแสดงตนชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้เห็นความพร้อมต่อการท้าชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีจากผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจของพรรคเพื่อไทย ก่อนหน้านั้นมี แพทองธาร ชินวัตร ถือธงนำในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ก็ถูกปรามาสและโจมตีจากพวกไอโอว่าเป็นทายาทอสูรของระบอบทักษิณที่อุปโลกน์กันขึ้นมาเพื่อปลุกปั่นให้พวกอนุรักษ์นิยมสุดโต่งเชื่อหัวปักหัวปำ มิหนำซ้ำ ยังเสี่ยงต่อที่จะถูกมองว่าพรรษาไม่ถึงพอที่จะนั่งเป็นนายกฯ ถ้าเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล

ล่าสุด เศรษฐา ทวีสิน ซึ่งถูกคาดหมายว่าจะเป็นหนึ่งใน 3 แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคนายใหญ่ ก็ถือฤกษ์ตรุษจีนลงพื้นที่เยาวราชร่วมกับคณะของอุ๊งอิ๊ง ถือเป็นการส่งสัญญาณปี่กลองทางการเมืองที่ว่าด้วยการเลือกตั้งนั้นได้เริ่มขึ้นแล้ว แม้ว่าเจ้าตัวจะยังไม่ทิ้งหัวโขนหัวเรือใหญ่ของแสนสิริแต่แค่รอจังหวะที่เหมาะสมเท่านั้น เมื่อประกาศความพร้อมเช่นนี้แล้ว ยิ่งทำให้เห็นความแตกต่างในแง่ของความเป็นมืออาชีพในการบริหาร

หากนำไปเทียบกับผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจแล้ว ย่อมมองกันได้ว่าประชาชนส่วนใหญ่จะส่งเสียง “ยี้” ไปทางใด ไม่ต้องพูดถึงความเบื่อหน่าย ไม่มองไปยังความต้องการเปลี่ยนแปลงอันเกิดจากความทุกข์อย่างแสนสาหัสที่ได้รับกันมานานกว่า 8 ปี ในทางกลับกันสแกนไปยังขุมกำลังของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจในพรรครวมไทยสร้างชาติจะเห็นสารพัดปัญหา บรรดา ส.ส.ที่เคยวาดฝันกันไว้ก่อนหน้านั้นไม่มาตามนัด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เสกสกล อัตถาวงศ์ นำทีมไปปราศรัยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครที่อุดรธานี ก็ทำให้เห็นภาพว่าไม่สมราคาคุย

ทั้งในแง่ของตัวผู้สมัครและคนที่มาฟังการปราศรัยเมื่อเทียบกับวันที่เพื่อไทยยกพลบุกเมืองหลวงคนเสื้อแดงสัปดาห์ก่อน ยิ่งนานวันยิ่งเห็นได้ว่าการบริหารจัดการทางการเมืองเพื่อรองรับการเป็นนักการเมืองเต็มตัวของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจนั้น แม้จะมีอดีตคนการเมืองโดยเฉพาะพวกมือเก๋าที่มาจากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้มีอะไรที่แปลกใหม่ หรือทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงชนิดที่คนเห็นถึงความแตกต่าง มิหนำซ้ำ ยังถูกจับตามองและครหาด้วยว่ามุ่งแต่ที่จะใช้อำนาจที่มีเพื่อเอาเปรียบคู่แข่ง

การแต่งตั้งตำรวจที่เพิ่งผ่านไปหมาด ๆ กับภาพพวกถือพานเข้ากราบกรานนักการเมือง ก็ทำให้เห็นความมุ่งหมายชัดเป็นการจัดทัพเพื่อมุ่งหวังทางการเมืองชัดเจน หลักฐานมันฟ้องภาพที่ปรากฏโฟกัสกันไปที่พื้นที่ภาคตะวันออก ก็ไม่ต้องบอกว่าเป็นการบริหารจัดการโดยใคร เพื่อใคร ไม่ต่างกันกับที่ใช้ความอย่างหนาแต่งตั้งระดับนำของพรรคตัวเองไปนั่งเป็นที่ปรึกษานายกฯ และข้าราชการการเมือง สะท้อนวิธีคิดและการปฏิบัติว่าต้องการปฏิรูปการเมืองให้ดีขึ้นหรือเลวลง

จึงไม่แปลกที่จะได้เห็นการขยับของคนบ้านใหญ่ในพื้นที่ทั้งชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ทั้งตระกูลคุณปลื้ม ปิตุเตชะ ฉายแสง และ ตันเจริญ แสดงความสามัคคีกันโดยมิได้นัดหมายโวยต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าจำกันได้ดีภาพเช่นนี้กรณีอดีตนายตำรวจน้ำดีที่วันนี้เป็นนายก อบจ.ปทุมธานี พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ถูกโจมตีสมัยเป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาลจากการปรากฏภาพและข้อความ “มีวันนี้เพราะพี่ให้” บรรดาหน้ากากคนดีทั้งหลายพากันด่าเช้าด่าเย็น แต่ภาพที่ตำรวจไปกราบกรานนักการเมืองใต้ปีกของผู้นำแปดเปื้อนกลับพากันเงียบเป็นเป่าสาก

ด้วยเหตุนี้การที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเที่ยวโพนทะนามาตั้งแต่วันแรกที่ยึดอำนาจว่า มุ่งมั่นในการปราบปรามการทุจริต คดโกง จึงไม่มีใครเชื่อ ยิ่งเวลานี้สิ่งที่เคยซุกไว้ใต้พรมมันถูกขุดขึ้นมาแฉกันแทบจะรายวัน ไม่ต้องใช้ความรู้สึกไปกล่าวหา หรืออาจถูกมองว่ามีอคติกับขบวนการสืบทอดอำนาจ เพราะ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ส.ว.ที่ได้รับการแต่งตั้งมาจากปลายกระบอกปืนเอง ยังอดรนทนไม่ได้ต้องออกมาสะกิดกันแรง ๆ

ที่หมอพรทิพย์ว่ามานั้น มันชัดเสียยิ่งกว่าชัด กรณีการจ่ายส่วยในการเลื่อนตำแหน่งที่รู้กันว่ามีในหลายหน่วยงาน ขนาดจับเงินสดได้จำนวนมหาศาลยังทำอะไรไม่ได้ กรณีการใช้อำนาจเข้าตรวจค้นแล้วยักยอกเงินของกลางซึ่งมีมานาน หัวหน้าล้วนเอาหูไปนาเอาตาไปไร่หรือร่วมกินด้วยเลย กรณีการแก้ปัญหาในระบบราชการด้วยการย้ายไปแขวน ย้ายสลับที่ไม่เคยมีระบบให้สังคมได้ติดตามมีส่วนร่วม เมื่อมีข่าวอื่นแทรก ผู้คนเริ่มลืมคนเหล่านี้ก็กลับเข้าสู่ตำแหน่ง แต่อะไรก็ไม่เท่ากับย้ายคนสีเทาไปไว้ในหน่วยงานอื่น ทำให้บุคลากรดี ๆ ต้องเสียขวัญเสียกำลังใจเพราะเป็นที่พักรอเวลา

อีกหนึ่งอย่างที่เป็นงานถนัดของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจก็คือ เมื่อเกิดเรื่องเสียหาย สิ่งที่จะกระทบต่อภาพลักษณ์ของตัวเองก็ใช้วิธีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอ้างว่าศึกษา ตรวจสอบ แต่สุดท้ายก็เงียบหายไปกับกาลเวลา มันก็ไม่ต่างกับเรื่องสัญญาขอเวลาอีกไม่นาน กับคืนความสุขให้ประชาชน ที่ผ่านมากว่า 8 ปีประชาชนยังไม่สัมผัสกับความสุขกันได้แม้แต่น้อย เป็นไปอย่างที่หมอพรทิพย์ว่าและก็ไม่ต่างจากที่หลายคนเห็น สิ่งเลวร้ายทั้งหลายที่เกิดขึ้นเวลานี้หรือก่อนหน้าเมื่อผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจตั้งใจจะไปต่อทางการเมืองจึงเงียบต่อสิ่งเหล่านี้

ปัญหาต่าง ๆ จะสะสางได้คงต้องอาศัยเสียงของประชาชนในวันเลือกตั้ง ความเห็นของหมอพรทิพย์ในฐานะที่เป็น ส.ว.ลากตั้งที่ว่าถ้าเราไม่ลุกขึ้นสู้เอง รอดูคนอื่นก็จงอย่าหวังว่าจะมีความเปลี่ยนแปลง น่าพอจะเป็นความหวังว่าการโหวตเลือกนายกฯ ครั้งหน้า 250 เสียง ส.ว.จะฟังเสียงของประชาชนเป็นหลัก ไม่ใช่รับคำสั่งซ้ายหันขวาหันอย่างเดียว แน่นอนว่า ถ้าเป็นมุมนี้หากเพื่อไทยชนะไม่ว่าจะแลนด์สไลด์หรือไม่ก็ตามคงต้องอาศัยมือของพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.เพื่อช่วยการันตีให้ ส.ว.ทั้งหลายได้สบายใจในการเลือกนายกฯ ที่สังคมต้องการ

สำหรับนักเลือกตั้งการขยับเปลี่ยนสีเสื้อจะเกิดขึ้นอีกล็อตใหญ่ในช่วงเวลาอันใกล้นี้ ที่แสดงตัวชัดเจนแล้วคือกลุ่มบ้านใหญ่ชลบุรีที่มี สนธยา คุณปลื้ม กุมบังเหียนย้ายสังกัดไปเพื่อไทยชัวร์พันเปอร์เซ็นต์ และจะตามมาอีกหลายจังหวัด ต้องจับตามองคือการช่วงชิงตัว ส.ส.และว่าที่ผู้สมัครตัวเต็งของพรรคพี่ใหญ่กับน้องเล็ก เห็นการชิงลงพื้นที่ชิงตัดหน้าและทับรอยกันไปมาในหลายจังหวัด คงไม่ต้องเดาว่าจะสาดกระสุนกันขนาดไหน แต่เป็นกระสุนการเมืองที่ไม่เสียเลือดเสียเนื้อ นักการเมืองไม่เสียชีวิตแต่ยังมีชีวิตที่ดีขึ้นด้วย

Back to top button