พาราสาวะถี

ยังคงปาดหน้ากันลงพื้นที่อุตลุดระหว่างพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.กับน้องเล็ก หลังจากที่แยกกันเดินสร้างดาวคนละดวง เรื่องการไปต่างจังหวัดใช้งานเป็นข้ออ้าง แต่แท้จริงเป็นการไปเปิดโต๊ะเจรจา ควานหาตัวผู้สมัคร ส.ส.ที่พอจะเป็นความหวังของพรรคได้ บางรายก็คือ ส.ส.หรืออดีต ส.ส. อดีตผู้สมัครของพรรคอื่น ยื่นหมูยื่นแมวกันสนุกสนาน บทสรุปอยู่ที่ว่าใครจะใจถึงกว่ากัน ส่วนพื้นที่ กทม.งานสำคัญวันหยุดที่ผ่านมาคือตรุษจีน ทุกพรรคต่างมุ่งหน้าไปพบปะพี่น้องคนไทยเชื้อสายจีนที่เยาวราช

สองพี่น้องก็เช่นกัน พี่ใหญ่เลือกที่จะเดินทางไปในช่วงบ่ายในรูปแบบสบาย ๆ กางเกงยีนสวมเสื้อแจ็กเก็ตอันเป็นสัญลักษณ์ของคนที่ใช้ใจบันดาลแรง ท่ามกลางการต้อนรับที่อบอุ่น เป็นกันเอง คงไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะนี่คือนักการเมืองอาชีพ และโดยวิถีชีวิตปกติก็แอบไปหากินอาหารอร่อยแถวนั้นอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว ภาพการปรากฏตัวจึงเป็นไปในรูปแบบผ่อนคลาย ไม่มีพิธีรีตองอะไร ส่วนน้องเล็กที่ไปในช่วงค่ำธรรมดาที่จะถูกห้อมล้อมไปด้วยบอดี้การ์ด บริวารอารักขา ล้อมหน้าล้อมหลัง

กระแสตอบรับถ้าเทียบเคียงกับพี่ใหญ่ต้องบอกว่าเป็นไปคนละทาง ไม่ต้องพูดถึงการลงพื้นที่ของ แพทองธาร ชินวัตร ที่ควงคู่ไปกับ เศรษฐา ทวีสิน หนึ่งวันก่อนหน้าที่สองศรีพี่น้องแก๊ง 3 ป.จะเดินทางไป สองว่าที่แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยมีแต่คนเชียร์อยากให้เข้ามาเปลี่ยนแปลง และทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น หัวอกคนค้าขาย นักธุรกิจในย่านเยาวราชแม้จำนวนไม่น้อยจะเป็นผู้สนับสนุนหลักของม็อบนกหวีด แต่กว่า 8 ปีที่ผ่านมา ตาสว่างกันส่วนใหญ่ว่าอยู่ดีกินดี หรือค้าขายฝืดเคืองกันแน่

แต่จับคู่เอาเฉพาะสองศรีพี่น้อง พี่ใหญ่ไม่มีเรื่องที่ทำให้เป็นประเด็นข่าว พูดง่าย ๆ ไม่มีเสียอาจจะได้เสียด้วยซ้ำ ส่วนน้องเล็กแม้จะมีเสียงตะโกนให้สู้ ๆ แต่ก็มีอีกจำนวนหนึ่งที่ตั้งคำถามทั้ง “ลุงตู่เมื่อไหร่จะลาออก” และ “หลอกลวงประชาชนไหนบอกไม่เล่นการเมือง” สิ่งเหล่านี้มันเป็นภาพสะท้อนของโมฆะบุรุษนับตั้งแต่ทำตามสัญญาขอเวลาอีกไม่นานไม่ได้ จนกลายเป็นเขาอยากอยู่ยาว หนักข้อที่สุดคงเป็นเรื่องคืนความสุขให้ประชาชน ที่จนแล้วจนรอดยังหากันไม่เจอ

ว่ากันว่า ความหนักใจของบรรดากุนซือการเมืองในพรรคใหม่ของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจที่ไม่ได้น้อยไปกว่าการต้องให้คนของพรรคได้รับเลือกเป็น ส.ส.ไม่น้อยกว่า 25 ที่นั่ง คือการสร้างภาพให้ท่านผู้นำเป็นนักการเมืองที่คนเข้าถึงง่าย เป็นเนื้อเดียวกับประชาชนเหมือนที่บรรดาผู้นำพรรคการเมืองอื่น ๆ เขาทำกัน ซึ่งคงเป็นเรื่องที่ยากอย่างยิ่ง เพราะทั้งชีวิตเอาแต่สั่งซ้ายหันขวาหัน เป็นผู้นำประเทศก็ถนัดแต่รวบอำนาจ ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ยอมรับความเห็นต่างไม่ได้

แค่ความเป็นสมาชิกพรรคการเมืองแล้วจะจับใส่ตะกร้าล้างน้ำ หรือความพยายามลอกคราบเผด็จการเหมือนที่อ้างว่าเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ทั้งที่ใช้ 250 เสียง ส.ว.ลากตั้งเป็นด้านหลัก คนส่วนใหญ่ไม่มีใครเชื่อ มันก็เหมือนพวกสินค้าก็อปปี้เกรดเอที่สุดท้ายแค่ลอกเลียนแบบ ราคาถูก แต่คุณภาพต่ำ ความเป็นนักการเมืองอาชีพก็เช่นกัน ไม่ใช่เสแสร้งแกล้งเข้าหาประชาชน หรือยินดีที่มีประชาชนมาตะโกนว่าลุงสู้ ๆ แล้วนั่นหมายถึงว่าคนรักและคนจะเลือกเรา

ทุกอย่างมันต้องผ่านกระบวนการเข้าถึงด้วยใจ ทำด้วยความตั้งใจ บริสุทธิ์ใจ ห่วง รักและใกล้ชิดกับประชาชนอย่างแท้จริง สิ่งที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจพยายามทำมันสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะการที่จะต้องมีชุดติดตาม ดูแลความเรียบร้อยทุกอย่าง จะอ้างว่าเพื่อความปลอดภัยแค่นี้ก็จบแล้วสำหรับคำว่านักการเมือง ท้ายที่สุด มันก็หนีไม่พ้นความเป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่าง แบ่งชั้นวรรณะ ในฐานะที่เคยเป็นนายทหารใหญ่ มันจึงไม่ได้ใจจากประชาชน

การต่อสู้ว่าด้วยการเข้าถึงง่ายนั้น ไม่ได้มีแค่ว่าระหว่างนักการเมือง คนที่จะเป็นผู้นำประเทศกับประชาชนเท่านั้น หากแต่ยังเป็นเกมที่มีการนำมาใช้เพื่อเป็นการดิสเครดิตทางการเมืองของพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ด้วย จากกรณีการลาออกไปร่วมงานพรรคภูมิใจไทยของ วีระกร คำประกอบ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ ที่อ้างว่าพี่ใหญ่เข้าถึงยากต้องแลกบัตรถึง 3 ใบนั้น บรรดากุนซือของพี่ใหญ่ต่างพากันส่ายหัวเป็นแถว โจมตีกันถึงขนาดนี้ทั้งที่ความจริง บรรดาคนใกล้ตัวหรือนายทหารคนสนิทของพี่ใหญ่นั้นไม่เคยกีดกันคนที่จะเข้าพบนายแต่อย่างใด

ผิดกับน้องเล็กที่ใครก็ตามหากจะเข้าพบต้องผ่านกระบวนการขั้นตอนที่ยุ่งยาก เว้นเสียแต่อยากจะเจอแล้วเรียกใช้งานเองเท่านั้น ทุกอย่างจึงจะไม่มีปัญหา ซึ่งถ้ามองไปยังบรรดากุนซือการเมืองที่อยู่รายล้อมรอบตัวผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจแล้ว ก็จะเห็นว่าเป็นประเภทเจ้าขุนมูลนายเหมือนกัน ชอบวางตัวเหนือคนอื่นที่ด้อยกว่า จึงไม่แปลกที่ไปร่วมหอลงโรงกันได้ จุดอ่อนตรงนี้พี่ใหญ่เคยบอกน้องเล็กมาตลอดแต่ก็ไม่ได้รับตอบสนอง นั่นจึงเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้นักการเมืองสายตรงพี่ใหญ่กลายเป็นคู่อาฆาตกับน้องเล็กไปโดยปริยาย

อย่างไรก็ตาม มีประเด็นเล็ดลอดมาจากมูลนิธิป่ารอยต่อฯ แนวทางการเมืองอีกประการที่พี่ใหญ่และทีมกุนซือกำลังขยับเตรียมที่จะประกาศเป็นนโยบายนอกเหนือจากสิ่งที่ถูกมองว่าจะทับซ้อนกับพรรคของน้องเล็กหลายเรื่อง นั่นก็คือ การปฏิรูปประเทศในประเด็นที่เป็นปัญหาให้เห็นผลเป็นรูปธรรม เพราะมองว่าการอ้างเรื่องปฏิรูปประเทศ พร้อมมีแผนยุทธศาสตร์ 20 ปีของน้องเล็กนั้นล้มเหลวโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะทางด้านการเมือง แต่ที่มองข้ามไม่ได้คือเรื่องกระบวนการยุติธรรม

จะเห็นได้ว่าตลอดระยะเวลากว่า 8 ปีที่ผ่านมานั้น การบังคับใช้กฎหมายถูกใช้เป็นเครื่องมือเล่นงานคนเห็นต่างจำนวนมาก ซึ่งพี่ใหญ่เห็นต่างกับน้องเล็กต่อการใช้วิธีแบบนี้มาตลอด มากไปกว่านั้นแนวร่วมสำคัญที่ได้รับผลกระทบนับตั้งแต่เกิดการรัฐประหาร 2557 ก็คือข้าราชการทั้งหลาย ที่ถูกแต่งตั้งโยกย้ายข้ามห้วยข้ามหัวเพื่อความมั่นคงของตัวผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ยังไม่นับรวมพวกที่วิ่งเต้น จ่ายส่วย รับส่วยกันแบบไม่ละอายใจ ถ้าพี่ใหญ่กล้าลุยในเรื่องนี้จริงก็จะถือเป็นการแตกหักกับน้องเล็กขั้นเด็ดขาด