KBANK และ KTB
KBANK แจ้งผลประกอบการงวดไตรมาส 4/65 ออกมาอย่างน่าผิดหวัง ตัวเลขของกสิกรไทยออกช่วงหัวค่ำของวันพฤหัสบดีที่ 19 ม.ค. 66
แบงก์กสิกรไทย (KBANK) แจ้งผลประกอบการงวดไตรมาส 4/65 ออกมาอย่างน่าผิดหวัง
ตัวเลขของกสิกรไทยออกช่วงหัวค่ำของวันพฤหัสบดีที่ 19 ม.ค. 66
กำไรต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ค่อนข้างเยอะ
กสิกรไทย แจ้งกำไรไตรมาส 4/65 เพียง 3,191 ล้านบาท วูบถึง 68% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/64 สาเหตุจากการตั้งสำรองระดับสูง มีการไรท์ออฟ และขายหนี้เอ็นพีแอลออกไปอย่างมาก
ทำให้ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 20 ม.ค. 66 เปิดภาคเช้า ดัชนีดิ่งลงอยู่ในแดนลบทันที
หุ้นในกลุ่มธนาคารต่างถูกเทขายกันออกมา
เพราะต้องการปรับลดความเสี่ยง จากความหวั่นวิตกว่า กำไรของหุ้นแบงก์อื่น ๆ อาจจะต่ำกว่าคาดด้วยเช่นกัน
ส่งผลวันนั้นดัชนี SET ลดลง 11.23 จุด ปิดหลุดแนวรับสำคัญ 1,680 จุด มาอยู่ที่ 1,677.25 จุด
ส่วนหุ้น KBANK ลดลง 9.00 บาท มาอยู่ที่ 144.50 บาท และมีส่วนสำคัญต่อการกดดัชนี
ทว่า หลังจากหุ้นแบงก์อื่น ๆ แจ้งผลประกอบการตามมา
ปรากฏว่า ตัวเลขกำไรกลับไม่ได้ลดลงเช่นเดียวกับกสิกรไทย
BBL หรือ “แบงก์กรุงเทพ” กำไรถือว่าใกล้เคียงกับคาด เงินกองทุนแกร่งขึ้น
“เอสซีบี เอกซ์” หรือ SCB กำไร 7,143 ล้านบาท ลดลง 9.3%
กำไรที่ลดลงมาจาก รายจ่ายพิเศษที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจากการก่อตั้งธุรกิจใหม่ ค่าการตลาด การลงทุน และภาษี ส่วนรายการอื่น ๆ ยังเป็นไปตามคาด
แบงก์กรุงไทย หรือ KTB กลับออกมาโดดเด่นสุดในกลุ่มธนาคาร
กำไร 8,110 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64%
และเป็นการเพิ่มมากสุดในกลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่
ขณะที่เงินกองทุน เช่น CAR อยู่ที่ 19.68% และ Coverage Ratio ที่ระดับ 179.7%
ถือว่าเป็นการ “ยกการ์ด” ที่แข็งแกร่งอย่างมาก
หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL มาอยู่ที่ 3.26% จาก 3.32% ของไตรมาสก่อนหน้า
การรายงานผลกำไรงวดไตรมาส 4/65 ของกรุงไทย
แม้ตัวเลขจะเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้
แต่การที่ราคาหุ้นได้ปรับลงมาจาก 18.30 บาท (6 ม.ค. 66) และมาอยู่ที่ 17.10 บาท เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หรือลดลงมาประมาณ 6.55%
ทำให้เมื่อวานนี้ราคาหุ้นกรุงไทยดีดกลับได้ร้อนแรง
และมีมูลค่าการซื้อขายขึ้นมาติดอันดับ 1 ใน 5 ของหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด
การลดลงของหุ้นกรุงไทยก่อนหน้านี้
เดิมคาดว่าน่าจะมาจากแรงขายทำกำไรมากกว่ามาจากความหวั่นวิตกกำไรจะออกมาไม่ดี
แต่เป็นการคาดการณ์ที่ผิด
นักลงทุนต่างหวั่นตัวเลขกำไรไม่ดีมากกว่า เลยปรับพอร์ตเทขายกันออกมา
ก่อนที่จะเข้ามาไล่ตามเก็บคืนเมื่อวานนี้
ล่าสุด นักวิเคราะห์มีมุมมองชิงบวกกับหุ้นกรุงไทยและต่างยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
ราคาเป้าหมายส่วนใหญ่ให้เกินกว่า 20.00 บาท
ย้อนกลับมาที่กสิกรไทยที่ราคาหุ้นเมื่อวานนี้พลิกกลับมาเป็นบวกได้ หลังจากนักวิเคราะห์ ยังคงแนะนำ “ซื้อ” เพราะประเมินว่า น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และจะเริ่มดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2/66
ราคาหุ้นที่ลงมาต่ำกว่า 150.00 บาทสำหรับกสิกรไทย ถือว่าค่อนข้างถูก
จึงเริ่มเห็นการซื้อกลับ
ส่วนภาพรวมของหุ้นกลุ่มธนาคาร
นักวิเคราะห์ยังแนะนำเข้าทยอยซื้อได้ เพราะมองว่าปีนี้ ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น ซึ่งกลุ่มแบงก์ใหญ่ได้ประโยชน์แน่นอน
ประกอบกับราคาหุ้นที่ลงมาลึกเกินไป
และจะมีการประกาศจ่ายเงินปันผลตามมาอีก