หลบหลัง ‘คนจีน’
อาการ “กลืนไม่เข้า...คายไม่ออก” ของเหล่าบรรดา “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” กับการเข้าไปเอี่ยว “ทุนจีนสีเทา” เมื่อถูกจอมแฉอย่าง “เฮียชู” ออกมากระทุ้ง
อาการ “กลืนไม่เข้า…คายไม่ออก” ของเหล่าบรรดา “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” กับการเข้าไปเอี่ยว “ทุนจีนสีเทา” เมื่อถูกจอมแฉอย่าง “เฮียชู” ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมากระทุ้ง จนเดี๊ยนเองทำไม่เป็นอันนอน ต่อมเผือกสั่นตลอดตามหาตัวย่อที่ เฮียแกเล่นเปิดแบบรายวัน ว่าใครกันหนา..คือบุคคลปริศนาที่ “เฮียชู” เขาเอื้อนเอ่ยนั้นเป็นใครกันแน่
ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก เมื่อมีข่าวว่าบรรดาเจ้าหน้าที่พิเศษ (ใส่ไข่) ทั้งจากตำรวจปฏิบัติการพิเศษ และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้าไปค้นอดีตบ้านพักรับรองของอดีตกงสุลนาอูรู ที่เขาว่ากันว่า ที่นี้มี กลุ่มคนจีน เอี่ยวทุนสีเทา หวังตบทรัพย์ จนเดี๊ยนเองก็นั่งปวดเศียรเวียนเกล้า แทนพี่ ๆ ตำรวจที่เขาทำดี แต่ต้องโดนสังคมเหมาเข่งแบบนี้
แต่เมื่อพูดถึง “คนจีน” แล้วก็ยังมีเรื่องให้ เดี๊ยนได้อิ่มอกเป็นใจ กับตัวเลขนักท่องเที่ยวที่จะมาไทยแบบบึ้มบั้ม หลังทางการจีนไฟเขียวให้ “ทัวร์จีน” ออกนอกแผ่นดินใหญ่ได้ตั้งแต่ 6 ก.พ. นี้ นั้นหมายถึงเม็ดเงินที่กำลังเข้ามาให้บรรดา พ่อค้าแม่ขาย บริษัท ห้างร้านได้กอบโกย ทำให้กูรูต่างประสานว่า ช่วงที่หุ้นบิ๊ก ๆ ในตลาดไปไม่สวย เพราะงบ Q4 ของ KBANK และ SCC ออกมาแบบผิดฟอร์มไปเยอะ ทำให้เหล่ากูรูแอบกระซิบกับ โมนิก้า ว่าช่วงนี้หลบหลัง “คนจีน” ดีนักแล
เมื่อลองส่อง ๆ หุ้น “ท่องเที่ยว” อันที่จริงราคาก็ขึ้นมาแบบดุดันไม่เกรงใจใคร….มาแล้วก่อนหน้า แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีตัวให้เล่น เพราะ โมนิก้า แอบเห็นหุ้นหลาย ๆ ตัวในกลุ่มนี้ ราคาเริ่มชักกระตุกอย่างหุ้น AAV ที่จริง ๆ แล้วน่าจะได้ประโยชน์แบบเต็ม ๆ แต่ราคาก็เหมือนจะวน ๆ เวียน ๆ อยู่ 3.00–3.10 บาท อยู่นานสองนาน เดี๊ยนเลยแอบไปเม้าท์มอยกับวงใน AAV ได้ความมาว่า แม้จะมีข่าวดีว่า “พี่จีน” จะกลับมาเยือนได้แล้ว แต่เอาเข้าจริง ๆ ขั้นตอนการออกจากแผ่นดินใหญ่ก็ยังยุ่งยาก แถมสนามบินที่นั้นก็ร้างราการเปิดใช้งานจากช่วงโควิดมานานหลายปี จะให้เปิดทันทีทันใดแบบ 100% คงไม่ใช่เรื่องง่าย ไหนจะคนทำงานที่แยกย้ายไปตามทางตัวเองช่วงโควิด ไหนจะสนามบินที่ต้องปรับปรุง (ขนาดไทยที่เปิดประเทศมาพักใหญ่ ก็ใช่ว่าจะเพียบพร้อม) นอกจากนี้แล้วเครื่องของ AAV ต้องซ่อมต้องบำรุง กว่าจะกลับมาเต็มสตรีมได้ก็โน้นช่วงไตรมาส 2 เลยเจ้าข้า
แต่หุ้น “กลุ่มการบิน” ที่บรรดากูรูวงการหุ้นแอบบอกกับ โมนิก้า มาว่ายังไปได้ต่อ ยิ่งช่วง “พี่จีน” กลับมายิ่งรับทรัพย์กันแบบเห็น ๆ ไม่จกตา ไม่เป็นสองรองใครนั้นคือหุ้น BA ที่มีทั้ง “เครื่องบิน” และ “สนามบิน” ของตัวเอง ยิ่งสนามบิน “สมุย” เครื่องบินขึ้นลงเป็นว่าเล่น แต่ราคาหุ้นเทรดกันอยู่ที่ P/E 15 เท่าเมื่อเทียบกันหุ้นสายการบินอื่น ๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกว่าทำไมกูรู กระซิบ เพราะราคาที่ปิด 14.20 บาท ยังมีอัพไซด์ที่ไปได้ไกลอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ
หุ้นอีกกลุ่มที่ โมนิก้า อยากเล่าให้ฟังที่น่าจะเป็นหลุมหลบภัยช่วงที่ปู่ SET ผันผวน นั้นคือหุ้น BH ที่ราคา “คัมแบ็ก” รอบใหม่! หลังจากราคาแน่นิ่งปรับฐานอยู่ 2 สัปดาห์ ล่าสุด โมนิก้า แอบเห็นราคาหุ้นเมื่อวันศุกร์ขึ้นมาปิดที่ระดับ 212.00 บาท บวกวันเดียว 4.00 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 951.33 ล้านบาท ถือเป็นการส่งสัญญาณราคาหุ้นจะทะยานต่อในสัปดาห์นี้ บวกกับแรงเชียร์ “เซียนหุ้น” แนะนำหุ้นเด่นกลุ่ม “โรงพยาบาล” พ่วงเป้า “ฟันด์โฟลว์” ซื้อกลับ เพราะแว่วมาว่าผลงานปี 65 กำไรโตแรง 3 เท่าตัว เฉียด 5 พันล้าน โมนิก้า เชื่อว่าราคาหุ้นจะวิ่งกลับไปหายอดเดิมที่บริเวณ 240 บาท อีกครั้งเจ้าค่ะ
อีกหุ้นที่ร่วงหนักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา JMT ที่ราคาลงแรงตามเพื่อน ๆ ในกลุ่ม J จากกระแสงบไตรมาส 4/65 ไม่เป็นดั่งหวัง เริ่มเห็นถึงสัญญาณฟื้นตัวหลัง “กูรู” ออกมาเบรกความแพนิกกันยกใหญ่ เพราะถ้าดูจากพื้นฐานปีนี้และปี 67 ยังมองเห็นถึงการเติบโตสม่ำเสมอที่ระดับ 35% ซึ่งนี่ก็คงเป็นแรงใจสำคัญที่ทำให้ราคาหุ้นฮึดขึ้นมาปิดที่ระดับ 55.50 บาท บวก 1.75 บาท หรือ 3.26% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 884.13 ล้านบาท ในรอบ 9 วันล่ะจ้า
ส่วนในรายของ BWG วันนี้เห็นแรงซื้อเข้ามาตั้งแต่ไก่โห่จรดเย็น ขึ้นมาปิดตลาดที่ระดับ 0.99 บาท บวกไป 0.13 บาท หรือขึ้นไป 15.12% ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 484.45 ล้านบาท สตอรี่ที่เข้ามาเรียกกระแสดึงดูดนักลงทุนในครั้งนี้เดี๊ยนคงไม่ต้องบอกอะไรมาก เพราะเห็นกันอยู่แล้วว่าคงจะหนีไม่พ้นประเด็นผ่านเข้ารอบตัดเชือกร่วมวงชิงเค้กโรงไฟฟ้าทดแทนไปแบบชิว ๆ เดี๊ยนก็ได้แต่หวังว่าชาวขาลุยจะไม่ได้เข้ามาเล่น ๆ แค่ “ฝนห่าเดียว” นะเจ้าคะ
ปิดท้ายมาดูหุ้นสายสปอร์ต WARRIX ที่เพิ่งอายุ 1 เดือนเศษตลาด เอ็ม เอ ไอ แต่ราคาปรับขึ้นแรงไปแล้วกว่า 58% แถมวงการตลาดกีฬาเรียกได้ว่าเป็นรุ่นเก๋าประสบการณ์กว่า 10 ปี ผลิตเสื้อผ้า อุปกรณ์กีฬา แนวหน้าของไทย ภายใต้แบรนด์ “วอริกซ์” ล่าสุดไปฮุบบริษัทขายเสื้อกีฬา อันดับ 2 ในสิงคโปร์ ต่อด้วยซื้อสิทธิ์เครื่องหมายการค้า “Fit Junction” ถือเป็นการเป่าแตรเรียกนักลงทุนมามุงได้สำเร็จ ดันให้ราคาหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ระดับ 9.85 บาท บวกไป 0.55 บาท หรือขึ้นไป 5.91% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 225.76 ล้านบาท