เสียท่า DTAC.!?

ก่อนจะแปลงร่างจาก DTAC ไปเป็นหุ้นใหม่แต่ชื่อเดิม TRUE ผู้ถือหุ้น DTAC ก็ตั้งตารอว่า จะมีเงินขวัญถุงก้อนสุดท้ายติดไม้ติดมือติดกระเป๋าอ๊ะป่าว


ก่อนจะแปลงร่างจากหุ้นบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC ไปเป็นหุ้นใหม่แต่ชื่อเดิม บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ TRUE…ผู้ถือหุ้น DTAC ก็ตั้งตารอว่า จะมีเงินขวัญถุงก้อนสุดท้ายติดไม้ติดมือติดกระเป๋าอ๊ะป่าว..?

รอแล้วรอเล่า…ก็มีจริง ๆ นะเธอ โดยมติบอร์ด DTAC จัดชุดใหญ่ไฟกะพริบ ด้วยการประกาศจ่ายปันผลทิ้งทวนที่สูงลิ่ว 1.22 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 13 ก.พ.นี้ และจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 ก.พ. 2566 ซึ่งเป็นการจ่ายปันผลจากกำไรสะสม

(ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2565 ได้จ่ายปันผลไปรอบหนึ่งแล้ว ในอัตรา 0.85 บาทต่อหุ้น เมื่อรวมกับรอบนี้ จะทำให้ทั้งปี 2565 DTAC มีอัตราการจ่ายปันผลที่สูงถึง 2.07 บาท หรือคิดเป็น Dividend Yield ที่ 4.16%)…

ทำเอาผู้ถือหุ้น DTAC ดีใจกระโดดโลดเต้นไปตาม ๆ กัน…

แต่ช้าแต่…มีคนกลุ่มหนึ่งที่เป็นชนกลุ่มน้อยของ DTAC ซึ่งยกมือไม่สนับสนุนให้ควบรวมกับ TRUE ต้องขายหุ้นรวมทั้งสิ้น 223,067,050 หุ้น ให้กับบริษัท ซิทริน เวนเจอร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด และ Citrine Investment ที่รับซื้อคืนในราคาหุ้นละ 50.50 บาท โดยจะตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นตั้งแต่วันที่  27 ม.ค.-9 ก.พ.นี้

ไฮไลต์อยู่ที่กำหนดการซื้อหุ้นคืนจากชนกลุ่มน้อย กระบวนการจะแล้วเสร็จก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 13 ก.พ. 2566 น่ะสิ…

นั่นจะทำให้คนกลุ่มนี้ พลาดเงินขวัญถุงไปโดยปริยาย..!!

ซึ่งจะด้วยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แต่สุดท้ายคนกลุ่มนี้ก็พลาดท่าจนได้..!? ให้ตายสิพับผ่า…

แหม เสียดายจัง…เฮ้อ เสียดายจัง..!!

เอ๊ะ…หรือนี่จะเป็นการดัดหลังกลุ่มคนที่ไม่ยกมือสนับสนุนดีลควบรวม DTAC กับ TRUE ป๊ะเนี่ย..? ลองไปคิดดูกันเองละกัน

เอาหน่า แม้จะเสียท่าไม่ได้เงินปันผล แต่คนที่ขายหุ้นให้กับบริษัท ซิทริน เวนเจอร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด และ Citrine Investment ก็น่าจะมีส่วนต่างกำไรอยู่บ้างแหละ (ต้นทุนของแต่ละคนน่าจะต่ำกว่าราคารับซื้อหุ้นคือที่ 50.50 บาท)

ส่วนเกมนี้คงไม่ต้องบอกนะว่าใครจะแฮปปี้ที่สุด ถ้าไม่ใช่กลุ่มเทเลเนอร์ ซึ่งปัจจุบันถือหุ้นใหญ่จำนวน 1,106,049,601 หุ้น นั่นเท่ากับว่ารอบนี้จะได้เงินเข้ากระเป๋าไปอีกก้อนราว 1,349 ล้านบาท…ถ้าคิดทั้งปี 2565 กลุ่มเทเลนอร์หอบเงินกลับนอร์เวย์บ้านเกิดไปไม่ต่ำกว่า 2,289 ล้านบาท

ขณะที่เทเลนอร์เข้ามาถือหุ้น DTAC ตั้งแต่ปลายปี 2548 ด้วยเม็ดเงินลงทุนประมาณ 9,000 ล้านบาท

ดังนั้น ถ้าดูจากนโยบายปันผลปีละ 2 ครั้ง เฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 2 บาท…เทเลนอร์ก็น่าจะคืนทุนไปตั้งแต่ 5-6 ปีแรกแล้วล่ะมั้ง ส่วนที่เหลือก็เป็นกำไรเนื้อ ๆ เน้น ๆ แล้วล่ะ…

มิน่าล่ะ แม้เทเลนอร์จะถอนตัวจากประเทศไทยตอนนี้ ก็ไม่ได้เสียหายอะไร..!? เพราะได้ไปคุ้มแล้วนี่เอง

ส่วนถ้าใครจะเถียงว่าเทเลนอร์ไม่ได้ลาขาดจากประเทศไทยนะ เพราะยังถือหุ้นในบริษัทใหม่ TRUE อยู่..!! อันนี้ไม่เถียง…

แต่อย่าลืมว่า อีก 3 ปีข้างหน้า แบรนด์ DTAC กับเทเลนอร์ที่เป็นภาพจำของคนไทย ถึงตอนนั้นน่าจะเหลือแค่ความทรงจำแล้วล่ะมั้ง..!?

…อิ อิ อิ…

Back to top button