เขียวยกแผง

หากดูจากสถิติการขยับตัวขึ้นลงของดัชนีในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมาจะเห็นว่า กรอบล่างที่ดัชนีมักเด้งแรงเป็นประจำอยู่ที่บริเวณ 1,670 จุด


หากดูจากสถิติการขยับตัวขึ้นลงของดัชนีในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมาจะเห็นว่า กรอบล่างที่ดัชนีมักเด้งแรงเป็นประจำอยู่ที่บริเวณ 1,670 จุด ส่วนกรอบบนที่วิ่งไม่ผ่านสักทีอยู่ที่ 1,700 จุด จึงส่งผลให้การเล่นเที่ยวนี้เต็มไปด้วยการเก็งกำไรเป็นหลัก โดยหนึ่งในปัจจัยชี้นำการเคาะขวาก็ยังอยู่ที่ดัชนีดาวโจนส์ เดี๊ยนเลยไม่แปลกใจที่ทุกคนลงความเห็นอย่างพร้อมเพรียงว่า ดูตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นหลักพะย่ะค่ะ

ประเด็นดังกล่าวสอดคล้องกับวันก่อนที่ “โมนิก้า” เกริ่นนำไว้ว่า ตลาดหุ้นไทยยังเป็นภาพเดิม ๆ ที่นักเล่นคุ้นเคยเป็นอย่างดี จึงไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงอะไรมากมายให้เสียเวลา เพราะการที่ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,685.75 จุด บวกไป 14.29 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.37 หมื่นล้านบาท ก็เป็นสัญญาณที่บอกให้รู้ว่า นักเล่นทุกกลุ่มยังอยากลุยสุดซอย และพร้อมกระโจนตามเมื่อมีคนจุดพลุเป็นไม้แรกไงล่ะคะ

เหมือนกับการเด้งกลับของหุ้น CPALL ทั้งที่ทำท่าจะลากลับบ้านเก่า แต่สุดท้ายก็ขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 67.25 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.50 พันล้านบาท กลายเป็นช็อตที่ทำให้รู้ว่า วันนี้มีลุ้นไปต่ออย่างแน่นอน เพราะมีสตอรี่เม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจสะพัดเป็นตัวขับเคลื่อน จึงอนุมานได้ว่า ผลงานไตรมาส 1 น่าจะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจ้า

เช่นเดียวกับหุ้นลีสซิ่งอย่าง SAWAD ก็เป็นอีกรายที่ได้รับอานิสงส์โดยตรงจากกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ผนวกกับราคาหุ้นในกระดานก็ตอบรับข่าวร้ายไปหมดแล้ว ส่งผลให้สถานการณ์ของธุรกิจอยู่ในลู่ทางที่สดใสอีกครั้ง และเรื่องนี้ก็เห็นได้จากราคาหุ้นไต่ระดับขึ้นต่อเนื่อง จนวานนี้พุ่งพรวดขึ้นมาปิดที่ 56 บาท บวกไป 2.75 บาท หรือขึ้นไป 5.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.08 พันล้านบาท และทำให้การไต่ขึ้นไปฐานบน 60 บาทไม่ใช่เรื่องยากเจ้าค่ะ

ส่วนรายที่ชาวหุ้นลงความเห็นตรงกันว่า “ช้อปดีมีคืน” ช่วยดันหุ้นแบบเต็มตัว “โมนิก้า” คงต้องมองไปที่หุ้น COM7 เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้ เพราะเมื่อมองจากเหตุการณ์ครั้งก่อน ๆ จะเห็นว่า โปรโมชั่นนี้ทำให้ราคาหุ้นพุ่งแรงสุด ๆ เดี๊ยนเลยมองว่า การยืนปิดที่ระดับ 33 บาท บวกไป 1.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 697 ล้านบาท น่าจะเป็นเพียงแค่ปฐมฤกษ์นะจะบอกให้

หุ้นอีกรายที่ “โมนิก้า” ชื่นชอบเป็นเวลานาน และยังจะชื่นชอบต่อไปเรื่อย ๆ น่าจะเป็นในรายของ WHA เพราะเห็นกันแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่า ยอดขายที่ดินปีนี้นิวไฮอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นผลมาจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาตั้งโรงงานในไทยเพิ่มขึ้น เดี๊ยนถึงรู้สึกดีใจที่เห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิด 3.88 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 2.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 477 ล้านบาท เพราะมันทำให้รู้ว่า หุ้นมีโอกาสไปต่อสูงนะจ๊ะ

คล้ายกับในรายของเจ้าแม่รถเมล์ BYD ก็มีสตอรี่เกี่ยวกับจำนวนรถเมล์ที่ EA ต้องทำการส่งมอบให้อีกจำนวน 2 พันคัน ผสานกับประเด็น ขสมก. มีแผนที่จะเปลี่ยนรถไม่ต่ำกว่า 3 พันคันมาเป็นรถเมล์ไฟฟ้า “โมนิก้า” เลยเชื่อว่า ปีนี้จะเป็นปีที่ดีสำหรับหุ้นตัวนี้ และการขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 13 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 9.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 408 ล้านบาท ก็เป็นช็อตของการเล่นรอบใหม่นะออเจ้า!

ส่วนดาวรุ่งพุ่งแรงที่ทำผลงานนิวไฮ และปีนี้น่าจะทำผลงานนิวไฮอีกครั้ง “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้นขายหมูขายไก่ราคาย่อมเยาอย่าง TFG แบบไม่ลังเลใจ เพราะสิ่งที่สัมผัสได้ด้วยตนเองก็คือ บริษัทนี้มีการบริหารจัดการต้นทุนอาหารสัตว์ได้ดี และยังบาลานซ์เรื่อง FX ได้อย่างยอดเยี่ยม เดี๊ยนถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 5.70 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 0.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 59 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 8.50 เท่าแบบนี้..มันต้องลุยสุดตัวนะนายจ๋า!

นอกจากนี้ก็อยากให้มองหุ้น “เทิร์นอะราวด์” อย่างน้องดูดี DOD เป็นทางเลือกสำหรับคนที่เชื่อว่า ผลงานปีนี้จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง รวมทั้งมีเรื่องเกี่ยวกับปิดดีลใหม่ และยังมีเรื่องออกสินค้าใหม่เป็นตัวชูโรงแบบนี้ “โมนิก้า” กล้าพูดได้ทันทีว่า การทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 5.45 บาท บวกไป 0.47 บาท หรือขึ้นไป 9.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 96 ล้านบาท มันคือจังหวะของการ follow buy นะตัวเอง

Back to top button