สงคราม ‘เวอร์ชวลแบงก์’

ประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” ออกอาการซู่ซ่าในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา คงเป็นเรื่องข่าวการพบปะเพื่อพูดคุยธุรกิจระหว่าง “ซีพีกรุ๊ป” กับ “แจ็คหม่า”


ประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” ออกอาการซู่ซ่าในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา คงเป็นเรื่องข่าวการพบปะเพื่อพูดคุยธุรกิจระหว่าง “ซีพีกรุ๊ป” กับ “แจ็คหม่า” ซึ่งหลายกระแสพูดไปในทางเดียวกันว่า บิ๊กโปรเจกต์! จึงกลายเป็นเรื่องราวที่ชวนติดตามเป็นอย่างยิ่ง เพราะการขยับตัวของสองผู้เล่นใหญ่ในระดับโลก มันทำให้เวทีธุรกิจของประเทศไทยสั่นสะเทือนอย่างมีนัยสำคัญไงล่ะตัวเอง

โดยเฉพาะเมื่อมีการพูดถึงเรื่อง “ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา” หรือ Virtual Bank” ซึ่งเป็นการให้บริการรูปแบบใหม่ผ่านช่องทางดิจิทัล โดยช่วยลดต้นทุนพนักงาน และสถานที่อย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งยังช่วยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุดมากขึ้น จึงทำให้เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้บริการ “รายย่อย” และ “เอสเอ็มอี” ได้อย่างทั่วถึง เลยทำให้ทุกคนกระโจนเข้าสู่สมรภูมินี้กันมากขึ้นเรื่อย ๆ นะจ๊ะ

ข้อมูลเหล่านี้แหละ..ที่ทำให้ผู้คนมากมายเม้าท์ถึงอีกหนึ่งก้าวย่างสำคัญของ “ซีพีกรุ๊ป” เพราะเมื่อเม้าท์ถึง “แจ็คหม่า” ก็ทำให้ผู้คนนึกถึงแพลตฟอร์มขายของออนไลน์อย่าง “อาลีบาบา” ขึ้นมาทันที! เพราะเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก และเรื่องดังกล่าวก็เชื่อมโยงโดยตรงกับระบบชำระเงินที่ทำให้คนจีนใช้จ่ายเงินทั่วโลกสะดวกขึ้นนะจะบอกให้

สำหรับระบบที่ว่าก็คือ Alipay ซึ่งเป็นระบบชำระเงินออนไลน์ หรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศจีน โดยใช้วิธีเติมเงินเข้า หรือผูกบัตรเครดิตเพื่อใช้จ่าย และทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ โดยสามารถรองรับธุรกิจทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ เพื่อขยายธุรกิจกับกลุ่มลูกค้าชาวจีน โดยใช้งานได้ทั้งในประเทศจีนและในประเทศที่รองรับบริการอาลีเพย์ไงล่ะคะ

สาเหตุที่ต้องเกริ่นเสียยืดยาวเพราะต้องการชี้ให้เห็นพลังผนึกของกลุ่มนี้ไม่ธรรมดา เพราะแค่มองจากฐานลูกค้าของ TRUE ที่มีมากถึง 34 ล้านราย และมองจากร้านสะดวกซื้อเซเว่น CPALL ที่มีมากถึง 13,500 สาขาทั่วประเทศ น่าจะทำให้การเข้าสู่สนามรบ “เวอร์ชวลแบงก์” ไม่ได้ยากลำบากสักเท่าไหร่ และยังเป็นการต่อยอดธุรกิจได้อีกด้วยแบบนี้ จึงกลายเป็นแนวรบใหม่ที่น่าลุ้นสุด ๆ พะย่ะค่ะ

รายถัดมาที่ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงสุด ๆ เพราะเป็นเจ้าแรกที่กรุยทางเพื่อบุก “เวอร์ชวลแบงก์” คงต้องมองไปที่หุ้น JMART ภายใต้การนำทัพของ “พี่ตุ้ม” เพราะเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีระบบนิเวศที่ค่อนข้างใหญ่ และแต่ละทุกหน่วยธุรกิจก็เกี่ยวข้องกับเรื่อง “เงิน ๆ ทอง ๆ” ทั้งนั้น..ไม่ว่าจะเป็นในรายของ JMT J SINGER หรือแม้กระทั่ง JAM ที่กำลังจะสปินจากเจ เอ็ม ที ครอบคลุมถึงพันธมิตรอย่าง BRR สุกี้ตี๋น้อย..และที่เป็นไฮไลท์คือแบงก์ยักษ์ใหญ่ในเกาหลีอย่าง “กุกมิน” ก็เข้ามาซับพอร์ตในเรื่องต่าง ๆ จึงกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการนี้นะออเจ้า

อีกรายที่น่าเกรงขามไม่แพ้กัน “โมนิก้า” คงมองไปที่การจับมือระหว่าง ADVANC กับ KTB เพราะทั้งสองรายถือเป็นผู้เล่นรายใหญ่ของประเทศ และมีฐานลูกค้าในมือค่อนข้างเยอะ ส่งผลให้การขยับตัวเที่ยวนี้น่าสนใจสุด ๆ ในแง่ของการกระตุ้นให้ตลาด “เวอร์ชวลแบงก์” มีการขยับตัวที่เร็วขึ้น และทำให้สมรภูมิแห่งนี้เดือดเป็นไฟอย่างแน่นอน แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเผื่อใจไว้บ้างเล็กน้อยว่า งานนี้ไม่หมู..อิอิอิ

จุดที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ แม้แบงก์หลายแห่งยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการจะเข้าสู่ Virtual Bank” อันเป็นผลมาจาก ธปท.จะออกไลเซนส์ให้แค่เพียง 3 ใบ แต่เมื่อไหร่ที่ทางการเริ่มเปิดกว้างมากขึ้นกว่าเดิม “โมนิก้า” ก็เชื่อได้ทันทีว่า คู่แข่งในสนามแห่งนี้คงไม่ใช่แค่แบงก์เท่านั้น แต่ยังมีคู่แข่งจากธุรกิจต่าง ๆ เข้ามาชิงเค้กก้อนนี้อย่างแน่นอน และอาจทำให้แบงก์บางแห่งหายไปจากสารบบในอีก 10-20 ปีข้างหน้าก็ได้ (ยี่สิบปีที่ผ่านมาแบงก์หลายแห่งก็หายไปเยอะ)..ใครจะไปรู้!

ตบท้ายที่บรรยากาศตลาดหุ้นกันสักหน่อย เพราะอาการดีดตัวขึ้นมาเรื่อย ๆ หลังจากถูกถล่มขายอย่างหนัก “โมนิก้า” มองเป็นภาพที่ทำให้รู้ว่า นักเล่นยังพร้อมลุยไปข้างหน้าเหมือนครั้งก่อน ๆ แต่ครั้งนี้จะฝ่าทะลุด่านหินบริเวณ 1,700 จุดขึ้นไปได้หรือเปล่า? สัปดาห์นี้รู้เรื่องอย่างแน่นอน เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,688.36 จุด บวกไป 5.78 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.86 หมื่นล้านบาท มันทำให้เดี๊ยนรู้สึกมีลุ้นขึ้นมาอีกครั้งน่ะซี

Back to top button