พาราสาวะถี

ทำไมคนอย่างวันชัยถึงได้แสดงท่าทีทางการเมืองที่กลับไปกลับมา พอจะเข้าใจได้ว่าเป็นพวกที่ไม่เอาระบอบอุปโลกน์อย่างระบอบทักษิณ


เป็นการส่งสัญญาณอะไรจาก วันชัย สอนศิริ ส.ว.ลากตั้ง ที่ขู่ว่าถ้าพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์แต่รวมเสียง ส.ส.ไม่ได้เกิน 376 เสียงก็ระวัง ส.ว.จะแลนด์สไลด์กลับ 250 เสียงลากตั้งไม่โหวตให้ แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ประเมินสถานการณ์จากความเป็นจริง ถ้าพรรคนายใหญ่จับมือแน่นกับพรรคการเมืองอื่น เสียง ส.ว.ลากตั้งกับเสียงของพรรคผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจจะได้เกิน 376 เสียงอย่างนั้นหรือ นั่นเป็นคำถามสำคัญประการหนึ่ง

ปุจฉาสำคัญประการต่อมาคือ ถ้ามีพรรคที่ตัดช่องน้อยแต่พอตัวหวังเก้าอี้รัฐมนตรีจากการล่อเหยื่อของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจและลิ่วล้อในขบวนการ มีเสียง ส.ส.ไม่ถึง 250 เสียง แต่ได้เป็นรัฐบาลจากการหนุนของ ส.ว.ลากตั้ง เวลาประชุมสภาผู้แทนราษฎร เอาแค่วันแถลงนโยบายและการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ถ้าถูกฝ่ายค้านโหวตคว่ำผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจก็ตกบัลลังก์ตั้งแต่บัดนั้นแล้ว มีทางเลือกแค่สองทางคือ ลาออกกับยุบสภา

น่าสนใจคือ ทำไมคนอย่างวันชัยถึงได้แสดงท่าทีทางการเมืองที่กลับไปกลับมา พอจะเข้าใจได้ว่าเป็นพวกที่ไม่เอาระบอบอุปโลกน์อย่างระบอบทักษิณ ไม่กินเส้นกับคนตระกูลชินวัตร แต่ถึงกับจะมืดบอดทางการเมืองจนไม่รู้ว่าทิศทาง แนวโน้มของบ้านเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นอย่างไรอย่างนั้นเชียวหรือ หรือว่านี่เป็นการขยับของ ส.ว.ที่อยากอยู่ยาวตามผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ จึงต้องออกมาเคลื่อนไหวเปิดหน้าเพื่อไม่ให้ตกขบวนของการได้ไปต่อ

มีข้อมูลจาก ไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษาของพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ระบุว่า มี ส.ว.กลุ่มหนึ่งต้องการไปต่อขอขยายเวลาของ ส.ว.ลากตั้งออกไปอีก 5 ปี มีการเดินเกมขอให้พี่ใหญ่กับน้องเล็กหันมาจับมือ จูบปากกันเหมือนเดิม โดยชูเงื่อนไขว่าหลังการเลือกตั้งหากพรรคสืบทอดอำนาจได้เสียงมากกว่ารวมไทยสร้างชาติ ก็จะช่วยกันโหวตให้คนที่ใช้ใจบันดาลแรงเป็นนายกฯ คนที่ 30 แต่ถ้าพรรคของน้องเล็กได้มากกว่าก็จะโหวตให้อยู่ยาว

คราวนี้พี่ใหญ่ไม่หลงกลอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากแน่วแน่ต่อแนวทางแยกกันเดินสร้างดาวคนละดวง ไม่เป็นคนแบกเสลี่ยงให้ใครนั่งอีกแล้ว ทุกอย่างจะต้องกำหนดด้วยมือของตัวเองเท่านั้น ไม่เพียงแต่พี่ใหญ่ไม่เล่นด้วย ส.ว.บางส่วนซึ่งเป็นที่รู้กันว่าได้รับการดูแลจากใคร พรรคไหน ก็ชัดเจนจะไม่เป็นเครื่องมือในการสานฝันอยู่ยาวให้ใครอีกต่อไปแล้ว เช่นเดียวกับพี่ใหญ่ที่ถึงเวลาแสดงพลังว่ามีบารมีที่คอยดูแล อุ้มชู ส.ว.จำนวนไม่น้อย

ไม่เพียงเท่านั้น ด้วยแนวทางการเมืองที่ไม่ได้พันธนาการตัวเองไว้กับพวกอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.เตรียมที่จะประกาศนโยบายสำคัญเกี่ยวกับการสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ งานนี้เหมือนเป็นการตบหน้าสั่งสอนน้องเล็กไปในตัว ที่ตลอดระยะเวลากว่า 8 ปีที่ผ่านมานั้น ไม่สามารถทำตามสิ่งที่ตัวเองประกาศตอนยึดอำนาจในนามหัวหน้าเผด็จการ คสช.ได้ โดยนโยบายที่พี่ใหญ่เตรียมประกาศนั้นอาจจะถือเป็นการแตกหักกับขบวนการสืบทอดอำนาจเลยก็ว่าได้

ประการสำคัญปมปิดสวิตช์ ส.ว.ที่ฝ่ายค้านขับเคลื่อนเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ถูก ส.ว.ล้มผ่านองค์ประชุมไม่ครบนั้น หากพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.จับมือกับเพื่อไทยและภูมิใจไทยได้เสียง ส.ส.เกิน 376 เสียงก็ถือเป็นการยุติอำนาจในการร่วมเลือกนายกฯ ของพวกลากตั้งไปโดยปริยาย ต้องไม่ลืมว่า บทบาทที่สำคัญอีกประการของพี่ใหญ่ในฐานะแกนนำสำคัญของรัฐบาลหน้าก็คือ การประสานเสียงของ ส.ว.ในความดูแล ที่จะช่วยให้เสียงโหวตเลือกนายกฯ ของฝ่ายตั้งรัฐบาลสวยสดงดงาม

ทั้งนี้ ความเห็นของวันชัยต่อเรื่องดังกล่าวมันก็ทำให้เกิดความย้อนแย้งในสิ่งที่ตัวเองเคยแสดงความเห็นไว้ก่อนหน้า กรณีที่บอกว่า ณ ปัจจุบัน ส.ว.ไม่มีความเป็นเอกภาพ แต่วันดีคืนดีมาบอกว่าจะเป็นเอกภาพโหวตสวนแลนด์สไลด์ ย่อมไม่ใช่เรื่องปกติ ต้องอย่าลืมว่าคนที่เสนอคำถามพ่วงให้ ส.ว.ลากตั้งมีอำนาจร่วมโหวตเลือกนายกฯ ก็คือวันชัยที่เที่ยวไปคุยฟุ้งจนปรากฏเป็นคลิปโด่งดังมาแล้ว อย่างไรก็ตาม ความเห็นเที่ยวนี้ดูเหมือนว่า ส.ว.จำนวนไม่น้อยไม่ยอมเล่นด้วย

ขนาด กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว.สายฮาร์ดคอร์ที่ไม่เอาการเมืองฝ่ายเลือกตั้ง ยังไม่คล้อยตามความเห็นนี้ถึงกับชี้ว่า เป็นความเห็นวันชัยคนเดียว อย่าเหมารวมเป็นความเห็น ส.ว.ทั้งหมด หลายคนไม่สบายใจกลัวถูกเหมารวมไปด้วย ไม่ต่างกับ “เสธ.อู้” พลเอก เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.ที่มีสายสัมพันธ์กับฝ่ายการเมืองเป็นอย่างดีก็ชี้ว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรเป็นสิทธิของแต่ละคน วันชัยอยากพูดอะไรก็ฟังไป สื่ออยากนำเสนอก็นำเสนอไป แต่ยืนยันว่า ส.ว.คนอื่นยังไม่ได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้

น่าสนใจความเห็นของทั้งเสธ.อู้ และ กิตติศักดิ์มองตรงกันว่า ส.ว.แต่ละคนมีสิทธิในการที่จะโหวตเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรีก็ได้ พูดง่าย ๆ ทุกอย่างไปว่ากันหน้างานหลังเลือกตั้งเรียบร้อย หากเพื่อไทยแลนด์สไลด์จริงคงยากที่ ส.ว.จะไปขวางความต้องการส่วนใหญ่ของประชาชน เหมือนที่กิตติศักดิ์ว่าหากเป็นเช่นนั้นตัวเองก็จะใช้สิทธิงดออกเสียง แค่นี้ก็พอจะเดาได้ว่าถ้าผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจไม่สามารถกวาดเก้าอี้ ส.ส.ได้มากชนิดหายใจรดต้นคอพรรคนายใหญ่ได้ โอกาสพลิกเกมนั้นเป็นไปได้ยาก

แต่ช้าก่อน ปมการต่อรองให้พี่น้อง 2 ป.กลับมารักใคร่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ ส.ว.พร้อมที่จะโหวตให้ใครคนใดคนหนึ่งเป็นนายกฯ นั้น ยืนยันจาก เสรี สุวรรณภานนท์ ที่อ้างว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของ ส.ว.จะโหวตเลือกพี่ใหญ่หรือผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเท่านั้น งานนี้จะมีคนเป็นปลาหมอตายเพราะปากหรือเปล่า การพูดเช่นนี้เท่ากับ ส.ว.เลือกข้าง ต้องมีใครไปยื่นให้ ป.ป.ช.สอบจริยธรรมของ ส.ว.ที่พูดกันแล้ว เพราะเป็นการทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 113 ส.ว.ต้องไม่ฝักใฝ่ หรือยอมตัวอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมืองใด คงลืมไปว่าสองคนที่พูดถึงเวลานี้เป็นสมาชิกพรรคการเมือง และมีบทบาทในพรรคการเมืองอย่างชัดเจน

Back to top button