CRC โตรับเปิดเมือง!
CRC ดำเนินธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลายในประเทศไทย ประเทศอิตาลี และประเทศเวียดนาม
คุณค่าบริษัท
หลังจากมีการเปิดบ้านเปิดเมือง ก็เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างชัดเจนของบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ดำเนินธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลายในประเทศไทย ประเทศอิตาลี และประเทศเวียดนาม ซึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มแฟชั่น เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน กลุ่มฮาร์ดไลน์ เช่น เพาเวอร์บาย ไทวัสดุ และกลุ่มฟู้ด เช่น ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท ดูได้จากงบงวด 9 เดือนแรกปี 2565 ที่มีรายได้รวม 171,098 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3,863 ล้านบาท
โดยในปี 2565 คาดว่าจะมีรายได้เติบโตประมาณ 20% จากปี 2564 ที่มีรายได้รวม 195,653.81 ล้านบาท ได้ตามเป้าหมาย ขณะที่ปี 2566 มั่นใจจะเติบโตต่อ ตั้งเป้าหมายจะมีรายได้รวมอยู่ที่ระดับ 270,000 ล้านบาท เติบโตที่ระดับ 12-15% และตั้งเป้า EBITDA จะเติบโต 18-20% รับปัจจัยบวกจากภาคค้าปลีกและบริการใน 3 ประเทศเริ่มฟื้นตัว
กลยุทธ์ที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตหลักของ CRC จะประกอบด้วย 4 ด้าน ได้แก่ 1.Accelerate Core Leadership การเร่งสร้างการเติบโตของกลุ่มธุรกิจหลักในทั้ง 3 ประเทศ โดยกลุ่มแฟชั่น จะใช้ประโยชน์จากเครือข่ายห้างสรรพสินค้าลักชูรี่ในยุโรปของกลุ่มเซ็นทรัล เพื่อต่อยอดธุรกิจกลุ่มแฟชั่นให้ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า โดยมีแผนจะเปิดห้างสรรพสินค้าโรบินสันอีก 2 สาขา ในช่วงครึ่งหลังของปี 2566
กลุ่มฮาร์ดไลน์ จะเร่งเครื่องขยายสาขาใหม่ของไทวัสดุ และไทวัสดุ ไฮบริด ฟอร์แมท รวมอีก 10 สาขา ในปี 2566 ส่วนกลุ่มอาหาร จะสร้างการเติบโตในเวียดนามอย่างก้าวกระโดด รวมถึงผลักดันแบรนด์ Tops ขึ้นเป็น Food Discovery & Destination และเบอร์ 1 Food Omni Retailer ด้วยการขยายสาขา Tops รวมอีก 15 สาขา ในปี 2566 ด้านกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ จะขยายและปรับปรุงศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ อย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนเปิดเพิ่มอีก 1 สาขา ในปี 2566 นอกจากนี้ในเวียดนามก็มีการก่อสร้างศูนย์การค้า “GO!” สาขาใหม่ ๆ เพื่อเตรียมเปิดอีก 6-8 สาขา ในปี 2567
2.Reinvent Next-Gen Omni Retail ยกระดับ CRC Ecosystem ให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยีและระบบต่าง ๆ ที่ดีที่สุดจากทั่วโลกมาสร้างการเติบโต 3.Build New Growth Pillars ต่อยอดสู่ธุรกิจใหม่ ๆ โดยมีแผนเปิดตัวธุรกิจขนาดใหญ่ เพื่อเสริมทัพธุรกิจในประเทศไทยและเวียดนาม และ 4.Drive Partnership, Acquisition and Spin Off ขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างรวดเร็วผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรและการทำ M&A
นอกจากนี้ CRC ยังได้ประโยชน์จากการนำบริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MEB แพลตฟอร์ม E-Book เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมาอีกด้วย
ด้านบล.ทรีนีตี้ คาด CRC จะประกาศกําไรไตรมาส 4/2565 ที่ 2,492 ล้านบาท โต 10.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 124% จากไตรมาสก่อน โตจากการกลับมาของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวอย่างกรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา รวมถึงการเติบโตของยอดขายจาก Omni channel และไตรมาส 4 เป็นไฮซีซัน
สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น CRC ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 43.29 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 18.30 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงว่าตลาดหลายเท่า สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 4.22 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ส่วนใหญ่ P/BV จะอยู่ที่ระดับ 1.63 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 49.61 บาท จากราคาต่ำสุด 44.50 บาท และราคาสูงสุด 54 บาท