ยุโรปตะวันออกลูบคมตลาดทุน

อาทิตย์ที่ผ่านมาผมเดินทางไปกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออกมา


ธนะชัย ณ นคร

 

อาทิตย์ที่ผ่านมาผมเดินทางไปกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออกมา

นั่นก็คือ สโลวาเกีย ฮังการี และออสเตรีย จากการเชิญของบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC นำโดยคุณระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้บริหารระดับสูง KTC เกือบทั้งทีม

นับเป็นครั้งแรกที่ผมเดินทางไป 3 ประเทศนี้

ก็พยายามเก็บเรื่องราวต่างๆ ที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟัง

การเดินทางใช้บริการสายการบิน Qatar Airways และไปเปลี่ยนเครื่องบินที่สนามบิน Hamad International Airport (HIA) เป็นสนามบินแห่งใหม่ของกาตาร์ เปิดใช้เต็มรูปแบบเมื่อพฤษภาคม 2557

สนามบินมีความทันสมัย และมีขนาดใหญ่มาก

ร้านค้าปลอดภาษี หรือ Duty Free ก็มีเยอะไม่แพ้สุวรรณภูมิ

สังเกตว่านักท่องเที่ยวมาเปลี่ยนเที่ยวบินที่สนามบินแห่งนี้เยอะมาก ทำให้มีสิ่งอำนวยการสะดวกรองรับเป็นอย่างดี ทั้งร้านอาหาร มุมพักผ่อน

แต่ที่น่าสนใจคือ “หวยสนามบิน”

นักท่องเที่ยวคนไหนสนใจก็ซื้อสลากจับรางวัล หรือหวยสนามบิน ลุ้นรางวัลกันตรงนั้น มีทั้งรถยนต์สปอร์ตหรู และเงินรางวัลก้อนโต (เห็นว่าอาจถึง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

บริการคล้ายๆ แบบหลัง หากเป็นประเทศไทยคงทำไม่ได้หรอก

เพราะจะต้องมีคนทำตัวสตอเบอรี่มาขวางไว้

ผมนั่งเครื่องบินของ Qatar Airways มาลงที่กรุงเวียนนา ออสเตรีย สนามบินแห่งนี้ก็เหมือนกับสนามบินในเมืองหลวงทั่วๆ ไป แต่ร้านค้าปลอดภาษีมีไม่เยอะมาก

ส่วนบริการ Wi-Fi ฟรีจัดอยู่ในระดับดี

            หลังออกจากสนามบินก็เดินทางมายังเมืองบราติสลาวา สโลวาเกีย ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง

ที่น่าสนใจคือ เส้นทางที่เชื่อมระหว่างสนามบินเวียนนามายังบราติสลาวา ซึ่งเป็นเส้นทางมอเตอร์เวย์ จะเห็น “กังหันลมผลิตไฟฟ้า” หรือ Windfarm ตั้งอยู่ทั้งสองฟากถนน หรืออาจเกือบตลอดเส้นทาง

ลองประมาณการเอาเอง เฉพาะเส้นทางนี้ น่าจะมีกังหันลมผลิตไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 500 ตัว หรืออาจถึงหลักพันตัวก็ได้

ดูตามหลักภูมิศาสตร์แล้วก็น่าจะเหมาะสม เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบเนินสูง สลับไปมา และไม่มีภูเขาสูงบังลม

ยังมีเรื่องที่น่าสนใจสำหรับถนนเส้นทางนี้อีก

นั่นคือ เขาจะสร้างสะพานเพื่อเอาไว้ให้สัตว์ต่างๆ ข้ามถนนเป็นจุดๆ

เพราะตลอดสองฟากถนน จะมีสัตว์ต่างๆ อาศัยอยู่ เช่น กวาง หมูป่า หรือสัตว์ชนิดอื่นๆ โดยสะพานจะมีขนาดกว้าง 15-20 เมตร และจะปลูกต้นไม้บนสะพาน ดูเหมือนเป็นป่าลอยฟ้า

ส่วนใต้พื้นถนน ก็จะทำท่อไว้ เพื่อให้กบ หรือสัตว์เลื้อยคลานอื่นๆ มุดใต้ถนนไปมาเพื่อสืบพันธุ์ได้

ที่สโลวาเกีย แม้จะเป็นประเทศขนาดเล็ก มีประชากรเพียง 5-6 ล้านคน แต่ก็มีอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เข้ามาลงทุนอยู่หลายแห่ง เช่น เป็นฐานการผลิตรถยนต์ Volkswagen ที่เรารู้จักกันดี

และยังมีธุรกิจของใช้ เช่น Siemens, Plastic Omnium Matsushita, Deutsche Telecom และ Sony เข้าไปลงทุน และสโลวาเกียยังเป็นฐานการผลิตสินค้าราคาถูกสำหรับประเทศในสหภาพยุโรป

ทว่า ประชากรอีกจำนวนหนึ่งก็เลือกที่จะเดินทางราว 45 กิโลเมตร เพื่อไปทำงานที่เวียนนา เพราะค่าแรงดีกว่า

อ้อ…อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญสำหรับคนที่เดินทางมาสโลวาเกีย และต้องการซื้อสินค้าต่างๆ หากเห็นราคาสินค้าที่ติดไว้ใต้สินค้า นั่นเป็นราคาที่ยังไม่รวม VAT นะ

ซื้อสินค้าที่นี่จะต้องบวก VAT ไปอีก 27%

เช่นเดียวกับที่ออสเตรีย และฮังการีครับ ที่จะต้องบวก VAT ไปอีก 20%

ที่สโลวาเกีย และฮังการี แม้จะหลุดจากระบบสังคมนิยมมาแล้วหลายสิบปีมาสู่ค่านิยมแบบตะวันตก

แต่จากการที่สัมผัสกับวิถีชีวิตของพวกเขา ก็ยังคงมี “กลิ่นไอความเป็นคอมมิวนิสต์” อยู่บ้าง หรือคล้ายกับเวียดนาม ที่คนฮานอยจะมีกลิ่นไอความเป็นคอมมิวนิสต์มากกว่าคนโฮจิมินห์

กรุงบูดาเปสต์ (Budapest) ที่ฮังการี กลับเป็นเมืองที่ผมชอบมากกว่าเวียนนา และบราติสลาวา

ระบบการขนส่งมวลชนที่นี่ดีอย่างมากทั้งระบบราง และรถโดยสาร

รถรางไฟฟ้า ก็จะมีทั้งแบบที่เป็นรุ่นเก่า และรุ่นใหม่ คือ หน้าตาเหมือนกับรถไฟฟ้าบ้านเรานี่แหละ แต่มาวิ่งอยู่บนรางที่อยู่บนถนน แบ่งแยกสัดส่วนการวิ่งกับรถยนต์ได้อย่างดี

แต่เมื่อมาถึงแยกที่มีสัญญาณไฟ รถรางก็ต้องรอสัญญาณไปเช่นกัน

อาคารต่างๆ มีความสวยงาม และผังเมืองถูกวางมาดี

การใช้จ่ายที่ฮังการี ใช้ค่าเงินโฟรินท์ (Forint) และมีบางร้านที่รับเป็นเงินยูโร แต่จะคิดค่อนข้างแพงซักหน่อย

ส่วนที่เวียนนา ออสเตรีย ก็เป็นอีกเมืองที่มีระบบขนส่งมวลชนที่ดีมาก

รถรางไฟฟ้ามีอยู่ตามท้องถนนหลายสาย ยังไม่รวมรถไฟลอยฟ้า และรถไฟฟ้าใต้ดินที่เชื่อมโยงกันเป็นอย่างดี

รถไฟฟ้าใต้ดินที่เวียนนา สร้างมาแล้วราวๆ 100 ปี และก็พัฒนามาเรื่อยๆ

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเล่าคร่าวๆ ของ 3 ประเทศยุโรปตะวันออกครับ

Back to top button