น่าขำขัน ‘กูรูหุ้น’ กับเรื่อง corner หุ้น

การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น JMART ช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว จากราคา 43.50 บาท ลงมาต่ำสุดที่ราคา 25.75 บาท


การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว จากราคา 43.50 บาท (13 ม.ค.) ลงมาต่ำสุดที่ราคา 25.75 บาท (17 ก.พ.) ลดลง 17.75 บาท หรือ -40%

ทำให้กูรูอย่างน้อย 2 คน ที่มีตำแหน่งในแวดวงตลาดหุ้น ออกมาฟันธงและพูดถึงลักษณะของหุ้นที่ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงช่วงที่ผ่านมาว่า “เกิดจากสาเหตุของหุ้น corner แตก”

ขออธิบายลักษณะหลัก ๆ ของหุ้น corner คือเป็นหุ้นที่ถูกกลุ่มนักลงทุนดูดซื้อไปจนหมด และเหลือสภาพคล่อง (ฟรีโฟลต) ในตลาดที่น้อย จนนักลงทุนกลุ่มนั้น สามารถกำหนดให้ราคาหุ้นขึ้นหรือลงได้ตามที่ต้องการ

คุณสมบัติของหุ้นที่เข้าข่ายจะถูกทำการ corner ได้คือ ต้องมีสภาพคล่องต่ำ หุ้นกระจายให้นักลงทุนรายย่อย

น้อยกว่าที่ควรจะเป็น

ขณะที่มีข่าวลือแต่ไม่กล้าเอ่ย “ชื่อหุ้น” แต่ทุกคนรู้กันอยู่แล้วว่า คือหุ้น JMART ซึ่งในความเป็นจริงแล้วลักษณะของหุ้น JMART อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตรรกะดังกล่าวที่บอกว่า เป็นหุ้น corner ดังนี้..

หุ้น JMART มีจำนวนผู้ถือรายย่อยจำนวน 14,135 ราย สัดส่วนการถือหุ้นของรายย่อย อยู่ที่ 39.53% ยิ่งดูจากรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับ จะพบกลุ่มตระกูล สุขุมวิทยา ผู้ก่อตั้งถือหุ้นรวมกัน 35.29%

การจะ corner หุ้นแล้วดันราคาขึ้นไปให้กลุ่มผู้ถือหุ้นอีก 65% ที่เหลือ เทขายหุ้นใส่ คงจะเป็นการทำ corner หุ้นที่ไม่ฉลาดและไม่เกิดประโยชน์

เพราะคุณสมบัติหุ้น corner ที่รู้กันอยู่แล้ว แบบไม่ bias คงจะทราบดีกว่าการ corner หุ้น JMART เพื่อลากขึ้นไปขายใส่มหาชนคงจะยาก..

เนื่องจากไม่สามารถกำหนดทิศทางได้ เพราะระหว่างทางที่ดันขึ้นไป จะมีแรงเทขายจากผู้ถือหุ้นรายอื่น ๆ ที่พอใจกับกำไรที่ได้ ทั้งรายใหญ่และรายย่อยเทขายออกมาอีก 65%

ฉะนั้นจึงเป็นไปได้ยากที่มีใคร หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจะมา corner หุ้น JMART ประกอบกับ หุ้น JMART (ก่อนร่วงลงมา) มีมาร์เก็ตแคปประมาณ 70,000-80,000 ล้านบาท

การจะหาเงิน 20,000-30,000 ล้านบาท เอามา corner ยิ่งยากกว่าและไม่สมเหตุผล ที่ต้องเอาเงินมหาศาลมาเสี่ยงกับหุ้นที่มีสภาพคล่องสูงแบบนี้คงจะมีแต่คนที่สติไม่ดีเท่านั้นที่จะเอาเงิน ประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาท มา corner หุ้น JMART

ซึ่งถ้าข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นจริงตั้งแต่แรก

ก็คงเป็นไปได้ว่า “คนเสียสตินั้นแหละที่เป็นคนปล่อยข่าวลือออกมา”

ล่าสุดราคาหุ้น JMART ปิดที่ 29.25 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท หรือ 7.34% มูลค่าซื้อขาย 1,725 ล้านบาท ตามด้วย JMT ปิดที่ 47.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ 3.83% มูลค่าซื้อขาย 1,668 ล้านบาท

ขณะที่ SINGER ปิดที่ 21.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.20 บาท หรือ 24.28% มูลค่าซื้อขาย 3,270 ล้านบาท

น่าจะเป็นบทสรุปที่น่าขันของกูรู..ผู้ฟันธงเรื่อง corner หุ้น..ได้อย่างชัดเจน

ไม่ต้องไปพูดกันให้มาก “เจ็บคอ” กันเปล่า ๆ..จริงป๊ะ

Back to top button