MTC กำไรทรง..สำรองโป่ง.!?
หลังจากหมดโปรโมชั่นพักชำระหนี้ ยืดหนี้ ทั้งหลายแหล่ไปแล้ว ก็นำมาสู่หนี้เสีย หรือ NPL จะงอกเงยแค่ไหน..? ที่แน่ ๆ งบปี 2565 เริ่มเห็นสัญญาณหนี้เสียโป่งพองแล้วล่ะ
หลังจากหมดโปรโมชั่นพักชำระหนี้ ยืดหนี้ ทั้งหลายแหล่ไปแล้ว ก็นำมาสู่หนี้เสีย หรือ NPL จะงอกเงยแค่ไหน..? ที่แน่ ๆ งบปี 2565 เริ่มเห็นสัญญาณหนี้เสียโป่งพองแล้วล่ะ ดูได้จากการตั้งสำรอง ไม่ว่าจะเป็นแบงก์หรือนอนแบงก์ ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ…
รายล่าสุดก็กรณีหุ้นเจ้าพ่อจำนำทะเบียน บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC ของ “เฮียชูชาติ เพ็ชรอำไพ” ที่ในปี 2564 มีการตั้งสำรองหนี้เสีย หรือภาษาทางการเรียกว่า ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอยู่แค่ 748 ล้านบาทเท่านั้น แต่ปี 2565 กระโดดมาเป็น 2,433 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,685 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 225.27%
เฉพาะไตรมาส 4/2565 ไตรมาสเดียว MTC มีการตั้งสำรองและการ write-off หนี้เสียเพิ่มขึ้นเป็น 1,274 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 397% จากช่วงไตรมาส 4/2564 และเพิ่มขึ้น 38.0% จากไตรมาส 3/2565 เลยทีเดียว
ก็สอดคล้องกับตัวเลข NPL ซึ่งเดิมเคยกดให้ต่ำเตี้ยเรี่ยดินไว้ไม่เกิน 1.5-1.7% (นอกจากต่ำกว่าในกลุ่มเดียวกันแล้ว ยังต่ำกว่าแบงก์อีกนะเนี่ย) แต่ ณ สิ้นปี 2565 NPL ของ MTC บวมเป่งอย่างเห็นได้ชัด แตะที่ระดับ 2.91% เพิ่มขึ้นจาก 2.28% ในไตรมาส 3/2565 และ 1.39% ณ สิ้นปี 2564
ดูทรงแล้ว แนวโน้ม NPL น่าจะปูดต่อเนื่องแหง ๆ…บ่งบอกว่า MTC กำลังชดใช้กรรมเก่าป๊ะเนี่ย..!!
ในขณะที่ผู้บริหารนั่งยันนอนยันว่า ยังอยู่ในระดับคาดการณ์และบริหารจัดการได้…ไม่ได้ขี้จุ๊กันนะคะ…
แต่มันสะท้อนว่า นับจากนี้ไป MTC น่าจะหมดโปรฯ โตแรงแซงทางโค้งแล้วน่ะสิ..!!
เอ๊ะ.. MTC จะตกชั้นหุ้น Super Growth แล้วเหรอเนี่ย..?
เพราะถ้าไปดูงบปี 2565 ของ MTC ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5,093 ล้านบาท โตแค่ 3% เท่านั้น เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,945 ล้านบาท
โอเค…แม้ปี 2565 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิยังโตดีที่ 25.4% จากปีก่อน ตามการขยายตัวของสินเชื่อ และรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน หนุนให้รายได้รวมเพิ่มขึ้น 24.2% จากปีก่อน
แต่จากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นมากถึง 15.9% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่าเสื่อมราคาสิทธิการใช้สินทรัพย์ตามมาตรฐานรายงานทางการเงินฉบับที่ 16 และผลตอบแทนพนักงานจากการเร่งรุกขยายสาขาและบุคลากรประจำสาขา บวกกับการตั้งสำรองหนี้เสียที่เพิ่มขึ้นมากถึง 225% ตามการถดถอยของคุณภาพหนี้
เลยทำให้ตัวเลขบรรทัดสุดท้ายไม่ได้เริ่ดหรูอลังการงานสร้างอย่างที่คาดหวัง…
ดังนั้น ถ้าจะบอกว่า MTC ตกอยู่ในสถานการณ์กำไรทรง…แต่สำรองโป่งก็คงไม่ผิดนัก..!!
ขณะที่ตอนนี้นักวิเคราะห์เริ่มเสียงแตก มีมุมมองที่แตกต่างกัน บ้างก็มองว่า MTC ยังเติบโตได้ต่อ แม้จะโตในอัตราที่น้อยลง จึงยังแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมายสูงสุดที่ 55 บาท
ขณะที่บางสำนักแนะนำแค่ “ถือ” เพราะมองว่าการขยายสินเชื่อในอัตราที่สูงเพื่อเพิ่มรายได้ ยิ่งทำให้สัดส่วน D/E ตึงขึ้นไปอีก ส่วนที่มองเลวร้ายสุด ๆ แนะนำให้ “ขาย” ที่ราคา 32 บาท เนื่องจากยังมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น และยังไม่ดีในเร็ววันนั่นเอง
แต่ที่เห็นพ้องตรงกัน ต้องจับตาว่า MTC จะบริหารจัดการคุณภาพหนี้ได้ดีแค่ไหน..? จะสามารถคุมให้อยู่ในเป้าหมายได้หรือไม่..? และจะกดดันการตั้งสำรองให้สูงขึ้นจนส่งผลกระทบทางลบต่อกำไรหรือเปล่า..?
ตรงนี้เป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะกดดันราคาหุ้น MTC ไปอีกนาน…
เอาเป็นว่า ถ้าใครยังเชื่อมั่นต่อ MTC ใคร่จะซื้อก็ซื้อ…ส่วนใครใคร่ขายก็ขาย
นานาจิตตัง…
…อิ อิ อิ…