วัดใจ 1,350 จุด โมนิก้าและทีมงาน
*ในที่สุดวันนี้ก็เป็นวันที่นักเล่นต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่างด้วยตนเองอีกครั้ง หลังดัชนีอ่อนตัวลงมาเรื่อยๆ จนวานนี้ลงมายืนอยู่ที่ 1,357.01จุด ลบไป 2.69 จุด ด้วยมูลค่า 3.35 หมื่นล้านบาท มันคือสถานการณ์ที่ค่อนข้างล่อแหลมในการลงทุน หากดัชนีอ่อนตัวจนหลุดแนวรับ 1,350 จุด ย่อมทำให้ความมั่นใจในการลงทุนหดหายลงไปเป็นกอง และจะทำให้ดัชนีอยู่ในทิศทางขาลงอีกครั้งเจ้าค่ะ
*ในที่สุดวันนี้ก็เป็นวันที่นักเล่นต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่างด้วยตนเองอีกครั้ง หลังดัชนีอ่อนตัวลงมาเรื่อยๆ จนวานนี้ลงมายืนอยู่ที่ 1,357.01จุด ลบไป 2.69 จุด ด้วยมูลค่า 3.35 หมื่นล้านบาท มันคือสถานการณ์ที่ค่อนข้างล่อแหลมในการลงทุน หากดัชนีอ่อนตัวจนหลุดแนวรับ 1,350 จุด ย่อมทำให้ความมั่นใจในการลงทุนหดหายลงไปเป็นกอง และจะทำให้ดัชนีอยู่ในทิศทางขาลงอีกครั้งเจ้าค่ะ
*โดยสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามหลังมาติดๆ คงเป็นเรื่องของการหนีตายจ้าระหวั่น ซึ่งเป็นภาพเดิมๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรที่ผิดปกติ วันนี้ถึงต้องถามตัวนักลงทุนแบบตรงๆ อีกครั้งว่าตั้งอยู่บนความเชื่อเรื่องไหน? หากมองภาพรวมของประเทศแล้วรู้สึกได้ทันทีว่า น่าจะเหนื่อยสุดๆ ก็ชิงหลบเข้าข้างทางก่อน..หากมองภาพรวมของประเทศแล้วรู้สึกได้ทันทีว่า น่าจะฟื้นตัวอย่างช้าๆ ก็ชิงซื้อหุ้นก่อนเลยนะคะ
*วันนี้ถึงอยากให้แฟนคลับเข้าใจเรื่องต่างๆ อย่างเป็นระบบ เพราะสิ่งที่เห็นวันนี้ คือ ความขมุกขมัวยังเกิดขึ้นให้เห็นตลอดเวลา “โมนิก้า” ถึงพยายามแนะนำแมงเม่าปีกอ่อนให้คิดเรื่องต่างๆ ไปทีละขั้น อย่าได้มองข้ามช็อตไปไกลเกินกว่าความเป็นจริง เพราะสิ่งที่เห็นในทุกวันนี้เต็มไปด้วยวิมานเมฆ เดี๊ยนถึงพยายามขัดจังหวะทุกครั้งที่เห็นอะไรไม่ชอบมาพากลนะจะบอกให้
*เหมือนกับแรงซื้อที่เข้ามาตลอดทั้งวัน แต่ไม่สามารถประคองดัชนีปิดบวกได้ “โมนิก้า” ย่อมพุ่งเป้าเรื่องนี้ไปที่นักลงทุนสถาบันไม่ได้ตั้งใจซื้อหุ้น ขณะที่นักลงทุนต่างชาติระดมสาดหุ้นออกมาอย่างหนัก จนยอดขายสุทธิตั้งแต่ต้นปี 58 ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1.22 แสนล้านบาท ทั้งที่ตอนแรกฟันธงไว้ว่า 1 แสนล้านบาทก็หยุดขายแล้ว มันคือเรื่องราวที่บอกให้ทุกคนเตรียมพบกับแรงกระแทกที่จะมีออกมาเป็นระลอกเจ้าค่ะ
*ถ้านึกประเด็นตรงนี้ไม่ออก “โมนิก้า” ขอเทน้ำหนักไปที่พี่เทพ PTTEPหากดูตามหน้าเสื่อของข่าวสารที่เกิดขึ้นจะเห็นว่า หุ้นลงลึกเกินไปจริงๆ เพราะมูลค่ากิจการอยู่สูงถึง 102 บาท แต่ราคาหุ้นในกระดานวานนี้อยู่ที่ระดับ 62.25บาท ลบไป 3 บาท หรือลงไป 4.60% ด้วยมูลค่า 1.50 พันล้านบาท พร้อมกับทำ new lowในรอบเกินกว่า 6 ปี มันเป็นสถานการณ์ที่บังคับให้นักลงทุนต้องคิดว่าจะเอาอย่างไรคะ
*เช่นเดียวกับในรายของ ADVANC ผู้รู้ทุกท่านพูดในมุมเดียวกันว่า บริษัทมีเงินทุนเยอะแยะ และยังมีความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง แต่สุดท้ายช่วยอะไรได้บ้างในยามที่น้ำตาลยังว่าขม “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉยๆ เมื่อเห็นหุ้นดีดตัวขึ้นมาปิดที่ 205 บาท บวกไป 5.50 บาท หรือขึ้นไป 2.80% เพราะภาพใหญ่ของการลงทุนยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญพะยะค่ะ
*ตรงกันข้ามกับในรายของ AOTเพราะรายนี้เป็นทีเด็ดที่ไม่มีทางผิดหวัง แถมตัวเลขกำไรก็โตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ประเทศไทยกำลังมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยในการบิน แต่การท่องเที่ยวของประเทศไทยยังคงคึกคัก มันสะท้อนให้เห็นว่า ในวิกฤติยังมีโอกาสเสมอ ซึ่งทำให้หุ้นตัวนี้เป็นโอกาสของการลงทุนรอบใหม่เต็มๆ ล่าสุดหุ้นปิดที่ 324 บาท บวกไป 13 บาท หรือขึ้นไป 4.20% มันไม่ใช่เหตุบังเอิญอย่างแน่นอน แต่มันคือความตั้งใจซื้อของนักลงทุนสถาบัน หุ้นถึงดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้โดนถล่มอย่างต่อเนื่องไงล่ะจ๊ะ
*ตรงกันข้ามกับหุ้นสายการบินที่เจอตอเข้าอย่างจัง “โมนิก้า” ถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกฝ่าย ถึงทำให้ภาพของธุรกิจสายการบินของไทยมีปัญหาความน่าเชื่อถือ เดี๊ยนถึงอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยกันเขกหัวตัวเองเพื่อเตือนสติตัวเองว่า แก้ไขปัญหาไปถึงไหนแล้ว? เพราะข่าวล่าสุดที่ www.kaohoon.com รายงานแบบสดๆ ร้อนๆ ในช่วง 5 โมงเย็นนั้น..งานเข้าอีกแล้วนะจะบอกให้
*โดยคนที่ได้รับผลกระทบหนักสุดในเที่ยวนี้เขาพุ่งเป้าไปที THAIเพราะเป็นสายการบินที่บินเข้าอเมริกาเยอะสุด ส่วนคนอื่นๆ อย่าคิดว่าจะรอด เพราะหลังจากมีคำสั่งห้ามบินเข้าอเมริกา เขาว่ากันว่า ICAOเตรียมฟันดาบสองอีกทีหนึ่ง และตรงนี้แหละที่ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรู้สึกหนักใจ เพราะยังมีคนจ้องจะฟันดาบที่สาม และดาบที่สี่อยู่อีก จึงทำให้หุ้นสายการบินที่เหลือใช่ว่าจะรอดนะคะ
*ส่วนคนที่รอดอย่างสบายตัว และกำลังไปได้สวยกับชีวิต “โมนิก้า” ขอปรบมือดังๆ ให้กับ ASEFAซึ่งเป็นผลงานการปั้นของ “เฮียแกะ” และทำให้คนในสังคมรู้ว่า การเติบโตอย่างยั่งยืนมันอยู่ที่ผลงานทำได้ตามที่เม้าท์ไว้ไหม? หากทำได้ตามคอมมิดเม้น ราคาหุ้นจะถีบตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหมือนเช่นวานนี้ที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 6.05บาท บวกไป 0.40บาท หรือขึ้นไป 7% มันคือผลสะท้อนจากการทำงานหนักของ “เฮียไพบูลย์”..อยากรู้ว่า เฮียแจ๋วขนาดไหน..เดี๋ยวเดี๊ยนไปคิวสัมภาษณ์สองต่อสองก่อนเจ้าค่ะ
*ไหนๆ เม้าถึงผลงานชิ้นโบว์แดงขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ของเม้าท์ถึง TACCซึ่งเป็นอีกหนึ่งน้องใหม่ที่ถูกส่งเข้าประกวดจาก บล.ฟินันเซียฯ ส่วนจะดีขนาดไหน? วันนี้ได้เห็นเต็มสองลูกตาแน่นอน..ไม่เชื่อถามเฮียดูก็ได้นะคะ