ฝรั่งทุบจนเดี้ยง
เมื่อวันก่อน “โมนิก้า” ได้เกริ่นนำเรื่องแรงขายฝรั่งไปพอ “หอมปากหอมคอ” วันนี้เลยขอจัดเต็มเพื่อชี้ให้เห็นการทรุดตัวของดัชนีในช่วงเดือน ก.พ.
เมื่อวันก่อน “โมนิก้า” ได้เกริ่นนำเรื่องแรงขายฝรั่งไปพอ “หอมปากหอมคอ” วันนี้เลยขอจัดเต็มเพื่อชี้ให้เห็นการทรุดตัวของดัชนีในช่วงเดือน ก.พ. มันมีสาเหตุมาจากฝรั่งทุบเป็นประเด็นสำคัญ จึงทำให้ดัชนีร่วงจากระดับ 1,693 จุดลงมาเรื่อย ๆ จนลงไปทำจุดต่ำสุดที่บริเวณ 1,618 จุด ก่อนจะเด้งกลับเบา ๆ ระหว่างวัน แต่ท้ายสุดยืนปิดที่ระดับ 1,619.98 จุด ลบไป 2.37 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.91 หมื่นล้านบาท..ไม่ได้ทำให้น้องโมรู้สึกสบายใจเลยนะคะ
เนื่องจากในเดือนที่ผ่านมาฝรั่งสาดหุ้นออกมามากถึง 4.35 หมื่นล้าน ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากอักโขเมื่อเทียบกับเดือน ม.ค. ที่เดินหน้าเก็บหุ้นเข้าพอร์ต 1.84 หมื่นล้าน แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือ เมื่อย้อนกลับไปดูยอดซื้อสุทธิในปี 65 ที่มีทั้งสิ้น 2 แสนล้าน จึงเป็นภาพที่ทำให้รู้ว่า ฝรั่งยังมีของที่จะขนมาขายอีกเพียบ และทำให้เดี๊ยนหวั่นใจแนวรับจิตวิทยา 1,600 จุดอาจเอาไม่อยู่เจ้าค่ะ
งานนี้บอกได้เลยว่า ยากที่จะเห็นดัชนีจะบวกสวนยาว ๆ เพราะเมื่อดูตัวเลขชอร์ตเซลในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาจะเห็นว่า บลูชิพโดนกันถ้วนหน้าชนิดที่หมอไม่รับเย็บ ซึ่งเป็นการย้ำหัวหมุดมุมมองของฝรั่งหัวทองยังเป็นด้านลบ และวิธีที่จะโกยเงินในช่วงตลาดหุ้นไซด์เวย์ดาวน์ก็ต้องเน้นไปที่การชอร์ตนี่แหละ! เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นเข้าใจสถานการณ์ของหุ้นหลายตัวที่เกิดขึ้นพะย่ะค่ะ
โดยเฉพาะในรายของเจ้าพ่อสะดวกซื้อ CPALL กลายเป็นเป้าหมายหลักของการชอร์ตเซลแบบเต็มตัว เพราะเมื่อเหลือบดูมูลค่าที่โดนชอร์ตปาเข้าไปพันล้าน “โมนิก้า” มองจากมุมไหน ด้านไหน ก็ไม่เห็นทางที่จะขึ้นได้ในเร็ววัน แถมเจอภาวะการลงทุนที่ซวนเซกดดันอีกดอก จึงทำให้หุ้นยืนซึมกระทือที่ระดับ 61 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 1.61% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.40 พันล้านบาทแบบซังกะตายไงล่ะคะ
เช่นเดียวกับสถานการณ์ของ KBANK ก็โดนพวกฝรั่งหัวทองชำเราอย่างต่อเนื่อง จนราคาหุ้นหาทางกลับบ้านไม่เจอแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องทำใจตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะเมื่อดูจำนวนเม็ดเงินที่ชอร์ตหุ้นมีมากถึงแปดร้อยล้าน มันเป็นจังหวะที่ทำได้แค่การยืนเกาะขอบเวทีเพื่อดูลาดเลา และไม่ควรกระโดดเข้าไปตะลุมบอนกันคนอื่น เพราะการยืนปิดที่ระดับ 136.50 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 0.36% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.40 พันล้นบาท อาจไม่ใช่ราคาต่ำสุดน่ะซี
ส่วนรายที่มีอาการหนักสุดต้องมองไปที่ IVL เพราะผลงานที่สวยหรูไม่อาจต้านทานแรงชอร์ตมหาศาล จึงทำให้ราคาหุ้นไหลลงมาเรื่อย ๆ จนล่าสุดหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 36.50 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 0.68% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 408 ล้านบาทมันเป็นภาพที่น่าสะพรึงสำหรับคนที่ได้เห็นทิศทางการเคลื่อนตัวที่โค้งลงเรื่อย ๆ เพราะมันหมายความว่า จุดเด้งครั้งก่อนที่บริเวณ 37 บาทอาจเอาไม่อยู่นะจ๊ะ
รายถัดมาที่ไม่น่าเชื่อว่าจะโดนกับเขาด้วยแบบเต็มข้อ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น GULF เป็นรายถัดมา เพราะลักษณะทิ้งตัวลงมา พร้อมกับเกิดอาการซึม ๆ และมียอดชอร์ตเซลเกือบสี่ร้อยล้าน มันทำให้การเด้งกลับกลายเป็นเรื่องลำบากในภาวะเช่นนี้ และเกรงว่า หุ้นอาจอ่อนตัวลงอีกจากแรงชอร์ตหุ้นที่ยังค้างท่อ จึงอยากให้แฟนคลับประเมินว่า การยืนปิดที่ระดับ 51.25 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 2.38% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 552 ล้านบาท ควรออกท่าไหนสวยสุดจ้า!
สำหรับรายที่เห็นได้ชัดว่า โดนผลกระทบจากการชอร์ตหุ้นแบบเต็ม ๆ “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ส่องกล้องมองดูที่น้องแบม BAM อย่าให้คลาดสายตาเป็นอันขาด เพราะการร่วงหล่นเที่ยวนี้ออกไปในทาง “นกปีกหัก” เลยทำให้การยืนปิดที่ระดับ 14.60 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 1.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 182 ล้านบาท อาจยังไม่ถึงก้นเหวของเที่ยวนี้ก็เป็นไปได้ เลยต้องติดตามดูตอนต่อไปนะออเจ้า
ตบท้ายกันที่หุ้น “ท่าดี ทีเหลว” อย่างกระต๊าก STARK กันสักหน่อย! เพราะทำไปทำมา..ส่งงบไม่ทัน จึงต้องโดนแขวน SP ให้ชาวหุ้นได้รู้ และทำให้ชื่อของพี่ “โอ๋” กับ “เอ” ดังกระฉ่อนอีกครั้งแบบนี้ มันเป็นภาพที่ไม่โสภาเอาเสียเลยสำหรับหุ้นที่ถูกสังคมตั้งคำถามบ่อย ๆ เพราะวันนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นกลาย ๆ ว่า ดีลก็ล้มไม่เป็นท่า และงบก็ปิดไม่ได้ แล้วแมวที่ไหนจะเชื่อน้ำลายของคุณพี่อีกล่ะคะ..อิอิอิ