พาราสาวะถี

อย่าได้แปลกใจหากจะได้เห็นมติที่ประชุม ครม.ที่ทำหน้าที่รักษาการอนุมัติสารพัดเรื่อง โดยเฉพาะปมการเพิ่มค่าตอบแทนต่าง ๆ


อย่าได้แปลกใจหากจะได้เห็นมติที่ประชุม ครม.ที่ทำหน้าที่รักษาการอนุมัติสารพัดเรื่อง โดยเฉพาะปมการเพิ่มค่าตอบแทนต่าง ๆ หรือโครงการที่จะแจกให้กับประชาชน ไม่ต้องมองว่าเป็นการหวังผลทางการเมืองช่วงเลือกตั้ง เพราะนี่ไม่ใช่สิ่งผิดปกติ ไม่ว่ารัฐบาลไหนก็ทำแบบนี้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าพวกที่คาดหวังจะเห็นความเปลี่ยนแปลงจากรัฐบาลของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจที่อ้างว่าเข้ามาเพื่อการปฏิรูปนั้น ต้องเลิกหลอกตัวเองได้แล้ว มันไม่มีอยู่จริง ยิ่งทางการเมืองนอกจากไม่เปลี่ยนไปจากเดิมหลายเรื่องยังแย่กว่าเดิมเสียด้วยซ้ำไป

การย้ายพรรคของนักเลือกตั้งที่ในยุคของระบอบทักษิณที่อุปโลกน์มาหลอกพวกอนุรักษ์นิยมสุดโต่งนั้น มีการกล่าวหาว่าเป็นพวกขายตัว ไร้อุดมการณ์ ใครที่ย้ายสังกัดกลายเป็นคนชั่วในบัดดล จะถูกตราหน้าว่าถูกทุนนิยมสามานย์ซื้อตัว แต่กับการเมืองที่ผ่านกระบวนการปฏิรูปกำมะลอ ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งปี 2562 ที่มีการใช้พลังดูดมหาศาล สารพัดวิธี เพื่อให้ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจอยู่ยาว กลับไม่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าการกระทำแบบนี้เป็นสิ่งชั่วช้าเลวทราม

มิหนำซ้ำ หลังจากที่มีการตั้งรัฐบาลเพื่อการสืบทอดอำนาจได้ เพื่อเสถียรภาพก็มีการแจกกล้วยกันอุตลุด มีทั้งพวกที่ย้ายคอกถาวร พวกฝากเลี้ยง พวกดูแลกันเป็นครั้งคราว พวกอนุรักษ์นิยมสุดโต่งที่โจมตีระบอบทักษิณ กล่าวหาเรื่องทุนสามานย์ทั้งหลายกลับนิ่งเงียบ จนใกล้จะเลือกตั้งอีกหน พลังดูด กลยุทธ์ในการสร้างพรรคให้โตเร็ว ก็ยังคงใช้วิธีการโสมม ตกปลาในบ่อเพื่อน สาดกระสุนกันอย่างบ้าระห่ำ ที่น่าจะทำให้พวกถือหางยกหางขบวนการสืบทอดอำนาจเกิดอาการน้ำท่วมปาก คงเป็นเรื่องการกวาดต้อนพวกเดียวกันเองแบบไม่เกรงใจความเป็นเพื่อนร่วมขั้วการเมืองกันแม้แต่น้อย

ที่หนักหนาสาหัสกว่าใครคงหนีไม่พ้นพรรคประชาธิปัตย์ กลายเป็นว่าไม่ใช่เพียงแค่การถูกดูดจนไม่เหลือคนที่อ้างว่ายึดมั่นในอุดมการณ์ การเปลี่ยนสีเสื้อของคนบางคน บางกลุ่ม ยังไปพูดจาปราศรัยย้อนกลับมาทำร้ายทำลายพรรคที่ตัวเองเคยสังกัดอีกต่างหาก น่าแปลกใจไหนว่าเชื่อมั่นในระบบ ยืนหยัดในระบอบประชาธิปไตย แต่สุดท้ายก็ถูกพวกอนุรักษ์นิยมสุดโต่งจับไปล้างสมองจนลืมบุญคุณที่อดีตพรรคซึ่งเคยสังกัดได้ตอบแทนทางการเมืองกันบ้าง

ทั้งหมดคงโทษใครไม่ได้ มันมีจุดเริ่มจากการไม่ยอมเดินตามครรลองของระบอบ เมื่อชอบที่จะเล่นบทเป็นพวกอีแอบ สุมหัว สมคบกับพวกจ้องจะล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง โดยหวังว่าจะทำให้พรรคของตัวเองได้กลับมายืนบนถนนสายการเมืองในฐานะผู้ชนะอีกครั้ง ทุกอย่างมันจึงเข้ารกเข้าพง ใครจะเชื่อว่าจากพรรคที่เคยไล่เบียดไล่จี้กับเพื่อไทยมาโดยตลอด แม้จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ทุกครั้ง แต่ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นพรรคใหญ่ วันนี้กลายเป็นพรรคขนาดกลาง และอนาคตอันใกล้น่าจะเป็นเพียงแค่พรรคการเมืองขนาดกลางค่อนไปในทางเล็กพรรคหนึ่งเท่านั้น

จากเดิมที่เคยรวมหัวเพื่อล้มระบอบอุปโลกน์ทักษิณ วันนี้เหมือนกงเกวียนกำเกวียน ทุกอย่างกลับมาสาดซัดใส่พรรคเก่าแก่ จนไม่รู้จะแก้เกมกันยังไง ล่าสุด กรณี ชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช ไปขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีคู่แข่งด้วยการด้อยค่ามหาวิทยาลัยทักษิณ ก็กำลังกลายเป็นคมหอกสำคัญย้อนกลับมาทำลายพรรคของตัวเองอย่างคาดไม่ถึง แม้ว่าพรรคจะต้องสวมบทโหดด้วยการเชือดคนที่พูดไม่ให้ลงสมัคร แต่ไม่มีใครกล้าการันตีได้ว่า คะแนนนิยมที่เสียไปจากเหตุการณ์นี้จะคืนกลับมาได้หรือไม่

ยิ่งการแข่งขันในพื้นที่มีสูง ความเข้มข้นของการชิงชัยจะดุเดือด การเปิดจุดอ่อน มีแผลให้คู่แข่งใช้ขยี้ ย่อมไม่เป็นผลดี ขณะเดียวกันก็จะเป็นโอกาสของฝ่ายตรงข้ามที่จะได้ใช้จังหวะนี้เดินหน้าเรียกคะแนนนิยม พรรคที่ได้รับอานิสงส์ไปเต็ม ๆ คงหนีไม่พ้นรวมไทยสร้างชาติของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ หลังออกจากโรงพยาบาลแล้ว มีคิวที่จะเดินทางไปจังหวัดสงขลาในวันที่ 11 มีนาคมนี้ทันที เลื่อนจากเดิมคือ 9 มีนาคม การแสดงความใจสู้ไปพบปะฐานเสียงสำคัญในยามนี้ ย่อมได้รับคะแนนสงสารมหาศาล ถ้ายังยืนระยะโดยไม่สะดุดขาตัวเองการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นคนของพรรคเก่าแก่ย่อมหืดขึ้นคออย่างแน่นอน

มาถึงเวลานี้ดูเหมือนว่าทีมกุนซือของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจไม่ได้มองว่าคู่แข่งที่น่ากลัวในสนามเลือกตั้งภาคใต้และ กทม.เป็นประชาธิปัตย์อีกแล้ว ที่ต้องสู้รบปรบมืออย่างแข็งขันคือพรรคสืบทอดอำนาจ ภูมิใจไทยที่ยังอยู่ในซีกเดียวกัน และพรรคฝ่ายค้านที่ถือว่าเป็นสายแข็งกันทุกพรรค ไม่เว้นแม้แต่พรรคเล็กอย่าง ประชาชาติ หรือเสรีรวมไทย ที่เจอปัญหาถ้าถึงวันเลือกตั้งแล้วยังไม่วินิจฉัยคือ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย

การไม่มีหัวโขนรัฐมนตรีไปลงสนามเลือกตั้งเท่ากับเป็นการกระโจนเข้าสู่ลานประลองแบบไม่มีตัวช่วย จากที่เคยลงพื้นที่ตรวจราชการถี่ยิบ มีผู้ติดสอยห้อยตามเป็นโขยง แม้จะไม่ได้ถูกตัดสินว่าผิดและต้องพ้นสภาพ แต่การปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ มันก็เหมือนการถูกตัดแขนตัดขาไปโดยปริยาย ลำพัง อนุทิน ชาญวีรกูล ที่ใช้แนวรบจากกระทรวงสาธารณสุขสร้างแนวร่วมผ่าน อสม.และบุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข ก็หวังผลอะไรได้ยาก มีพวกเชลียร์เพื่อหวังผลก้าวหน้าและผลตอบแทนอื่น ก็มีพวกที่ได้รับผลกระทบ และพวกที่เลือกข้างไปแล้วจำนวนไม่น้อยเช่นกัน

ความท้าทายของพรรคเสี่ยหนูหากต้องเข้าสู่สนามเลือกตั้งโดยแม่บ้านพรรคไร้หัวโขนรัฐมนตรีก็คือ ตัวเลข ส.ส.ที่ประเมินและปรับกันแล้วหลายรอบด้วยความหวังอันเรืองรองว่าจะพุ่งสูงถึงขั้นเป็นระดับแกนนำตั้งรัฐบาลได้นั้น ยังเหมือนเดิมหรือไม่ แคนดิเดตนายกฯ ที่มุ่งมั่นตั้งใจว่าจะไม่กลับคำไปอุ้มสมผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจให้อยู่ยาวอีกต่อไปนั้น ยังยืนยันมั่นเหมาะเหมือนเดิมหรือเปล่า หลัง กกต.แบ่งเขตเรียบร้อย และมีการประกาศยุบสภา น่าจะได้เห็นท่าทีที่ชัดเจนของอนุทินและพลพรรคภูมิใจไทยว่ายังคงฮึกเหิมมั่นใจเหมือนที่เป็นมาตลอดอีกไหม

Back to top button