SNNP ออลไทม์ไฮต่อเนื่อง!

ทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง สำหรับผลการดำเนินงานปี 65 ของ SNNP ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยวแบรนด์ “เจเล่” และ “เบนโตะ”


คุณค่าบริษัท

ทำสถิติสูงสุดใหม่ (ออลไทม์ไฮ) อีกครั้ง สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2565 ของบริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว ภายใต้แบรนด์ “เจเล่” และ “เบนโตะ” โดยโชว์กำไรสุทธิ 512 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.4% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิ 421.7 ล้านบาท และมีรายได้รวม 5,604 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีรายได้รวม 4,519.8 ล้านบาท

สาเหตุมาจากรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ของบริษัททั้งในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 5,556.1 ล้านบาท หรือโต 27.5% จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และการปรับโฉมใหม่ของสินค้าของบริษัท ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ส่งผลให้รายได้เติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประกอบกับการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ

ทว่าเห็นงบปี 2565 เติบโตโดดเด่นแล้ว คาดว่าปี 2566 จะเติบโตมากยิ่งขึ้น โดยคาดรายได้จากการขายจะยังคงเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก มีปัจจัยหนุนจาก 1) ความสามารถในการทำกำไรจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการปรับขนาดของสินค้า เพื่อเพิ่มมาร์จิ้นประมาณ 7-8% เป็นอย่างน้อย

2) การกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน จะทำให้การบริโภคในประเทศกลับมาเติบโต

3) การขยายตลาดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม ซึ่งในปี 2564 รายได้จากการขายอยู่ที่กว่า 300 ล้านบาท ส่วนในปี 2565 รายได้จากการขายอยู่ที่ระดับ 600 ล้านบาท เติบโตเท่าตัว และในปี 2566 วางเป้าหมายรายได้จากการขายจะแตะ 1,000 ล้านบาท

และ 4) กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น จากการเริ่มเดินเครื่องผลิตโรงงานใหม่

ด้านนักวิเคราะห์ ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อ SNNP โดย บล.ดาโอ คงประมาณการกำไรปกติปี 2565 ที่ 722 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% จากปีก่อน และปี 2567 มองว่าเป็นปีทองของ SNNP คาดกำไรปกติที่ 914 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากปีก่อน จาก 1) รายได้รวมโต 15% จากปีก่อน จากรายได้ต่างประเทศโต 21% จากการรับรู้รายได้จากโรงงานเวียดนามทั้ง 3 เฟสเต็มปี และในประเทศโต 12% และ 2) อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ขยายตัวต่อเนื่อง

บล.ทิสโก้ คาดแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 1/2566 กำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศจากสถานการณ์โควิดผ่อนคลาย การท่องเที่ยวฟื้นตัว โดยบริษัทมียอดขายจากนักท่องเที่ยวกลับมาแล้ว 70% ของยอดขายนักท่องเที่ยว (ประมาณ 5% ของยอดขายรวม) และการพัฒนาออกสินค้าใหม่ต่อเนื่อง รวมถึงการขยายช่องทางจำหน่าย ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2565-2566 เพิ่มขึ้นจากคาดเดิม 6% และ 3% ตามลำดับ โดยคาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 27% (CAGR3Y)

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น SNNP ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 44.86 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 19.30 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาดหลายเท่า สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 7.59 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ส่วนใหญ่ P/BV จะอยู่ที่ระดับ 1.60 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 27.79 บาท จากราคาต่ำสุด 23.00 บาท และราคาสูงสุด 30.00 บาท

Back to top button