สังคมข่าวหุ้นนิวส์เวฟ

หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจรายวันกระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของประเทศ ฉบับประจำวันพฤหัสบดี 3 ธ.ค. 2558 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายอยู่ที่ 1,339.45 จุด ปรับลดลง 17.56 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายเฉียด 3.7 หมื่นล้านบาท


ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายอยู่ที่ 1,339.45 จุด ปรับลดลง 17.56 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายเฉียด 3.7 หมื่นล้านบาท

* ขาเทขายสุทธิทางบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ รับบทโหดสุดสาดออกรวม 1,763 ล้านบาท ตามด้วยสถาบันขายออก 500 ล้านบาท

* ส่วนขาเข้าซื้อสุทธิ “รายย่อย” รับบทป๋าไม่เปลี่ยน เดินหน้าช้อนรับทุกสถานการณ์ เข้าเก็บสุทธิไป 2,245 ล้านบาท ตามด้วยต่างชาติที่เก็บเล็กน้อย 18 ล้านบาท แหม เดี๋ยวนี้ชักดูไม่ค่อยออกแล้วว่า ขาใหญ่ตลาดคือใครกันแน่

* ภาพรวมตลาดยิ่งใกล้ท้ายปียิ่งระทมหุ้นใหญ่ทั้งหลายถูกกดดันทำราคาขยับไม่ได้ เมื่อบลูชิพไม่วิ่งโอกาสที่ดัชนี SET จะเพิ่มขึ้นคงไม่มีทางเช่นกัน

* ที่ผ่านมา “นิวส์เวฟ” ถึงพยายามแนะนำให้โฟกัสหุ้นแบบรายตัว เลือกเอาเฉพาะบริษัทที่มีข่าวบวกหนุนนำหุ้นจริงๆ เพราะถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยปั๊มราคาและปกป้องหุ้นได้ เวลาเผชิญกับภาวะตลาดขาลง

* โดยขอย้ำอีกอย่างหุ้นไหนที่งบปี 58 ชัดเจนแล้วว่า ชะลอตัวหนักให้เลี่ยงไปก่อนเลย เมื่อข่าวดีไม่มีอยู่แล้วเมื่อเจอปัจจัยลบซ้ำเข้าไปจะแย่หนักเข้าไปอีก

* เริ่มกันด้วยหุ้นแรก TRC ล่าสุด ถอยมาซื้อขายกับในระดับต่ำ 2 บาท โอ้โห ต่ำเวอร์ไม่เกรงใจพื้นฐานกันเลยนะ

* งบไตรมาส 4 งวดส่งท้ายโบรกฯ พาเหรดการันตีไว้ว่า จะได้เห็นภาพการฟื้นตัวขึ้นทั้งแบบเทียบรายไตรมาสหรือรายปี 

* สาเหตุหลักมาจากการบันทึกรายได้งานที่มีอยู่ในมือเพียบและยังเป็นงานมาร์จิ้นดีเสียด้วย * ดังนั้น เมื่องวดส่งท้ายออกมาดี งบรวมปี 58 ของ TRC  จะยังคงเติบโตขึ้นจากปี 57 ต่อไปได้

* จากนั้น TRC จะไปทำกำไรเพิ่มแบบก้าวกระโดดในงวดปี 59 เท่ากับสตอรี่หนุนหุ้นทั้งในระยะสั้นและระยะยาวมีพร้อมครบถ้วน จึงขอฝากไว้ให้พิจารณา

* ต่อกันด้วยหุ้น THCOM ยังเป็นอีกหนึ่งตัวโปรดที่เหมาะกับนักลงทุนระยะกลาง-ยาวเป็นอย่างดี ปัจจุบันซื้อขายกันด้วย P/E แค่ประมาณ 15 เท่า

* โดยทันทีที่จบงบปี 58 ซึ่งมีลุ้นทำกำไรทั้งปีโตเฉียด 2,000 ล้านบาท จะยิ่งฉุดให้ P/E ของหุ้นถอยลงเข้าไปอีก

* แถมช่วงที่ผ่านทางบริษัทยังได้ออกมาสยบปัจจัยลบกันไปแล้ว ฟากโบรกฯ เองได้กำหนดราคาเป้าหมายไว้สูงเกิน 50 บาท อัพไซด์บานทะลัก เมื่อเทียบกับราคาในกระดานที่ซื้อขายล่าสุดเพียง 25 บาท เท่านั้น

* หุ้น MTLS เมื่อวานปิดการซื้อขายอยู่ที่ 20.20 บาท ปรับลงไปกว่า 2% แหม เจอภาวะตลาดหุ้นรูดขนาดนี้เป็นใครก็ต้านไม่ไหว

* แต่งานนี้มีจุดให้สังเกตอยู่อย่างนะ เมื่อวานช่วงตลาดยังไม่เป๋มาก MTLS วิ่งขึ้นไปทำราคาสูงสุดของวันที่ 21.30 บาท เลยทีเดียวแหละ

* สะท้อนให้เห็นว่า “เมืองไทย ลิสซิ่ง” ยังพร้อมวิ่งแรงได้เสมอ ขณะที่ล่าสุด ไหลกลับมาอยู่ใกล้ฐานแนวรับสำคัญพอดี ถือเป็นโอกาสให้เข้าลงทุนได้อีกรอบ

* หุ้น BDMS ช่วงที่ผ่านมา พลาดท่าเสียทีให้กับ BH กันไปพอควร เพราะ BH วิ่งขึ้นกันแบบนอนสต็อป สวนทางกับ BDMS ที่ติดแหงกอยู่กับที่ เพราะโดนปัจจัยด้านผลการดำเนินงานชะลอตัวกดดัน

* แต่ล่าสุด BDMS เริ่มได้ข่าวดีกันแล้ว เพราะหลังจากจัดประชุมนักวิเคราะห์ ส่วนใหญ่ล้วนมองเชิงบวกทั้งสิ้น

* ที่สำคัญพลิกกลับมาเลือกให้ BDMS ขึ้นรับตำแหน่ง TOPPICK” กลุ่มโรงพยาบาลอีกรอบ แบบนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา

* จุดหลักที่ BDMS กลับมาน่าสนใจ อยู่ที่ตัวผลการดำเนินงานเริ่มทยอยดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะงวดไตรมาส 4 อาจจะเติบโตดีกว่าอุตสาหกรรมด้วยซ้ำไป

* ที่ผ่านมา ราคาหุ้น BDMS ยังช้ากว่าเพื่อนในกลุ่ม มีข่าวดีซ่อนขนาดนี้ ไม่แปลกใจแล้วละทำไมผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทถึงไล่ช้อนเก็บ BDMS ทุกราคา

* ปิดท้ายด้วยหุ้นน้องใหม่  “ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ หรือ TACC” เข้าเทรดวันแรกแม้ต้องเผชิญกับภาวะกระดานแดง แต่ยังคงรักษาให้ราคาหุ้นยืนเหนือจองได้สบาย * โดย TACC ทำราคาเปิด 3.88 บาท จากนั้นไล่ขึ้นไปซื้อขายด้วยราคาเหนือระดับ 4 บาท

* สุดท้ายปิดการซื้อขายที่ 3.60 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 25% จากราคาเสนอขายไอพีโอ 2.88 บาท งานนี้ ขอแสดงความยินดีกับนักลงทุนที่สามารถคว้าหุ้นไอพีโอไปครอบครอง จนได้รับกำไรไปถ้วนหน้า

Back to top button